เพื่อไทยฟัดกันนัว จี้คนทางไกลเคลียร์สถานการณ์


เพิ่มเพื่อน    

 

           ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ 6 รัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จบลง ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรี ยังได้รับความไว้วางใจ เอาตัวรอดจากศึกในสภาไปได้

                ส่วนศึกนอกสภากำลังเผชิญกับภาวะแฟลซม็อบ กลุ่มนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยกำลังลุกฮือ ยังต้องลุ้นกันเหนื่อย เฉกเช่นเดียวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ที่คงยากต่อการควบคุม ไม่เหมือนการคุมเสียงในสภา แต่ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย ยังอีนุงตุงนัง เปิดศึกกันเองทั้งในสภา นอกสภา ตกอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง โคมา เจอปัญหาสารพัดรุมเร้า

                1.ก่อนศึกซักฟอก

                จาก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก่อนอภิปราย พรรคเศรษฐกิจใหม่ถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน เหลือเพียง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เพียงคนเดียวที่ยังปักหลักกอดคอไปกับเพื่อไทย

                ในพรรคเพื่อไทย สองขั้วอำนาจประสานการทำงานไม่ลงตัว คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สหายใหญ่-ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นแกนนำ แท็กทีมกับคณะทำงาน กำหนดหัวข้อ ประเด็นรัฐมนตรีที่สมควรถูกอภิปราย อีกฝั่ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ หญิงหน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นั่งหัวโต๊ะ มีความเห็นไปอีกแบบ 

                กระแสข่าวดีลลับที่มาจากบิ๊กๆ ในรัฐบาลเจรจากับ บิ๊กเพื่อไทย ขอถอนชื่อถูกซักฟอกแลกเปลี่ยนกับโครงการ ปัจจัยกระสุนดินดำมหาศาล ขณะเดียวกันมีข่าวลือคนในฝั่งเจ้าสัวใหญ่ส่งตัวแทนมาเจรจา เป่าข้อมูลให้หายไป-เบาลง

                2.ระหว่างศึกซักฟอก

                เพียงแค่เปิดอภิปรายวันแรก แนวร่วมในสภา นอกสภา ส่ายหน้าผิดหวัง โจ้-ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่สมราคา ‘มีหลักฐานเด็ด-ใบเสร็จมัด’ เอาเข้าจริง ไม่ลงลึกขยายความในรายละเอียด กลายเป็นเรื่องควรพูดไม่พูด เรื่องไม่ควรพูดกลับนำมาพูด ส.ส.เพื่อไทยโดนหางเลข รับโทรศัพท์ผู้สนับสนุนตั้งปมข้อสังเกต มูลเหตุปัจจัยยุทธพงศ์อภิปรายผิดฟอร์มไปมาก

                ว่ากันว่า หลังวันแรกจบไม่สวย คนทางไกลต่อสายตรงเจ้าแม่เมืองหลวงให้เข้ามาช่วยแก้ไข ด้วยเวลาจำกัด เงื่อนไขทางหน้างานบีบรัด ทำได้เพียงแค่ปะผุ พอถูๆ ไถๆ  แก้ผ้าเอาหน้ารอด ไม้หนึ่ง-ยุทธพงศ์ไม่ได้ดั่งใจ เลยต้องส่งต่อให้ไม้สอง เฮียหนวด-ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พุ่งเป้าโจมตีบริษัทยักษ์ใหญ่ บุหรี่นอก การต่ออายุสัญญาสัมปทานศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พี่น้อง 3 ป. การจัดซื้อรถถังยูเครน

                ยังมีเสียงวิพาษ์วิจารณ์ ยามแตะไปถึงบิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลุกขึ้นตอบอย่าง ฉะฉาน โต้กลับทุกประเด็น ตารางชาร์ตลงในรายละเอียดได้แม้แต่ในหน่วยของจุดทศนิยม คนกันเองไล่เช็กข้อมูล เทน้ำหนัก ‘ข้อสอบรั่ว’ สืบไปสืบมาเห็นจิ๊กซอว์โยงใยให้เห็นถึงที่มาที่ไป ว่ากันว่ารู้แม้กระทั่งตัวย่อคนสนิทเจ้าสัวคนดัง ทำอะไร ที่ไหน จากไหนไปถึงไหน ทว่าได้แต่กลืนเลือด กัดฟันก้มหน้า เพราะหากเปิดออกไป ‘พังกันทั้งพรรค’ 

                ฝั่งเฮียพงษ์-สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พี่ใหญ่มากคอนเน็กชั่น พรรคพวกซีกรัฐบาล ฝ่ายค้าน รู้จักกันหมด งานนี้อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พยายามประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นแต่ละวัน ยากลำบาก ในฐานะคนกลางคอยรับข้อมูล เสียงท้วงติงทั้งจากอนาคตใหม่ คนในเพื่อไทย ตกอยู่ในภาวะตึงเครียดไม่น้อยกว่าคนอื่นๆ

                3.หลังจบศึกอภิปราย

                ยังไม่ทันได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. อดีตพรรคอนาคตใหม่ โยนระเบิดใส่เพื่อไทยทันที ‘ไม่รักษากติกาและรักษาวินัยในการใช้เวลา ทำให้สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่เหลือไม่มีโอกาสอภิปราย ปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจคนแรกก็คือนายกฯ ลำดับถัดมาก็ควรเป็น พล.อ.ประวิตรและนายวิษณุ แต่กลับนำเอารัฐมนตรีคนอื่นขึ้นมาก่อน และปิดท้ายด้วย พล.อ.ประวิตร ไม่อยากจะคิดว่ามันมีเงื่อนงำในการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านบางพรรคหรือไม่’

                สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ระบุชัดเจนถึงเหตุที่ไม่ได้อยู่ร่วมโหวตรัฐมนตรีว่า ‘คืนวันที่ 27 ก.พ. มีมติที่จะไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมและร่วมลงมติ พอเช้าวันที่ 28 ก.พ. กลับไลน์มาแจ้งใหม่ว่า ส.ส.ท่านใดที่ประสงค์อยากจะร่วมประชุมสภา ก็กลับมาร่วมได้ตามสะดวก ซึ่งตนเองก็เป็นคนซื่อ แจ้งให้กลับก็กลับ พอถึงเวลามาพูดกลับไปกลับมาแบบนี้ ไม่ใช่คนหนึ่งพูดอย่างนี้ คนนี้พูดอย่างนั้น ไม่รู้ว่าต้องฟังใคร’

                ในวันประชุม ส.ส.เพื่อไทย เมื่อ 3 มี.ค. ควันหลงซักฟอกกันเองตามมาอีกระลอก ส.ส.หลายคนคว้าไมค์วิพากษ์วิจารณ์ทีมงานอภิปรายไม่ไว้วางใจรายบุคคล

                ‘…อยากให้ไปย้อนดูการอภิปรายในสมัยพรรคไทยรักไทย เขาทำกันอย่างไร ของเราเนื้อหาก็ดี แต่ presentation (นำเสนอ) ห่วยแตก อนาคตใหม่เนื้อหาไม่เท่าไหร่ แต่เขาพรีเซนต์ดี ทำเป็นเรื่องๆ เป็นข้อมูล มีการหาข้อมูล แต่ของเราเอามาจากอินเทอร์เน็ตบ้าง อิศราบ้าง วิกิพีเดียบ้าง ใครก็รู้ ข้อมูลเป็น 10 ปีแล้ว’

                ‘ก่อนอภิปรายครั้งนี้เละไปหมด มีทั้งทีมยุทธศาสตร์ ทีมกิจการพิเศษ ทีมหัวหน้าสมพงษ์ คนนึงพูดอย่าง คนนึงจะเอาอีกอย่าง ไม่รู้จะฟังใคร การเลือกคน จัดคิวเวลาอภิปราย ก็มีเพียงแค่ไม่กี่คน ขนาดใกล้วันอภิปรายแล้ว  ส.ส.บางคนยังไม่รู้เรื่องเลยว่าจะอภิปรายใคร เพื่อน ส.ส.บางคนที่มีข้อมูล ก็เลยไม่รู้จะเอาข้อมูลไปให้ใคร’

                ส.ส.เพื่อไทยเบรกแตกใส่ไม่ยั้ง มองในแง่ร้าย เพื่อไทยง่อนแง่น ขาดเอกภาพอย่างหนัก ส.ส.หาหัวไม่เจอ ไม่รู้ต้องฟังใคร แต่ถ้ามองในแง่ดี ถือเป็นการเปิดช่องให้คนกันเองได้ระบาย ทีมงานที่เกี่ยวข้องจะได้นำไปเป็นบทเรียน ปรับปรุง แก้ไขไม่ให้เกิดอีก

                ท่ามกลางเสียงเรียกร้องคนในพรรคอยากให้คนทางไกลเข้ามาเคลียร์สถานการณ์ ศึกใหญ่ เรื่องใด ชี้ให้ชัด คนถือธงนำ (ต้อง) มีเพียงหนึ่งเดียว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"