ไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อ ประกาศถอนตัวจากการสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐแล้วเมื่อวันพุธ โดยตัดสินใจสนับสนุนโจ ไบเดน แทน ภายหลังไม่ชนะรัฐใดเลยในการหยั่งเสียงซูเปอร์ทิวส์เดย์ทั้งที่ทุ่มเงินโฆษณาหาเสียงมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์
ไมค์ บลูมเบิร์ก กล่าวกับผู้สนับสนุนและทีมงานหาเสียงเมื่อวันพุธ
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม กล่าวว่า บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กวัย 78 ปี เพิ่งเข้าสู่สนามแข่งขันการหยั่งเสียงของพรรคเดโมแครตได้เพียง 3 เดือน โดยไม่ได้เข้าร่วมการหยั่งเสียง 4 รัฐแรก และเทเดิมพันกับการหยั่งเสียงพร้อมกัน 14 รัฐของพรรคเดโมแครตในวันซูเปอร์ทิวส์เดย์ อังคารที่ผ่านมา แต่ผลคะแนนที่ออกมาปรากฏว่าเขาไม่สามารถชนะรัฐใดเลย ทำให้เขาตัดสินใจถอนตัวเมื่อวันพุธ
"สามเดือนที่แล้ว ผมเข้าสู่สนามแข่งขันประธานาธิบดีเพื่อโค่นโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ผมกำลังออกจากการแข่งขันด้วยเหตุผลเดียวกัน คือเพื่อโค่นโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะสำหรับผมชัดเจนแล้วว่าการแข่งต่อไปจะยิ่งทำให้การบรรลุเป้าหมายนี้ยากยิ่งขึ้น" บลูมเบิร์กกล่าวในแถลงการณ์
อภิมหาเศรษฐีผู้นี้ใช้เงินไปมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่หมดไปกับการโฆษณาหาเสียง ซึ่งได้ผลกับการหยั่งเสียงที่ดินแดนอเมริกันซามัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่กับ 14 มลรัฐที่ลงคะแนนในวันเดียวกัน อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแนวโน้มชนะ 10 รัฐ ที่เหลือเป็นของ ส.ว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส
สถานีซีบีเอสประเมินว่า บลูมเบิร์ก ซึ่งสมัครเข้าสู่สนามแข่งขันของพรรคเมื่อเดือนพฤศจิกายนด้วยการประกาศตนว่าคือแคนดิเดตคนเดียวที่สามารถเอาชนะทรัมป์ได้ ใช้เงินไปราว 18 ล้านดอลลาร์ต่อผู้แทนลงคะแนนแต่ละคนที่เขาได้คะแนนเสียงมา การจะชนะได้เป็นตัวแทนของพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับทรัมป์ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ผู้สมัครต้องได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 1,991 คนเป็นอย่างน้อย ในการลงคะแนนเลือกตั้งของเดโมแครตในที่ประชุมแห่งชาติของพรรคเดือนกรกฎาคม
บลูมเบิร์กยังคงปล่อยโฆษณาหาเสียงทางเครือข่ายโทรทัศน์ใหญ่ๆ ของสหรัฐต่อไปภายหลังเขาประกาศถอนตัวแล้ว และประกาศสนับสนุนไบเดน ที่กลับมาเป็นตัวเต็งแทนที่แซนเดอร์ส โดยเขากล่าวว่าไบเดนคือแคนดิเดตที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะเอาชนะทรัมป์
ด้านทรัมป์ทวีตเยาะเย้ยคู่ปรับของเขาทันทีว่า "มินิไมค์ บลูมเบิร์ก เพิ่งถอนตัวจากการแข่งขันลงชิงประธานาธิบดี" มินิไมค์คือคำเรียกที่ทรัมป์ใช้ล้อบลูมเบิร์กที่เป็นคนร่างเล็ก และว่า เขาเคยเตือนบลูมเบิร์กไว้เมื่อนานมาแล้วว่าลงทุนลงแรงไปก็เสียเปล่า และน่าจะประหยัดเงินพันล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่แท้จริงไว้ได้ แต่ตอนนี้บลูมเบิร์กจะทุ่มเงินช่วยหาเสียงให้โจซึมเซา (ฉายาที่ทรัมป์ตั้งให้ไบเดน) เพื่อรักษาหน้า แต่จะไม่ได้ผล
ข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า ในคำประกาศสนับสนุนไบเดนเป็นประธานาธิบดีนั้น บลูมเบิร์กไม่ได้บอกชัดว่าเขาจะใช้เงินส่วนตัวของเขาช่วยเหลือไบเดนหรือไม่ แต่การที่เขาถอนตัวก็นับว่าเป็นการช่วยเหลืออดีตรองประธานาธิบดีผู้นี้ในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากทั้งสองมีฐานความนิยมจากกลุ่มสายกลางของพรรค
ขณะที่ ส.ว.แซนเดอร์สวัย 78 ที่ประกาศตัวเป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตยและได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นหนุ่มสาว พยายามแบ่งแยกความแตกต่างชัดเจนระหว่างตัวเขากับไบเดน โดยโจมตีไบเดนว่าในอดีตเคยสนับสนุนข้อตกลงการค้าที่ทำลายเขตมิดเวสต์, ลงมติเห็นชอบการทำสงครามอิรักและกฎหมายล้มละลาย แซนเดอร์สกำลังลุ้นว่า ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน วัย 70 จะถอนตัวอีกคนหรือไม่ โดยหวังว่าฐานเสียงฝ่ายเสรีนิยมของเธอจะหันมาสนับสนุนเขาด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |