จับตาบทบาทของ 'ต๋อม ชัยธวัช' จาก 'มันสมอง' สู่ 'หน้าฉาก' เต็มตัว


เพิ่มเพื่อน    

               จากประเด็นการยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้จะได้ใจฝ่ายที่ยืนตรงข้าม แบบที่เรียกได้ว่าสะใจสุดๆ แต่อีกทางหนึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลกำลังสร้าง “แนวรบ” เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น การยุบพรรคที่มีอายุ 508 วัน ทำให้เกิดการ “แยกออก” ของกลุ่มต้านคล้ายกับกระบวนการ Fragmentation ของปลาดาว ที่ส่วนที่แยกออกไปสามารถเจริญทดแทน

                และดูเหมือนว่าจะแข็งแรงกว่าส่วนที่ยังเหลืออยู่เดิมเสียด้วย แต่ที่ต่างกันคือ ส่วนดังกล่าวเกิดจาก ”กระบวนการยุติธรรม” เป็นส่วนที่ทำให้เกิด หาใช่สิ่งที่เกิดขึ้นธรรมชาติแต่อย่างใด และแนวรบดังกล่าวเป็นแนวรบที่จะใช้ไม้เดิมๆ เอาผิดไม่ได้เสียด้วย หรือถ้าจะใช้ "ไม้แข็ง" จัดการ ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นการสุมไฟให้ร้อนแรงขึ้นไปอีก

                เท่ากับว่านอกจาก “แนวรบในสภา” ที่แม้จะอ่อนแอลง ภายใต้การนำของ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักธุรกิจหนุ่มหน้ามน ที่จะมีการเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มี.ค.นี้

                “แนวรบนอกสภา” ภายใต้ชื่อ “คณะอนาคตใหม่” เองจะสามารถใช้ ยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน-ร่วมกันตี” ได้อย่างมีความชอบธรรม ในเมื่อกรรมการบริหารพรรคทั้ง 11 คนถูกเด้งออกจากสภา พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีก 10 ปี เท่ากับ ว่าจากนี้ทั้ง 2 ขาของพวกเขาสามารถก้าวลงถนนได้อย่างเต็มตัวแบบไม่เคอะเขินอีกต่อไป

                เมื่อบวกกับปรากฏการณ์แฟลชม็อบ จากนักศึกษามหาวิทยาลัยแทบจะทั่วประเทศด้วยแล้ว เท่ากับว่าจากนี้ “การเมืองนอกสภา” จะเป็น “แรงขับสำคัญ” ในการกะเทาะเปลือกรัฐบาลเชียงกง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดการ “เปลี่ยนรูปแบบ” ตอนไหน ซึ่งช่วงเวลาการ “เพาะบ่ม” คือสิ่งสำคัญ

                เพราะร้อยทั้งร้อย อย่างไรเสีย “คณะอนาคตใหม่” ก็ต้องโดดไปร่วมแจมกับบรรดา นศ.อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าพวกเขาจะประเมินว่าช่วงเวลาใดนั้น ถือว่า “สุกงอม” ที่สุดที่จะตัดสินใจแบบนั้น หลังก่อนหน้านี้มี ส.ส.บางคนของพรรคพยายามเรียกร้องความช่วยเหลือในการชุมนุมของนักศึกษากันบ้างแล้ว ทั้งการขอ สนับสนุนเสบียงให้กลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุม

                แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่าคือ การปรากฏตัวขึ้นมาของ “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธร อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และอดีตผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคบนหน้าฉาก ที่ถูกกะเก็งกันว่า เขาคนนี้จะขึ้นมานั่งในตำแหน่ง “เลขาธิการพรรคก้าวไกล”

                หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวทำงานเป็น “มันสมอง” ของพรรคอนาคตใหม่เบื้องหลังมาโดยตลอด และถูกยกให้เป็น  "เสนาธิการใหญ่" ของพรรคส้ม ทั้งการเป็นหัวหอกสำคัญในการวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และเป็นคนคุมสำนักงานพรรคทั่วประเทศ ทำให้มี ส.ส.และอดีตผู้สมัครบางส่วนเกิดความกินแหนงแคลงใจจากการที่ไม่ได้รับอิสระในการทำพื้นที่ จนนำไปสู่รอยร้าวมาแล้ว

                อดีตนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รหัส 39 คนนี้เป็นส่วนสำคัญนับแต่การก่อร่างสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้น ในช่วงกลางปี 2561 โดยความสัมพันธ์ส่วนตัว เจ้าตัวเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของธนาธร ที่เคยเคลื่อนไหวนาม “สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” (สนนท.) และเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สนนท. ในปี 2541

                ขณะที่นายธนาธร เคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สนนท. ในปี 2543 โดยผู้ที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการในปีนั้นคือ “ติ่ง” ศรายุทธ ใจหลัก อดีตผู้อำนวยการพรรคอนาคตใหม่ ที่ปัจจุบันก็ยังคงทำงานอยู่ แต่ยังไม่เคยออกมาหน้าฉากเท่านั้น  และทั้ง 3 คน คือ กลุ่มที่ทำคลอด “นิตยสารฟ้าเดียวกัน”  นอกจากนี้ในการประชุมกับพรรคร่วม หรือการออกงานอีเวนต์เบื้องหลัง-การนัดคุยล็อบบี้ เรื่องต่างๆ ก็มักจะปรากฏภาพของเจ้าตัวอยู่เสมอๆ และหลายๆ การตัดสินใจครั้งสำคัญ ว่าจะทำหรือไม่ทำนั้น ก็ต้องมาจากมีส่วนมาจากอดีตรองเลขาธิการพรรคคนนี้ด้วยเช่นกัน

                ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ชัยธวัชโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยตอนหนึ่งระบุว่า

                “ขึ้นปีใหม่ 2561 เราตัดสินใจเด็ดขาดว่า เป็นไงเป็นกันและจะไม่หันหลังกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... อย่างน้อยเมื่อเวลาผ่านพ้นไป เราจะได้ไม่เสียใจว่า ทำไมวันนั้นถึงไม่ตัดสินใจทำ

                แม้เมื่อวานพวกเขาจะใช้อำนาจยุบพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว แต่สองปีกว่าของการเดินทาง “บทแรก” ยังยืนยันว่า ไม่เคยเสียใจ ไม่หันหลังกลับ และไม่คิดว่าพวกเรากำลังถอยหลัง

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบสองวันนี้ กลับยิ่งทำให้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการเปลี่ยนแปลง... มาเริ่มต้น “บทที่สอง” ไปด้วยกันครับ”

                ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลง “บทที่สอง” ที่เจ้าตัวพูดถึง นั้นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงไปถึงระดับที่กว้างขวางแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ต่อจากนี้ สังคมจะได้รู้จักกับชื่อ “ชัยธวัช ตุลาธน” ในฐานะ “ตัวแสดงหลัก” กับบทบาทใหม่มากกว่าที่ผ่านมา หลังวันที่ 8 มี.ค.นี้อย่างแน่นอน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"