คนคุ้นๆ กันทั้งนั้น...ตกลงใครหักหลังใคร?
เห็นป้ายหน้าร้านอาหารแห่งนี้กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์แล้วก็อดขำไม่ได้
อาจจะเป็นอารมณ์ขันหรืออารมณ์ประชดประชันก็ได้
ผมชอบที่คุณ “ปรางทิพย์ ดาวเรือง” นักข่าวนักวิจัยนักวิเคราะห์คนไทยที่ปักหลักอยู่ที่เมืองหลวงมาเลเซียมาช้านาน เอารูปนี้ขึ้นในหน้าเฟซบุ๊กพร้อมอธิบายอย่างนี้
มาเลเซีย : รัฐบาลประตูหลัง
'Back-door government' แปลตามตัวว่า 'รัฐบาลประตูหลัง' หมายถึงรัฐบาลที่มาจากการเล่นเกมของชนชั้นนำ หาใช่จากเสียงประชาชน คือฉายาของรัฐบาล อัมโน-พาส-เบอร์ซาตู-อัสมิน
"เพื่อเป็นการฉลองรัฐบาลประตูหลัง โปรดเข้าประตูหลังในวันนี้"
ข้อความบนป้ายประกาศเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนหน้าร้านนิรนามกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์แห่งหนึ่งกล่าว
แม้ มูห์ยิดดิน ยัสซิน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ คนที่ 8 ของมาเลเซียแล้วก็ตาม แต่ความวุ่นวายยังไม่จบ
เพราะการต่อสู้ระหว่างกลุ่มการเมืองที่สนับสนุน มหาธีร์ โมหะหมัด และกลุ่มที่พยายามดิ้นรนให้ อันวาร์ อิบราฮิม ได้ตำแหน่งนี้จะพยายามเล่นทุกเกมเพื่อจะคว่ำมูห์ยิดดินจงได้
มหาธีร์ประกาศว่า มูห์ยิดดิน “หักหลัก” เขา และยืนยันว่าเขามีเสียงสนับสนุนในสภาอย่างน้อย 114 เสียง (เกินครึ่งที่ 111 แล้ว)
นั่นแปลว่ากลุ่มมหาธีร์กับอันวาร์อาจจะรวมตัวกันในฐานะฝ่ายค้านเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ คนใหม่ทันทีที่เข้าประจำการทำหน้าที่เป็นรัฐบาลก็ได้
คนมาเลเซียจำนวนไม่น้อยมีความโกรธที่นายกฯ คนใหม่ดึงพรรคอัมโน ซึ่งเปื้อนมลทินกรณีกองทุน 1MDB เข้าร่วมรัฐบาล
ทำให้เกิดความคลางแคลงว่ารัฐบาลใหม่อาจจะหาทางช่วยเหลืออดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค ให้พ้นจากข้อหาคอร์รัปชันอันมโหฬารก็เป็นได้
นั่นย่อมแปลว่าความฝันของคนมาเลเซียที่ไปลงคะแนนเสียงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 โค่นนาจิบลงจนกลายเป็นประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศนั้นกำลังจะกลายเป็นฝันร้าย
เพราะทุกอย่างดูเหมือนกำลังจะกลับไปสู่ที่เดิม
มูห์ยิดดินกำลังเผชิญกระแสท้าทายถึง “ความชอบธรรม”
ชาวมาเลเซียเริ่มจับตาว่า ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ การดำเนินคดีอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค จะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้นจริง หรือถ้ามีสัญญาณว่ากระบวนการยุติธรรมกำลังจะบูดเบี้ยว ผู้คนอาจจะออกมาประท้วงครั้งใหญ่อีกหน
ที่แน่ๆ คือการเมืองมาเลเซียไม่ต่างอะไรกับ “ละครน้ำเน่า” และพันธมิตร ‘ปากาตัน ฮาราปัน’ หรือ ‘พันธมิตรแห่งความหวัง’ ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2018 นั้นมีอันต้องล่มสลายเมื่อมี “งูเห่า” จำนวนหนึ่งแยกตัวออกไปจับมือกับฝ่ายค้านคือ UMNO และ PAD
คนที่นำทีมแยกตัวออกจากพรรค PKR ของอันวาร์ก็คือมือขวาของตัวเอง อัสมิน อาลี (มีตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจด้วย) ซึ่งดึงเอา ส.ส.อีก 10 คนออกไปจับมือกับฝ่ายค้านเพื่อตั้ง “รัฐบาลหลังบ้าน”
คนที่แยกออกจากมหาธีร์ก็คือมือขวาของเขาในพรรคเบอร์ซาตูนั่นเอง
เขาคือ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ซึ่งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยที่ไปจับมือกับ UMNO และ PAS เพื่อตั้งรัฐบาลผสมใหม่ ไม่เอาทั้งมหาธีร์และอันวาร์
มหาธีร์แก้เกมตอนแรกด้วยการเสนอให้มีการจัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” โดยตัวเองเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตั้งรัฐมนตรีโดยไม่แยกตามโควตาพรรคการเมือง มุ่ง “ทำเพื่อประโยชน์ของชาติ”
แต่ไม่มีใครเอาด้วย อ้างว่าผิดรัฐธรรมนูญ
ท้ายสุด สมเด็จพระราชาธิบดีโปรดเกล้าฯ ให้มูห์ยิดดินเป็นนายกฯ เพราะมีเสียงสนับสนุนข้างมาก ท่ามกลางความชุลมุนของกลุ่มการเมืองที่วิ่งเต้นล็อบบี้กันจนนาทีสุดท้าย
มหาธีร์แถลงว่า “เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ฝ่ายแพ้ได้จัดตั้งรัฐบาล ฝ่ายชนะกลายเป็นฝ่ายค้าน นี่ไม่หลงเหลือความเป็นนิติรัฐอีกต่อไปแล้ว”
หนึ่งในกระแสไม่ยอมรับมูห์ยิดดินมีให้เห็นในแฮชแท็ก #NotMyPM ติดเทรนด์บนทวิตเตอร์
กว่า 100,000 คนเข้าชื่อกันประท้วงการตั้งมูห์ยิดดินเป็นนายกฯ ถือว่าเป็นการ “ทรยศ” ต่อมติมหาชน
ประเด็นที่ต้องจับตาคือ
นายกฯ คนใหม่มีเสียงสนับสนุนในสภามากพอหรือไม่
ถ้า “ปริ่มน้ำ” รัฐบาลของเขาจะมีอายุยืนยาวแค่ไหน
เขาจะช่วยอดีตนายกฯ นาจิบ เพราะต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากพรรค UMNO หรือไม่
เขาจะสร้างความแตกแยกในสังคมมาเลเซีย เพราะนโยบายชาตินิยมหรือไม่
มูห์ยิดดินเคยลั่นวาจาว่า “ก่อนอื่น ผมเป็นมลายู รองลงไป ผมเป็นชาวมาเลเซีย”
จุดยืนอย่างนี้จะสร้างความร้าวฉานระหว่างคนมาเลย์กับคนจีนอินเดียอย่างที่เคยเกิดมาแล้วหรือไม่
การเมืองมาเลเซียกำลังเข้าสู่วังวนแห่งความขัดแย้งอีกรอบแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |