สังคมแตกตื่น ผีน้อยกลับไทยไม่ยอมกักตัวดูอาการ 14 วัน แต่ออกไปเริงสำราญ ที่เชียงรายโพสต์ภาพกินหมูกระทะ ทางร้านรู้เรื่องแจ้งปิด 1 วันเพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับที่เชียงใหม่ ร้านหม่าล่าชื่อดังรีบพ่นยาฆ่าเชื้อ ส่วนภูเก็ตก็ป่วนไม่น้อย กรมควบคุมโรคเตรียมใช้กฎหมายบังคับ
ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า พบผีน้อยแรงงานไทยพิกัดจากประเทศเกาหลีใต้ เดินทางกลับมาที่จังหวัดเชียงรายแล้วพาครอบครัวมากินหมูกระทะอย่างไม่สนใจ ไม่แคร์สังคม ไม่ยอมกักตัวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ตามที่ทางการขอไว้ พร้อมแคปภาพหน้าจอของผีน้อยคนหนึ่งที่โพสต์ข้อความและรูปภาพมากินหมูกระทะที่ร้านเวียงหลวงหมูกระทะแอนด์ซีฟู้ด ถนนสันโค้งหลวง เขตเทศบาลนครเชียงราย เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดความกังวลแก่ชาวเชียงรายไม่น้อย
ต่อมาทางร้านหมู่กระทะดังกล่าวได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่า หลังทราบเรื่องนี้ก็ขอประกาศปิดปรับปรุงร้านทันที เพื่อที่จะทำความสะอาดครั้งใหญ่ และพร้อมที่จะส่งพนักงานทุกคนไปเข้ากระบวนการฆ่าเชื้อโรคตามขั้นตอนของทางราชการทุกอย่าง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า
นายวัชชรินทร์ น้อยพุฒ ผู้ดูแลร้านหมูกระทะเวียงหลวง เปิดเผยว่า เพิ่งทราบข่าวจากเพื่อนว่ามีกลุ่มแรงงานที่กลับจากเกาหลีใต้เดินทางมาใช้บริการที่ร้าน พอทราบข่าวก็ได้เรียกประชุมทีมงานที่ร้านและพร้อมปิดร้านในวันที่ 5 มีนาคมนี้ เพื่อที่จะทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม และจะส่งพนักงานไปตรวจหาเชื้อไวรัสหากจำเป็น ขณะเดียวกันก็อยากให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ไม่ควรมาสร้างความวุ่นวายแบบนี้
มีรายงานต่อมาว่า มีผู้แสดงตัวเป็นลูกค้าที่ถูกอ้างถึง ติดต่อไปยังร้านหมูกระทะ ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมชี้แจงว่าก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย ได้ผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อย่างละเอียดแล้ว และไม่ได้ป่วยเป็นโรคไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด กระนั้นก็ตาม ทางร้านยืนยันที่จะทำความสะอาดร้าน เพื่อความมั่นใจของลูกค้า
มีความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ที่ได้เดินทางไปร่วมตรวจการทำความสะอาดของทางร้าน พร้อมทั้งได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เข้ามาใช้บริการก่อนจะนำไปเข้าที่ประชุมเพื่อหามาตรการและข้อกำหนด เพื่อประกาศให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค.นี้ โดยจะแถลงข่าวร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
ยังมีประเด็นคล้ายกันที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กว่า บินกลับจากสนามบินอินซอน ประเทศเกาหลีใต้ มาถึงเชียงใหม่ "ฆ่าเชื้อโคโรนาหน่อย" พร้อมภาพนั่งกินหม่าล่าร้านชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ และเที่ยวผับต่อ
ข่าวแจ้งว่า ร้านดังกล่าวคือร้านหม่าล่าฟังกี้ ซึ่งเมื่อกลางดึกวันเดียวกันหลังผู้บริหารร้านรู้ข่าว ก็ได้นำพนักงานทำความสะอาดร้านทันที จากนั้นในวันที่ 5 มี.ค. ก็ได้เรียกประชุมพนักงานเพื่อพ่นยาฆ่าเชื้ออีกครั้ง พร้อมกับจะแจ้งประชาสัมพันธ์หน้าเพจหม่าล่าฟังกี้กริลล์อีกทางหนึ่ง
ที่ภูเก็ต มีหญิงไทยรายหนึ่งโพสต์ระบุว่า ตนเองเพิ่งกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ และไม่ได้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วันตามมาตรการของทางการ แต่ได้ใช้ชีวิตตามปกติ แวะร้านอาหารกับเพื่อนย่านบางกะปิ เยี่ยมญาติย่านสะพานควาย กทม. ก่อนจะพาครอบครัวตะลอนไปทานตามร้านอาหารทั่วเกาะภูเก็ต และมีการไปพบปะบรรดาญาติทั้งเด็กและผู้สูงวัย ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์แสดงความกังวลกว้างขวาง
ต่อมา สาวรายดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ชะเอม ปานภักดี" ระบุข้อความว่า "ขอชี้แจงนะคะ 2 ข้อ เรื่องผีน้อย ..... ไม่ได้เป็นผีน้อยค่ะ ไปอยู่แบบถูกกฎหมายทุกอย่างค่ะ เรื่องกักตัว ..... ก่อนกลับมาไทยได้กักตัวเองอยู่ที่ห้องมาแล้วนะคะ มีออกไปกินข้าวบ้าง แต่ใส่แมสตลอด กลับมาไทย ได้ใส่แมสแบบป้องกันอย่างดี พกเจลล้างมือติดตัวตลอด ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีค่ะ ถึงสนามบินได้คัดกรองเรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ มีการวัดไข้ และตอนนี้ก็ผ่านมา 10 วันแล้วนะคะ แต่ในส่วนที่กลับมาไทยแล้วไม่ได้กักตัว 14 วัน ในส่วนนี้ต้องขอโทษจากใจจริงๆ ค่ะ .... ที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ หลังจากนี้จะกักตัวแล้วทำตามขั้นตอนทุกอย่างนะคะ และหลังจากครบ14 วันจะเข้าไปหาหน่วยงานตรวจร่างกายอีกครั้งค่ะ.....เข้าใจทุกคนค่ะ สุดท้ายนี้ขอให้คนแชร์โพสต์กรองข่าวก่อนโพสต์ด้วยนะคะ คนรอบข้างที่โดนแชร์เขาเสียหายไปด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ"
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมยกระดับการเฝ้าติดตามผู้ที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เฝ้าสังเกตอาการอยู่ในที่พักหรือบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับมาก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมีข้อสั่งการ เนื่องจากพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวยังไปทำกิจกรรมทางสังคมในรูปแบบต่างๆ เช่น ทานอาหารนอกบ้าน หรือไปอยู่ในสถานที่ที่มีการรวมกันของผู้คนจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และจะมีการติดตาม หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายเช่นเดียวกับคนที่เดินทางตั้งแต่มีคำสั่ง
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีรายชื่อของผู้ที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ หากไม่ให้ความร่วมมือจะมีบทลงโทษหากฝ่าฝืนตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |