แฟ้มภาพ
27 มี.ค.61- ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บ.อิตาเลียนไทย จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วยนายยงค์ โดดเครือ นางนที เลียมแสน และนายธานี ทุมมาศ 4 ผู้ต้องหาในคดีล่าร่วมกันสัตว์สัตว์ป่าในอุทยานทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง หลังอัยการภาค 7 สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 เมื่อนายเปรมชัย มาถึง นายเปรมชัย ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯหัวหน้าชุดจับกุมก็เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกกันสอบปากคำ
ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ บก.ปทส. เพื่อตรวจสำนวนการให้ปากคำ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็แล้วเสร็จก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับทันที
ภายหลังสอบปากคำเสร็จ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกนายเปรมชัย เข้าให้การเพิ่มเติมตามที่พนักงานอัยการสั่ง เป็นการชี้แจงพฤติการณ์ให้ชัดเจนขึ้น โดยพฤติการณ์นี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งไปแล้วในชั้นรับตัวผู้ต้องหาครั้งแรก แต่ทางพนักงานอัยการ ขอให้ชี้แจงเพิ่มจึงได้เรียกมาสอบปากคำเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามบันทึกจับกุมของเดิม และกลุ่มนายเปรมชัย ได้เซ็นรับทราบไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรก
นอกจากประเด็นชี้แจงพฤติการณ์ของกลุ่มนายเปรมชัยแล้ว อัยการสั่งสอบเพิ่มคือ ประเด็นเรื่องร่องรอยบาดแผล ของเสือดำ ซึ่งได้ให้ทางกรมอุทยานและสพฐ. ตำรวจ ร่วมกันสรุปร่องรอยบาดแผล และที่เพิ่มมาคือเป็นส่วนของภาพถ่ายจำลองเสือดำ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะส่งให้ทางอัยการได้ก่อนเที่ยงพรุ่งนี้ ส่วนที่เชิญนายวิเชียร มาสอบปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องภาพถ่ายเสือดำ เป็นภาพจำลองของเสือดำ และจุดมาร์คบาดแผลร่องรอยของกระสุน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยต่อว่า ในส่วนของการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมดภาระไปตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพนักงานงานอัยการในขณะนี้เราปฏิบัติตามที่ทางอัยการสั่ง เป็นหนังสือ ส่วนทางอัยการจะสั่งสอบเพิ่มเติมอีกหรือไม่คิดแทนท่านไม่ได ้ แต่ถ้าได้รับคำสั่งมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะปฏิบัติตามทันที คราวที่แล้วอัยการสั่งวันที่ 20 มีนาคม เราก็สรุปส่งให้วันที่ 22 มีนาคม คราวนี้ท่านสั่งวันที่ 26 มีนาคม เราก็จะส่งให้ภายในวันที่ 28 มีนาคมนี้
เมื่อถามว่าสำนวนโดยเฉพาะเรื่องร่องรอยบาดแผลสมบูรณ์แล้วหรือไม่ รอง ผบ.ตร.ตอบว่า ส่วนพยานหลักฐานและร่องรอยบาดแผลที่ถูกยิงถ้าถามผมในนามของพนักงานสอบสวนเรามีความเห็นสั่งฟ้องไปทั้งหมด พนักงานสอบสวนเชื่อว่ากลุ่มนายเปรมชัยแบ่งหน้าที่กันทำโดยชัดเจน ในการกระทำความผิด สํานวนสมบูรณ์ 100% แล้วถึงส่งให้อัยการ แต่ทางอัยการก็แล้วแต่มุมมอง ท่านมีหน้าที่ในการฟ้อง ก็ต้องทำตามที่ท่านสั่งการ ส่วนการประเมินค่าเสียหาย จำนวน 12 ล้านบาท เป็นหน้าที่ของทางกรมอุทยาน ตำรวจทำเรื่องอาญา ค่าเสียหาย 12 ล้านบาท นั้นคือขั้นต่ำ โดยค่าเสียหายดังกล่าวยังไม่ได้รวมค่าเสียหายทางระบบนิเวศ และสัตว์ป่าทั้ง 3 ชนิดแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีผลงานวิจัย ทางวิชาการรองรับ
ส่วนคดี ครอบครองงาช้างอาวุธปืนและติดสินบนเจ้าพนักงาน ได้สั่งกำชับพนักงานสอบสวนให้สรุปส่งอัยการภายในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ส่วนกรณี การแจ้งเท็จเรื่องงาช้าง ต้องรอเจ้าหน้าที่กรมอุทยานมาแจ้ง ถ้าอุทยานไม่แจ้งเราก็จะสรุป ส่งภายในวันที่ 30 นี้ แต่จะแจ้งหรือไม่ต้องไปถามทางท่านอธิบดีกรมอุทยาน ถ้าจะมาแจ้งหลังวันที่ 30 มีนาคมก็ไม่เป็นไร รับเลขคดีใหม่ ทำสำนวนใหม่ส่งไปเพิ่มเติมไม่ใช่ปัญหา กระบวนการยุติธรรมเดินไปตามปวิอาญาอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
เมื่อถามถึงกรณีจะฟ้องผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและข้อสังเกตุต่างๆ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เผยว่า ผมไม่เคยพูด สื่อเอาไปลงเองเดี๋ยวก็จะเข้าตัว อ่านข่าวดูแล้วผมก็ตลกเอาไปเขียนกันเพ้อเจ้อ ผมไม่เคยพูดไปเปิดเทปอัดย้อนหลังดูก็ได้
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 มี.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจในการทำคดีดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่างตามพยานหลักฐาน และขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งอยากเตือนบุคคลตั้งข้อสงสัยการทำงานของตำรวจ ว่า การตั้งข้อสงสัยก็ควรให้อยู่ในขอบเขต มิฉะนั้นอาจจะถูกฟ้องกลับได้ และคิดว่าคนที่ตั้งข้อสงสัยคงว่างงาน จึงมีเวลามาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |