5 มี.ค.63 - ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำพิพากษา คดีทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนวนที่ 3 หมายเลขดำ อท.254/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพนม ศรศิลป์ อายุ 61 ปี อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.), นายบุญเลิศ โสภา อายุ 54 ปี อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา พศจ.ลำปาง, นายแก้ว ชิดตะขบ อายุ 54 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา, นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร อายุ 51 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา และพระพรหมดิลก หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อายุ 75 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา/กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)/เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ, ทำ, จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารฯ ทำการรับรองหลักฐานเป็นเท็จ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 162 ประกอบมาตรา 83, 86
กรณีกล่าวหาทุจริตการจัดสรรงบในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาประจำปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 26 พ.ย. 2546 - 15 ส.ค. 2557 โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2561 พร้อมระบุคำขอท้ายฟ้อง ขอให้ศาลสั่งจำเลยทั้งห้าร่วมกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. (ตัวยังหลบหนีคดี) ชดใช้เงิน 5 ล้านบาท คืนให้สำนักงาน พศ. และให้นับโทษอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยาในคดีฟอกเงิน หมายเลขดำ อท.196/2561 ด้วย
โดย พระพรหมดิลก หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา ได้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 2 ล้านบาท เดินทางมาศาล สวมชุดกางเกงขายาวเสื้อแขนสั้นสีขาว มีกลุ่มลูกศิษย์พระนับ 10 รูปและฆราวาสกว่า 10 คนมาร่วมให้กำลังใจฟังคำพิพากษา
ส่วนนายพนม อดีต ผอ.พศ.จำเลยที่ 1 และกลุ่มลูกน้องในสำนักงาน พศ.จำเลยที่ 2, 3, 4 ทั้งในส่วนที่ศาลไม่ให้ประกันตัว และไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอจะยื่นประกันตัว ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำและทัณฑสถานหญิงกลาง ศาลได้เบิกตัวจำเลยที่ 1-4 มาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลยที่ได้ทำการไต่สวนแล้ว เห็นว่า จำเลยที่ 1-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ให้จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ส่วน อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา จำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิด มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 จำคุก 1 ปีและปรับ 12,000 บาท โดยจำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีอยู่บ้างเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3, 4 คนละ 12 เดือน สำหรับจำเลยที่ 5 คงจำคุก 8 เดือนและปรับ 8,000 บาท
โดยในส่วนของอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา จำเลยที่ 5 นั้น ศาลเห็นว่า เคยประกอบคุณงามความดีในด้านพุทธศาสนา จบการศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย ทะนุบํารุงการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา อีกทั้งไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกนั้นจึงให้รอการลงโทษ (รอลงอาญา) ไว้มีกำหนด 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้เป็นเวลา 9 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา ที่ถูกกล่าวหาคดีร่วมกันฟอกเงิน 5 ล้านบาท จากการทุจริตงบประมาณ พศ. ในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ ในคดีหมายเลขดำ อท.196/2561 นั้น ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ได้มีคำพิพากษาลงโทษไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2562 ให้จำคุก 2 กระทง รวม 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีทุจริต จัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงาน พศ.สำนวนแรก ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ตัดสินนั้น คือคดีหมายเลขดำ อท.253/2561 กรณีเอาเงินงบประมาณ ของ พศ. ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินงบประมาณ ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม อดีต ผอ.พศ., นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ กองพุทธศาสนสถาน พศ., นายเจษฎา วงศ์เมฆ ฆราวาสติดต่อหาวัด, นายชรินทร์ มิ่งขวัญ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด จำเลยที่ 1-4 ที่ให้จำคุกตั้งแต่ 1 ปี 8 เดือน - 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 กับให้ร่วมชดใช้เงินจำนวน 12 ล้านบาทด้วย
สำนวนที่ 2 ร่วมอนุมัติเงินอุดหนุนที่อนุมัติโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม 37 ล้านบาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา จำนวน 32.5 ล้านบาท ประจำปีงบประมาณ 2559 ให้วัดสระเกศราชวรมหาวิหารเพียงแห่งเดียวโดยมิชอบ คดีหมายเลขดำ อท.251/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ยื่นฟ้อง นายพนม อดีต ผอ.พศ., นายชยพล พงษ์สีดา อายุ 64 ปี อดีตรอง ผอ.สำนักงาน พศ., นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อายุ 50 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา, พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือนายธงชัย สุขโข อายุ 64 ปี อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง/อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร/ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม จำเลยที่ 1-5 จำคุกตั้งแต่ 3 ปี - 3 ปี 18 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยส่วนของอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ศาลให้ปรับ 27,000 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ซึ่งทั้งสองคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
สำหรับกรณีกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินนั้น ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ตัดสินแล้วก็มี 2 สำนวน ประกอบด้วย 1.คดีหมายเลขดำ อท.38/2561 กล่าวหาฟอกเงินจากการที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 61 ปี อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. (ตัวยังหลบหนี) ทุจริตจัดสรรงบประมาณ 28 ล้านบาท ให้วัด 12 แห่งในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์, ตาก, นครสวรรค์, ชุมพร โดยมิชอบ ซึ่งศาลลงโทษจำคุกพระครูกิตติ พัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 56 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์/อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค รวม 13 กระทง เป็นเวลา 26 ปี คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยไม่ได้ประกันตัว
2.คดีหมายเลขดำ อท.196/2561 กล่าวหาฟอกเงินจำนวน 5 ล้านบาท ในงบส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ โดยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา นำงบที่ได้มานั้นไปใช้ก่อสร้างอาคารร่มธรรมแทน ทั้งที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินนั้นมาตั้งแต่แรก ศาลลงโทษ 2 กระทง พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อายุ 75 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา/เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จำคุก 6 ปี และพระอรรถกิจโสภณ หรือนายสมทรง อรรถกฤษณ อายุ 53 ปี อดีตเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ จำคุก 3 ปี คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 2 ล้านบาท
ขณะที่ วันที่ 19 พ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง กำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีกล่าวหาฟอกเงินทุจริตการจัดสรรงบประมาณ พศ.อีกสำนวน ที่อัยการ ยื่นฟ้องพระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือนายธงชัย สุขโข อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |