ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้มีการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน โดยเริ่มการประชุมตั้งแต่เวลา 11.00 น. เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมหน้ากากอนามัยเพิ่มเติม การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยของกรมการค้าภายใน และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย โดยหลังจากการประชุมผ่านไปกว่า 8 ชั่วโมง หรือจนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. การประชุมก็ยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งช่วงหนึ่ง นายจุรินทร์ ได้เดินออกมาแจ้งผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวหน้าห้องประชุมว่ายังไม่รู้การประชุมเสร็จเมื่อไร จึงขอเลื่อนการแถลงข่าวผลการประชุมครั้งนี้ไปเป็นวันที่ 5 มี.ค.2563 เวลา 11.00 น.แทน
ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการพิจารณามาตรการเพิ่มเติมที่จะนำมาใช้ควบคุมหน้ากากอนามัย โดยมาตรการที่จะนำมาใช้แน่นอน คือ การออกประกาศกำหนดให้ผู้ใดผู้หนึ่งที่มีหน้ากากอนามัยในครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนด จะต้องแจ้งปริมาณการครอบครองต่อกรมการค้าภายใน เพื่อป้องกันการกักตุน หากไม่แจ้งจะมีความผิดตามมาตรา 30 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่มีการหารือกันอย่างกว้างขวางว่าปริมาณเท่าไร จึงจะเหมาะสมสำหรับคนแต่ละกลุ่มที่มีหน้ากากอนามัยในครอบครอง เช่น สถานพยาบาล ร้านขายยา นิติบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายยา (ผู้ค้าทั่วไป) บุคคลธรรมดาที่เป็นพ่อค้าทั่วไป เป็นต้น
ส่วนมาตรการควบคุมที่จะนำมาใช้เพิ่มเติม ได้มีการหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะนำมาตรการคุมราคาจำหน่ายสูงสุดมาใช้ ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกันนานมาก เพราะหน้ากากอนามัยที่มีใช้ในไทย มีหลายชนิดมาก ทั้งหน้ากากอนามัยที่ใช้ป้องกันโรค หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยชนิดพิเศษที่ใช้ป้องกันสารเคมี วัตถุอันตราย หน้ากากอนามัยสำหรับใช้โรงงานอุตสาหกรรม โดยมีมากถึงประมาณ 70 เกรด และราคาขายแตกต่างกันไป จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าแต่ละชนิดจะคุมราคาขายสูงสุดที่เท่าไร หรือจะนำมาคุมราคาขายสูงสุดทั้ง 70 เกรดหรือไม่
สำหรับการจัดสรรหน้ากากอนามัยของศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเป็นผู้บริหารจัดการ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการหน้ากากอนามัยที่ผู้ผลิตทั้ง 11 รายจัดส่งเข้ามายังศูนย์ฯ เดือนละประมาณ 38 ล้านชิ้น โดยจะเน้นการจัดสรรให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ก่อน เช่น โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (กทม.) มหาวิทยาลัย องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลเอกชน เป็นต้น และจะกระจายสู่ประชาชนผ่านร้านสะดวกซื้อต่างๆ และร้านธงฟ้าทั่วประเทศ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |