แฟ้มภาพ
5 มี.ค.63 - นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้
การเอาชนะเผด็จการล้างมรดกบาปแผ่นดิน ด้วยพลังบริสุทธิ์ของนักเรียนนักศึกษาปัญญาชน
ต้องยอมรับความจริงว่าแนวรบในสภา ฝ่ายเผด็จการทรราชได้ใช้ลิ่วล้อบริวารในนามองค์กรอิสระและ กระบวนการยุติธรรมทำลายอย่างเป็นระบบมีขั้นตอนตามแผนยุทธศาสตร์ของเผด็จการจนง่อยเปลี้ยเสียขาไร้พลังที่จะโค่นเผด็จการ บรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการยกมือสนับสนุนไว้วางใจกันสลอน ไม่แคร์ต่อสายตาประชาชนแม้จะมีข้อมูล ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการทุจริต ประพฤติมิชอบ ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี
ในขณะเดียวกันก็ใช้เงินวิ่งซื้อขายตัวของสส ที่ไร้อุดมการณ์เพื่อเอามานับเป็นจำนวนตัวเลขเอาไว้ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อแย่งชิง กอบโกยผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองไปเป็นของตนเองและพวกพ้อง เป็นวงจรอุบาทว์อันเลวร้าย ตามที่ระบอบเผด็จการวางแผนไว้ผ่าน รัฐธรรมนูญเผด็จการคสชปี 60 ผ่านแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ผ่าน สว 250 คน ผ่านองค์กรอิสระกระบวนการยุติธรรมและองคาพยพที่แข็งแกร่ง
พรรคฝ่ายค้านจึงกลายเป็นเพียงคู่ซ้อมที่สร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้เท่านั้น
แต่แผ่นดินนี้ไม่สิ้นคนดี ยังมีผู้กล้า มีผู้รู้ มีผู้เสียสละที่ไม่ยอมจำนนต่อการกดขี่ข่มเหง ต่ออำนาจและผลประโยชน์ คือเหล่านักเรียน นิสิต นักศึกษา และปัญญาชนฝ่ายประชาธิปไตยสามารถรวมตัวกันได้ตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ทั้งของรัฐและเอกชนหลายสถาบันทั่วประเทศ เป็นพลังอันบริสุทธิ์ลุกขึ้นมาสู้กับเผด็จการเรียกร้องหลายประเด็นที่แหลมคม เช่น
1. ให้พลเอก ประยุทธ์ ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
2. ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมรดกบาปให้เป็นประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนโดยประชาชนและเพื่อประชาชน
3. ให้ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และสว 250 คน ที่แต่งตั้งโดยคณะคสช. ลาออก
4. ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนรรวมในการบริหารจัดการทรัพยากรชาติเพื่อประชาชน
แต่ละข้อเสนอ แต่ละข้อเรียกร้องมีเหตุผล มีน้ำหนัก มีความชอบธรรม ระบอบเผด็จการจึงหวาดกลัว ต่อนักเรียนนักศึกษาปัญญาชนผู้กล้าเหล่านี้และพยายามใช้ทุกวิถีทางย่อยสลายทำลายขบวนการนักเรียนนักศึกษาปัญญาชนให้ได้ตั้งแต่ไม้อ่อน จับกุม คุมขัง ถึงไม้แข็งสุด คือการสังหาร เช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 , 6 ตุลาคม 2519 ,พฤษภาคม 2535 , เมษา-พฤษภา 2553 เพื่อคงสถานะชนชั้นปกครอง กอบโกย กดขี่ประชาชนต่อไป
เพื่อนำเอาบทเรียนอดีตมาเป็นกรณีศึกษาให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ ให้ฝ่ายเผด็จการพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาดตลอดไป ในส่วนตัวเห็นว่า
1. สส ฝ่ายค้านทุกคนควรลาออกจากการเป็น สส. รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้จะหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไป เพราะทั่วโลกจะไม่ยอมรับ
2. พรรคฝ่ายค้านและมวลชนที่สนับสนุน ทั้งชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติภายใต้การบริหารรัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ ควรเดินหน้ากดดันให้รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของนักเรียนนักศึกษาปัญญาชนแบบ คู่ขนาน ด้วยความสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ
ท้ายสุดด้วยฝ่ายเผด็จการมีความเหี้ยมโหด เลือดเย็น ป่าเถื่อน และพร้อมที่จะใช้ทุกรูปแบบเพื่อให้ชนะ จึงอดที่จะฝากความห่วงใยถึงนักเรียนนิสิตนักศึกษาทุกคน ขอให้ยึดมั่นในหลักการ อย่าหวาดกลัว อย่าหวั่นไหวต่ออำนาจมืด อิทธิพลหรือผลประโยชน์ และรวมกันอย่างมีเอกภาพ อีกไม่นาน ชัยชนะจะเป็นของฝ่ายประชาธิปไตย
เผด็จการ จงพินาศประชาธิปไตย จงเจริญ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |