หลัง เสี่ยเอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และบรรดาแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ เป็นเจ้าภาพจัดหนัก เหมาชั้นสองร้านอาหารอิตาเลียน @13 Wine & Dine ทองหล่อ ซอย 13 เมื่อคืนวันพุธที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพบปะสังสรรค์ เคลียร์ใจกับแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านในช่วงปิดสภา หลังเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันทางการเมือง ระหว่างฝ่ายค้านด้วยกันเองในศึกซักฟอกที่ผ่านมา นับจากนี้ต้องรอดูว่าเอกภาพภายในพรรคฝ่ายค้านจะดีขึ้นหรือไม่ เพราะร่องรอยแห่งการขบเหลี่ยมกันระหว่างพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะเพื่อไทยกับอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ดูแล้วแม้ประสานกันได้ แต่คงไม่แนบสนิทเหมือนเดิม

                ขณะเดียวกัน แม้อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ที่โดนตัดสิทธิ์การเมืองในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ จะโดนตัดสิทธิ์การเมือง และไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นเวลา 10 ปี แต่ก็ยังเห็นร่องรอยความสัมพันธ์ และการหนุนหลังการทำพรรคการเมืองใหม่ ที่จะมาแทนพรรคอนาคตใหม่ เห็นได้จากที่อดีตแกนนำอนาคตใหม่ก็เดินทางไปร่วมงาน สัมมนา กินข้าว เปิดใจกันของอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่และอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ร่วม 55 คน ที่จัดกันไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่นครนายก

               ท่ามกลางกระแสข่าวว่าวงกินข้าว-สัมมนาสังสรรค์กันดังกล่าว มีการเปิดใจถอดบทเรียนการทำพรรคอนาคตใหม่ที่ผ่านมาร่วมสองปี ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน อะไรคือจุดแข็ง-จุดอ่อนของอนาคตใหม่  อะไรคือก้าวที่พลาดไปของอนาคตใหม่ และก้าวต่อไปของพรรคใหม่ควรต้องทำอย่างไร จนในวงหารือมีการเสนอชื่อพรรคการเมืองขึ้นมา เป็นตุ๊กตาให้อดีต ส.ส.ของอนาคตใหม่ร่วมแสดงความเห็นและร่วมกันโหวต จนได้มาสามชื่อคือ พรรคก้าวไกล, พรรคไทยเท่าเทียม และพรรคอนาคตไทย

               จากนั้นมีข่าวบอกว่า ตั้งแต่ช่วงจันทร์ที่ 2 - พุธที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา อดีต ส.ส.อนาคตใหม่มีการแยกย้ายหารือการเมืองกันหลายวง เพื่อคุยกันว่าควรต้องทำพรรคต่อไปอย่างไร จะดันใครขึ้นมาเป็นผู้นำ แม่ทัพพรรคคนใหม่ที่จะมาแทนธนาธรและปิยบุตร แสงกนกุกุล รวมถึงคุยกันว่าพรรคการเมืองควรใช้ชื่อพรรคอะไรอย่างเป็นทางการ จนมีข่าวว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดวันศุกร์ 6 มีนาคมนี้

                โดยมีกระแสข่าวว่า จากเดิมที่มีข่าวพรรคใหม่ ชื่อพรรค อนาคตไทย มาแรง จนมีการเผยแพร่ ภาพโลโก้-สัญลักษณ์พรรคอนาคตไทย ผ่านโซเชียลมีเดียกันไปอย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะอดีต ส.ส.อนาคตใหม่หลายคนมองว่าชื่อ อนาคตไทย สอดคล้องกับอนาคตใหม่ ที่สำคัญสามารถสื่อสารทางการเมืองกับแฟนคลับ สมาชิกพรรคได้ง่ายว่าชื่อนี้คือพรรคใหม่ของอนาคตใหม่ อีกทั้งพรรคอนาคตไทยปัจจุบันก็ยังเป็นพรรคการเมืองที่ยังเปิดทำการอยู่ ยังอยู่ในสารบบของสำนักงาน กกต. โดยมี พรศักดิ์ ธรรมนิมิตร์ เป็นหัวหน้าพรรค และมีนางภัศรัตน์ มุขแก้ว  เป็นเลขาธิการพรรค โดยมีที่ทำการพรรคอยู่แถวบางนา

               แต่ต่อมาช่วงกลางสัปดาห์ก็มีข่าวว่า หลายคนแม้เห็นด้วยว่าควรใช้ชื่อพรรคอนาคตไทย ซึ่งตามกฎหมายน่าจะทำได้ แม้จะสอดคล้องกับชื่ออนาคตใหม่ เหมือนเช่นกรณีพรรคชาติไทยพัฒนา ปัจจุบัน ที่สอดคล้องกับพรรคชาติไทยเดิมที่โดนยุบพรรค แต่ก็น่าจะลองใช้ชื่อใหม่ดู เพื่อเป็นการสร้างแบนด์ใหม่ ภายใต้ความเป็นอดีตอนาคตใหม่เดิม จนมีข่าวว่าอดีต ส.ส.อนาคตใหม่หลายคนเห็นว่า อาจใช้วิธีให้ตอนเปิดตัวพรรคก็ใช้ชื่อพรรคอนาคตไทยไปก่อน แล้วจากนั้นค่อยมาประชุมหารือกันอีกรอบว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อให้เป็นไปตามที่อดีต ส.ส.อนาคตใหม่เห็นควรหรือไม่ ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่เห็นควรให้เปลี่ยนชื่อพรรค ไม่เอาชื่ออนาคตไทย ก็อาจเปลี่ยนเป็น พรรคก้าวไกล ก็ได้ แต่ทั้งหมดต้องรอเคาะกันอย่างไม่เป็นทางการ 6 มี.ค.นี้ต่อไป

               เบื้องต้นอดีต ส.ส.อนาคตใหม่หลายคนได้ติดต่อสื่อสารกันไว้แล้วให้มารวมตัวกัน เพื่อแถลงข่าว เรื่องทิศทางพรรคการเมืองใหม่กันในวันอาทิตย์ที่ 8 มี.ค.นี้ ซึ่งก็จะใช้วิธีการใช้ชื่อพรรคการเมืองที่จดแจ้งไว้กับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไปก่อน จากนั้นเมื่อมีการดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมือง จะมีการเรียกประชุมใหญ่สามัญพรรคในช่วงต้นเดือน เม.ย. ก่อนจะเปลี่ยนชื่อพรรคและโลโก้พรรคให้เป็นไปตามที่อดีต ส.ส.อนาคตใหม่เห็นควร ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างก็จะทำให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดประชุมสภา 22 พ.ค. อันเป็นการทำตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ให้ ส.ส.ของพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรคต้องหาสังกัดพรรคการเมืองใหม่ภายในไม่เกิน 60 วันนับจากมีคำสั่งยุบพรรค

                ส่วนแนวทางการเมืองของพรรคใหม่ ที่ ส.ส.ทั้งหมดจะมาจากอดีตอนาคตใหม่ ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ กับประเด็นที่มีการไปคุยกันในงานสัมมนาของอดีตอนาคตใหม่เมื่อช่วงสุปดาห์ที่ผ่านมาที่นครนายก เพราะวงหารือดังกล่าวที่มีทั้งอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ 55 คนและอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่อีกบางส่วน ที่ไปร่วมสังสรรค์ด้วยในวงกินข้าว-จิบกาแฟ คุยกันข้ามคืนดังกล่าว ข่าวบอกว่าในช่วงหนึ่งอดีต ส.ส.อนาคตใหม่สะท้อนความเห็นถึงทิศทางพรรคใหม่ว่า พรรคการเมืองตั้งใหม่ที่จะไปอยู่ด้วยกันอาจมีความจำเป็นต้องลดโทนการเมืองบางอย่างลง แล้วไปเน้นหนักงานและการขับเคลื่อนเรื่องกฎหมาย งานในสภาให้มากขึ้น โดยเฉพาะบางคนเสนอว่าควรลดโทนการให้ความเห็นทางการเมืองในเชิงที่จะไปปะทะกับกลุ่มต่างๆ เพื่อไม่ให้ภาพของพรรคใหม่ ในสายตาบางคนที่มองว่าคนของอนาคตใหม่ก้าวร้าว ภาพนี้ต้องลดโทนลงไป ซึ่งหลายคนก็เห็นด้วยและบอกว่านับจากนี้ หลังเปิดสภาสมัยหน้า พรรคใหม่จะต้องรุกงานในสภาให้มากขึ้น เช่นการทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารผ่านช่องทางต่างๆ เช่น คณะกรรมาธิการของสภา ที่คนของอดีตอนาคตใหม่เป็นประธาน กมธ. เพราะผลงานการอภิปรายของอดีต ส.ส.อนาคตใหม่บางคนที่ทำผลงานได้น่าพอใจ เช่นการอภิปรายของธีรัจชัย พันธุมาศ ที่อภิปราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เรื่องคดีความที่ออสเตรเลีย ก็ได้ข้อมูลมาจากการใช้ช่องทาง กมธ.ป.ป.ช.ของสภาฯ เป็นต้น

               ข่าวจากวงหารือที่นครนายกดังกล่าวให้ข้อมูลไว้อีกว่า ในวงหารือดังกล่าวอดีต ส.ส.ของพรรคหลายคนยังเห็นด้วยว่า จุดแข็งเดิมของอดีตอนาคตใหม่ อย่างการเป็นพรรคที่เสนอแนวทางใหม่ๆ ทางการเมือง และมีการยึดโยงและเข้าใจความต้องการของคนรุ่นใหม่ พรรคใหม่จะต้องรักษาเอาไว้ให้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะตัวผู้นำพรรคคนใหม่ที่จะมาแทน ธนาธร-ปิยบุตร จะต้องแสดงบทบาทด้านนี้ให้เด่นชัด เพื่อมารับไม้ต่อจากทั้งคู่ให้ได้

                พรรคแบรนด์ใหม่ แนวทางเดิม แต่ลดโทนลงของอดีตอนาคตใหม่ ที่จะเปิดตัวออกมาเร็ววันนี้ โดยมีพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำทัพแทน ธนาธร-ปิยบุตร จะก้าวเดินต่อไปอย่างไร เป็นสิ่งที่หลายคนรอติดตาม.