อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับเข้าสู่สังเวียนแบบเต็มตัวในฐานะคู่แข่งของ ส.ว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ในการหยั่งเสียงของพรรคเดโมแครตเพื่อหาตัวแทนพรรคชิงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผลคะแนนวันซูเปอร์ทิวส์เดย์ที่หยั่งเสียงพร้อมกัน 14 รัฐ ชี้ว่าไบเดนกวาดชัยชนะอย่างน้อย 9 รัฐ รวมถึงเทกซัส
อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน พบปะผู้มีสิทธิออกเสียง ที่แคลิฟอร์เนียเมื่อวันอังคาร
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 4 มีนาคม 2563 กล่าวว่า ส.ว.แซนเดอร์สวัย 78 ปี ผู้ประกาศตนเป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตย เคยมีคะแนนนำห่างและอยู่บนเส้นทางที่จะกวาดชัยชนะในวันซูเปอร์ทิวส์เดย์ ที่มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวมกัน 1 ใน 3 ของคณะผู้เลือกตั้งของพรรคเดโมแครต ที่จะเป็นผู้แทนลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่พรรคเดือนกรกฎาคม แต่ไบเดนวัย 77 ปี กลับทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ในการหยั่งเสียง 3 รัฐแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน ดูเหมือนเขาแทบจะหมดอนาคตไปแล้ว
ไบเดนเพิ่งชนะหยั่งเสียงรัฐเซาท์แคโรไลนาเป็นรัฐแรกเมื่อวันเสาร์ และต่อมา อดีตคู่แข่งทั้งพีต บูติเจิจ และ ส.ว.เอมี โคลบูชาร์ ที่เป็นฝ่ายสายกลาง ก็ประกาศหนุนหลังเขา
คาดการณ์ว่า อดีตรองประธานาธิบดีสายกลางรายนี้จะชนะการหยั่งเสียงอย่างน้อย 9 รัฐ หรืออาจถึง 10 รัฐ ได้แก่ รัฐเวอร์จิเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, แอละแบมา, โอคลาโฮมา, เทนเนสซี, อาร์คันซอ, แมสซาชูเซตส์ และมินนิโซตา นอกจากนี้ไบเดนยังมีคะแนนนำห่างแซนเดอร์สในรัฐเทกซัส ซึ่งมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งมากเป็นอันดับ 2 ของรัฐที่หยั่งเสียงในวันนี้ รองจากแคลิฟอร์เนียที่แซนเดอร์สได้ไป
เอ็กซิตโพลเผยว่า แซนเดอร์ส ซึ่งลงสมัครชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคเป็นครั้งที่ 3 แล้ว จะชนะที่รัฐเวอร์มอนต์ รัฐบ้านเกิดของเขา และที่โคโลราโดและยูทาห์ด้วย
ส.ว.แซนเดอร์สปราศรัยฉลองชัยชนะของเขาเมื่อคืนวันอังคาร ด้วยการโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเรียกทรัมป์ว่าเป็นประธานาธิบดีที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ เขายังโจมตีไบเดนเช่นกันว่าเคยลงมติสนับสนุนการรุกรานอิรักและมีมลทินจากการรับเงินบริจาคของพวกอภิมหาเศรษฐี
"เรากำลังจัดการกับพวกกลุ่มอิทธิพลทางการเมือง คุณไม่สามารถเอาชนะทรัมป์ได้ด้วยการเมืองแบบเก่าๆ" เขากล่าว
ด้านไบเดนปราศรัยที่ลอสแองเจลีส บอกว่าผลที่ออกมาพิสูจน์ว่าความพยายามของเขาที่จะดึงการเมืองอเมริกากลับสู่ความเป็นกลาง หลังจากอยู่กับประชานิยมเอียงขวาของทรัมป์มานาน 4 ปี กำลังเดินหน้า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไบเดนคัมแบ็กได้ในครั้งนี้คือฐานเสียงเหนียวแน่นจากกลุ่มแอฟริกันอเมริกัน ที่ช่วยให้เขาคว้าชัยชนะได้ทั้ง 5 รัฐภาคใต้ของสหรัฐ ถึงแม้ว่าเขาจะได้คะแนนจากกลุ่มฮิสปานิกน้อยกว่าแซนเดอร์ส โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีคณะผู้เลือกตั้งถึง 415 คน แต่ชัยชนะในรัฐเทกซัสที่มีคณะผู้เลือกตั้ง 228 คน และมีประชากรที่หลากหลายกว่า บ่งชี้ว่าไบเดนมีศักยภาพในการสร้างฐานเสียงในวงกว้าง
ไมเคิล บลูมเบิร์ก อภิมหาเศรษฐีอดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก วัย 78 ปี ที่ลงสังเวียนหยั่งเสียงอย่างเป็นทางการในวันอังคาร และ ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน วัย 70 ปี ทำผลงานไม่ดีนัก วอร์เรนแพ้ในรัฐแมสซาชูเซตส์ของเธอเอง ส่วนบลูมเบิร์ก แม้จะทุ่มทุนส่วนตัวหลายร้อยล้านดอลลาร์โฆษณาหาเสียง ก็ยังไม่สามารถชนะได้แม้แต่รัฐเดียว ยกเว้นดินแดนอเมริกันซามัวในมหาสมุทรแปซิฟิก
ทั้งนี้ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตต้องได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 1,991 คนขึ้นไป การหยั่งเสียงครั้งหน้าคือวันที่ 10 มีนาคม จัดที่รัฐไอดาโฮ, มิชิแกน, มิสซิสซิปปี, มิสซูรี, นอร์ทดาโคตา และรัฐวอชิงตัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |