4 มี.ค.63 -  นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเกิดตวามขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย ว่าตนไม่ต้องชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องปกติ เพราะภายในพรรคของเราเปิดโอกาสให้ลูกพรรค ได้ซักถาม ในความรู้สึกต่างๆที่มี หรือบอกข้อสงสัย แต่ครั้งนี้อาจความจงใจของ ส.ส.บางคน ที่อยากให้ข่าวนี้หลุดออกมา แต่ตนไม่ได้คิดอะไรเลย ตนยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีการแบ่งก๊กภายใน มีแต่การแหย่กันไปแหย่กันมา ในความเป็นจริงแหย่จริงหรือไม่ เราก็ไม่ทราบ แต่ตนเรียนว่า ตราบใดที่ตนยังเป็นหัวหน้าพรรค จะให้มีการแยกกันแบบนี้ไม่ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องจบที่ตัวหัวหน้าพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะมีปัญหาเรื่องความมีเอกภาพ นายสมพงษ์ ระบุว่า มันก็เป็นอย่างนั้นเท่าที่ผ่านมาตั้งแต่ต้น สำหรับตนที่เป็นหัวหน้าพรรค ถ้าเป็นภาษาเหนือ ก็เรียกว่าละอ่อน ก็ต้องค่อยๆไป เพราะอายุยังไม่ครบปี 

เมื่อถามว่า จะฝึกฝนตนเองอย่างไร ให้เป็นหัวหน้าพรรคที่เข้มแข็งขึ้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า ก็ต้องค่อยๆ เพราะพรรคเพื่อไทย มีพื้นฐานมาจากพรรคไทยรักไทย หลายๆส่วนมารวมกันปัญหาก็ย่อมมี แต่ว่าในข้อเท็จจริง การเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคสมัยก่อนๆ ไม่ค่อยมีใครอยากเป็นหัวหน้าพรรค  เพราะกลัวที่จะถูกยุบพรรค แต่ครั้งนี้ตนอาสาที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะทางพรรคต้องการให้ผุ้แทนราษฎรมาเป็นหัวหน้าพรรค แม้จะปรับช้าๆหน่อยแต่ต้องค่อยๆทำ

ถามว่าจะปรับเรื่องใดเป็นแรก เพราหากไม่แก้ จะยิ่งมีความร้าวลึก นายสมพงษ์กล่าวว่า “ก็ไม่เห็นมีอันดับอะไร เราก็กำลังทำอยู่ เพียงแต่ภายนอก อาจมีความขัดแย้งและสมาชิกบางคนอาจมีความรู้สึกว่า เขาอาจยังถือข้างใครอยู่ ซึ่งตนไม่ทราบ แต่ตนไม่มีข้าง ไม่มีพรรค ไม่มีพวก ซึ่งหลังจากที่มีข่าวออกไปเมื่อวานก็ยังไม่มีการพูดคุยกัน  ซึ่งตนจะไม่ให้เกิดความขัดแย้งในลักษณะนี้ขึ้นอีก รับประกันได้ ถ้ามีก็ต้องมาคุยกัน และจะเป็นคนจัดการเอง

"ในการประชุมเมื่อวานที่เปิดโอกาสให้สมาชิกพูด ผมสังเกตดูแล้ว แต่บางทีการพูด ก็เป็นการพูดใส่ความซึ่งกันและกัน เมื่อเราให้เขาพูดแล้ว ก็ต้องให้เขาพูด แต่ความจริง ไอ้สิ่งเหล่านี้มันไม่มีหรอก อย่าไปโทษว่าให้ชี้แจง บางคนไปฟังคนโน้นคนนี้ มันก็ไม่เป็นจริง เพียงแต่เขาเดินไปดู ไม่ได้ไปนั่งฟัง แล้วมาบอกหัวหน้าพรรคให้จัดการเรื่องนู้นเรื่องนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องจัดการ บอกไว้เลยถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้มาหาผม” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวอย่างมีอารมณ์ และว่า "ก็มันไม่มีขั้ว ถ้าคนที่พูดแบบนี้ เราก็ต้องรู้ว่าใครพวกใคร ถ้าผมรู้ ผมจะเรียกมาพูด บอกเห้ย ถ้าคุณยังฝักใฝ่อยู่มันไม่ได้นะ "