นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนมังคุดแห่งประเทศไทย เผยหลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่หวั่นทำราคาหล่นเพราะยังมีตลาดกวางโจวรองรับผลผลิต ยังคงค้าขายได้ตามปกติ แต่หวั่นชาวสวนรีบตัดทุเรียนอ่อนออกมาขาย ทำให้ทุเรียนด้อยคุณภาพ ส่งผลเสียระยะยาวต่อประเทศไทย
4 มี.ค.63 - จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีน นายภาณุวัชร์ ไหมแก้ว นายกสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนและมังคุดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งออกทุเรียนในปัจจุบันไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตลาดกวางโจว เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และสามารถค้าขายได้ตามปกติแล้ว ขณะนี้ผลผลิตยังออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ทุเรียนไทยไม่พอจำหน่ายในต่างประเทศ โดยทุเรียนพันธุ์กระดุมที่รับซื้อจากเกษตรกรกิโลกรัมละ 130 บาท พันธุ์หมอนทองกิโลกรัมละ 150-160 บาท ถือว่าราคานี้แพงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ปัญหาการตัดทุเรียนอ่อน เพราะจะทำให้เกิดผลเสียระยะยาว ซึ่งจากปีที่ผ่านมา จะมีพ่อค้าคนกลางหรือเกษตรกรรีบตัดทุเรียนก่อนครบกำหนด เนื่องจากหวั่นว่าราคาจะถูกลง ส่งผลให้มีทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาดและเสียชื่อจังหวัดจันทบุรี อย่างไรก็ตามตนขอฝากถึงเกษตรกรและพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐขอความร่วมมือให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในเรื่องนี้ด้วย เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งวงการทุเรียนไทย
ด้านนายรัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้จาก จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการเพาะปลูกผลไม้มากสุดในไทย กว่า 70 เปอร์เซ็นต์มีการส่งออกไปยังจีนหรือต้องพึ่งตลาดจีนเป็นหลัก ในระยะแรกที่ไวรัสแพร่ระบาด ทำให้ล้ง จ.จันทบุรี ต่างหยุดการรับซื้อผลไม้ทันที เกิดความเดือดร้อนไปยังระบบตั้งแต่ชาวสวน ล้ง จนถึงตลาดภายในประเทศจีน
"ตอนนี้ล้งเพิ่งจะเปิดซื้อผลไม้แต่ราคาไม่ได้สูง ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ ทุเรียนกำลังจะออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้า หากจีนยังไม่สามารถคลี่คลายการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผลไม้ไทยทันที อาจจะสูญรายได้ถึงกว่า 50,000 ล้านบาทเลยทีเดียว"
นายรัฐวิทย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเริ่มส่งผลไม้ไปยังจีนได้บ้างแล้ว แต่ราคาไม่ได้สูงเท่าที่ควร สาเหตุมาจากการซื้อขายผลไม้ในจีนไม่ดีเหมือนทุกๆปี จากเดิมล้งสามารถขายผลไม้ในจีนได้วันละหลายตู้คอนเทนเนอร์ แต่ปัจจุบันขายได้เพียงล้งละ 1 ตู่ต่อ 1-2 วัน ทำให้ผลไม้ไทยเน่าเสียจำนวนไม่น้อย เพราะคนจีนยังไม่ออกจากบ้านมาซื้อสินค้าหรือผลไม้ไทย หรือออกเพียงจำนวนไม่มาก
นายรัฐวิทย์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้อีก 1 เดือน ถ้าจีนสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ วัคซีนที่จีนค้นพบและระบุว่าสามารถรักษาได้ การส่งออกผลไม้ไทยไปจีนจะดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ถ้าอีก 1 เดือนหลังจากนี้ไป จีนยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้จะส่งกระทบอย่างมากต่อผลไม้ไทย ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหารัฐบาลควรสร้างห้องเย็นใน จ.จันทบุรี นอกเหนือจากที่ไปสร้างในจังหวัดอื่น เพราะแต่ละวันในช่วงฤดูผลไม้ จ.จันทบุรี มีผลไม้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |