4 มี.ค.2563 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงความคืบหน้าการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติด ว่ากระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการ 3 แนวทางคู่ขนานกันไป เพื่อให้สามารถปลดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้เร็วที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ครอบครองและผู้ใช้กระท่อมไม่มีความผิดตามกฎหมาย โดยช่องทางแรกเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ขณะนี้ดำเนินการอยู่ในขั้นตอนที่ 9 ซึ่งได้ส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจแล้ว และได้หารือกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอร้องให้เร่งรัดกระบวนการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะส่งร่างดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงกลางเดือน พ.ค. เพื่อให้ร่างกฎหมายถูกบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ทันการเปิดสมัยการประชุมในช่วงสิ้นเดือน พ.ค.นี้
“ช่องทางที่ 2 เป็นการเสนอร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดทั้งฉบับ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้ว อยู่ในขั้นตอนของสภา ซึ่งไม่สามารถเร่งรัดได้ว่ากฎหมายจะผ่านสภามีผลบังคับใช้เมื่อใด ดังนั้น จึงต้องมีช่องทางที่ 3 คือ ใช้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรมร่วมกับองค์การอาหารและยา (อย.) ประกาศให้การมีหรือครอบครองและใช้พืชกระท่อมไม่เป็นความผิด โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 5-6 มี.ค.นี้ ที่โรงแรมเซ็นซูรี่ พาร์ค เมื่อผ่านขั้นตอนดังกล่าวแล้วจะสามารถนำเข้า ครม.ให้ประกาศใช้ได้ โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของสภา”
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องที่ประเทศมีปัญหายาเสพติดจำนวนมากว่า ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายค้ายาเสพติด โดยมอบให้นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) เป็นประธาน และขอทำความเข้าใจว่าการค้าขายยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นนอมินี เจ้าของตัวจริงไม่เคยมีชื่ออยู่ในวงการธุรกิจนี้เลย การโอนเงินกระทำโดยใช้ตัวแทน ดังนั้น เพื่อดำเนินการกับนอมินีและขยายผลยึดทรัพย์ให้ถึงตัวการ จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นอีก 2 ชุด โดยชุดแรกมีรองอธิบดีสำนักงานยาเสพติดเป็นประธาน ทำหน้าที่สืบสวนทางการเงินที่ไม่พบเจ้าของที่แท้จริง โดยจะใช้อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ตรวจสอบความเชื่อมโยงของวงเงินและการโอนเงิน ซึ่งในส่วนนี้จะใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากรเข้ามาดำเนินการ ส่วนคณะทำงานชุดที่ 2 มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุด ทำหน้าที่ขยายผลหลังการจับกุมนักค้าไปยังเครือข่ายยาเสพติดเพื่อยึดทรัพย์ โดยคณะทำงานทั้งสองชุดจะมีความคืบหน้าชัดเจนภายใน 30 วัน หรือสิ้นเดือน มี.ค.นี้
“ที่ผ่านมากระบวนการยึดทรัพย์ทำได้น้อยมาก ทั้งที่ UNODC ระบุว่าแหล่งผลิตยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ สร้างมูลค่าถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.8 ล้านล้านบาท แต่การยึดทรัพย์ได้เพียงหลักร้อยล้านบาท จึงไม่สมเหตุสมผล หากเราปล่อยปละละเลยวันข้างหน้าคนไทยอาจติดยาเสพติดมากขึ้น หลังจากเริ่มต้นทำงานทำได้ให้เห็นร่องรอยของเครือข่ายใหญ่และจะสามารถยึดทรัพย์ได้ภายในสิ้นเดือนมี.ค.นี้”รมว.ยุติธรรม กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |