"ประยุทธ์" อุบไต๋ไม่ตอบปรับ ครม. จะตัดสินใจเมื่อถึงเวลา "สามมิตร" หลบกระแสทึ้งเก้าอี้พลังงาน โบ้ยขึ้นกับนายกฯ "เหลิม" แก้เขินยุทธการอรุณรุ่ง ไม่ร่วง ภารกิจยังไม่จบ ยันไม่มีฮั้ว "บิ๊กป้อม" ที่ประชุมเพื่อไทยสุดเดือด ส.ส.คว้าไมค์สับเรียงตัว แปลงซักฟอกเป็นเวทีเสนอแนะ รัฐบาลจับทางได้หมด ทิ้งปมปริศนา "รถสีดำ 3 คันจอดเรียง ทำเอาบางคนอภิปรายไม่เต็มที่" รับไม่ได้อนาคตใหม่ แถลงข่าวตีกิน "ธนาธร" เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็นเคลียร์ใจฝ่ายค้าน 4 มีนา.
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 3 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวเมื่อถามถึงความชัดเจนในกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า "การปรับ ครม. ไม่มีตอบ ผมขอไม่ตอบ และไม่ได้หมายความว่าจะปรับหรือไม่ปรับ อย่าไปตีความคำพูดผม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมจะตัดสินใจของผมเอง เมื่อถึงเวลาของผม"
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า เวลานี้เป็นเวลาที่ต้องช่วยกันทำงาน โดยเฉพาะเรื่องไวรัสโควิด-19 มุ่งทำงานก่อนดีกว่า และต้องให้เกียรตินายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นผู้พิจารณาเรื่องเหล่านี้ ตนไม่สามารถแสดงความเห็นได้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และแกนนำ พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว แต่เป็นปกติที่เวลาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะมีข่าวลักษณะเช่นนี้ออกมาบางครั้งอาจจะเป็นจริง และอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้นต้องรอดูตอนนี้เป็นเพียงกระแสที่มีการปล่อยออกมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มสามมิตรควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไรเพิ่มเติม เพราะคำว่ากลุ่มคงไม่มีการพูดกันอีก เมื่อถามว่าถ้านายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรค พปชร. ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีในคราวนี้ ทางกลุ่มจะรวมตัวแสดงพลังเพิ่มเติมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่น่าจะมี เพราะจะได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่มีกลุ่มหรือไม่มีกลุ่ม แต่อยู่ที่เป็นคนทำงานให้กับภาพรวมของส่วนรัฐบาลได้มากน้อยเพียงใด จึงไม่เชื่อว่าจะมีการตั้งกลุ่มขึ้นมากดดัน ส่วนนายอนุชาควรได้ตำแหน่ง รมต.ในคราวนี้ ตนไม่ทราบ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และแกนนำ พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวว่าในการปรับ ครม.อาจถูกโยกย้ายไปเป็น รมว.พลังงาน ว่าเรื่องการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ และตนไม่เคยได้ยินว่านายกฯ จะปรับ ครม. ในส่วนของตนนั้นตอนนี้กำลังดูแลเรื่องของกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่
เมื่อถามว่าหากมีการปรับ ครม.จริง พร้อมไปเป็น รมว.พลังงานหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า “ผมไม่เชื่ออย่างนั้น” เมื่อถามต่อว่าสามมิตรจะมีการรวมตัวนัดรับประทานอาหารอีกหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า “ไม่มีครับ”
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศในช่วงของการปรับ ครม. โดยนายดอนไม่ได้กล่าวตอบใดๆ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ในส่วนของพรรค ชทพ. ถ้าหากได้รับสัญญาณว่าจะมีการปรับ ครม.เมื่อไร ก็จะหารือกันภายในพรรคว่าปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง การทำงานในส่วนรัฐมนตรีของเรายังไม่คำนึงถึงว่าปรับ ครม.หรือไม่ ยังมีภารกิจอีกมาก ยังไม่มีเวลาคิด และก็ยังไม่มีใครจะมาขอแลกเก้าอี้ เชื่อว่าแต่ละพรรคก็ยังมีความสุขกับงานที่ท่านทำอยู่
เหลิมลั่นภารกิจยังไม่จบ
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ "ยุทธการอรุณรุ่ง" ไม่ร่วง แต่จังหวะทีมงานที่เตรียมเพื่อนเข้าไป ไม่มีโอกาสได้เข้าไปอภิปรายเอง การซื้อขายที่ดินบางบอน คนอภิปรายทำไมไม่ถามว่าคนขายก็คนไทย คนซื้อก็คนไทย ทำไมต้องนำเอาเงินมาจากเกาะบริติชเวอร์จินซึ่งเป็นแหล่งฟอกเงินของคนชั่ว หลังจากซื้อขายที่เสร็จ ผู้ที่รับซื้อได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ได้รับเช่าพื้นที่บริเวณศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่ไม่ได้เช่าจากการต่อสัญญา อัยการเคยมีความเห็นคัดค้าน 10 ประเด็น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ต้องตอบด้วยว่าเหตุใดรัฐบาลไม่ฟังคำท้วงติงจากทางอัยการ
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า กรณีบริษัทฟิลลิป มอร์ริส เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปอภิปรายเองแล้วมาพูดกระทบกระเทียบถึงตน คุณมีอำนาจหน้าที่อะไร คดีอยู่ที่อัยการ ซึ่งอัยการสูงสุดฟ้องแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งศาล แต่นายวิษณุเรียกผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดี 7 หน่วยงานมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล คุณแทรกแซงการทำงานของกระบวนการยุติธรรม วันไหนที่อำนาจเปลี่ยนมือเถิด คุณจะรู้สึก แถมยังเสนอแก้ยกเลิกกฎหมายศุลกากร ทำให้ประเทศเสียประโยชน์จำนวนมหาศาลอีก นี่หรือที่บอกว่ารักชาติ พวกคุณชิงเกิด ขอให้นายวิษณุจัดรายการโทรทัศน์สักช่อง แล้วตนจะไปนั่งคนละมุมกับคุณ หมั่นไส้พวกคุณมา 3-4 วัน อรุณร่วงๆ เดี๋ยวเถิด
เขาบอกว่า จากนี้ให้รอติดตามว่าอรุณรุ่งอย่างไร จึงใช้ยุทธการนี้ พวกตนทำให้พวกจีนไม่เอาระเบิดมาทิ้งที่ อ.เชียงแสน เพราะอะไร เดี๋ยววันหลังจะบอกให้รู้ เหตุลูกเรือจีนมาเสียชีวิตที่เชียงแสน 13 คน เพราะหน่อคำไปปล้น ตนใช้เงินส่วนตัวติดตามหน่อคำ ชี้เบาะแสให้ เมิ่งจินมู 1 ใน 9 โปลิตบูโร คนจีนร้องไห้ทั้งประเทศ ได้ตัวหน่อคำไปดำเนินคดี เรื่องยังไม่จบ รออรุณสางอีกนิดหนึ่งก่อน แล้วจะบอก ส่วนที่มีการไปเขียนต่างๆ นานาว่ากิจการพิเศษทำการประชุมสภาล่ม ยืนยันว่าตนไม่เคยเหยียบสภา รู้ว่าไม่มีหน้าที่ เพียงแต่คนที่เราฝึกซ้อมไปไม่ได้พูดแบบที่ตนพูดนี้ ยืนยันว่าอรุณรุ่งแน่ วันนี้ยังไม่เปลี่ยนแผน เพราะภารกิจยังไม่จบ
เมื่อถามว่า สิ่งเหล่านี้มีหลักฐานที่จะเอาไปยื่นเอาผิดต่อหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หลักฐานมีเพียบ ไปยื่นตอนนี้เสียเปล่า รอเวลา แต่ไม่ต้องรอนาน เพราะรัฐบาลนี้ ตามดวงดาวไปอยู่แล้ว และขอบอกว่า ไม่เคยรู้จัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และไม่จำเป็นต้องรู้จัก มีคนชอบการเมืองบางคนชอบมาถล่มตน แล้วสื่อไปเชื่อคนที่เป็นเจ้าของซ่องได้อย่างไร คณะกรรมการกิจการพิเศษไม่มีอำนาจอะไร เว้นแต่พรรคใช้ ถ้าพรรคยุบคณะกรรมการคณะตนก็จบ ถ้ามีเรื่องใหม่ก็มาใหม่ ไม่มีอำนาจไปจัดคนหรืออะไร
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรค พท. หลังจากอภิปรายไม่ไว้ว่างใจว่า เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พูดคุยกันและฟังความคิดเห็นแต่ละฝ่ายในการประชุมพรรคเพื่อไทย 3 มี.ค. และต้องให้กำลังใจคนที่ปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่หัวหน้าพรรค ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนข้อผิดพลาด จะนำบทเรียนมาวิเคราะห์ จะแก้ไขอย่างไรที่จะทำให้พรรคมีความแข็งแรงขึ้น และคงไม่มีใครโทษใคร เราอยู่องค์กรเดียวกัน เชื่อว่าไม่มีการโทษกันไปมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องช่วยเหลือกันปรับปรุง
พท.เดือด!ส.ส.สับกันเละ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า กรรมการยุทธศาสตร์ด้านความยุติธรรมกฎหมาย ที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นประธาน จะนำเรื่องที่อภิปรายไม่ไว้วางใจในทุกเรื่องมาดู และยื่นดำเนินการทางกฎหมายต่อศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือองค์กรที่จะต้องมีหน้าที่ตรวจสอบต้องรับเรื่องไปดำเนินการต่อ ส่วนการดำเนินการกับงูเห่าของพรรค หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และกรรมการ กำลังพิจารณา ขอให้ฟังจากกรรมการดีกว่า เพราะมีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากพรรค พท.แจ้งว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการพรรค มีการประชุม ส.ส.เพื่อไทยประจำสัปดาห์ มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ฯ, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรค ร่วมทำหน้าที่ประธานการประชุม บรรยากาศเต็มไปด้วยความดุเดือด ส.ส.หลายคนสลับลุกขึ้นตำหนิการทำหน้าที่ของประธานวิปฝ่ายค้าน ผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจบางคนของพรรค พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงการแสดงความเห็นของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่มาตำหนิพรรค พท.อย่างรุนแรง และเป็นที่น่าสังเกตว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
ส.ส.อีสานคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ผู้อภิปรายบางคนพูดเรื่องเดิมๆ 3 ชั่วโมง รวมเวลานายกฯ ตอบเป็น 4 ชั่วโมง อนาคตใหม่ ไม่วอล์กเอาต์ตั้งแต่ตอนนั้นก็บุญแล้ว เขาโกรธที่ไม่ได้เวลาอภิปราย ไม่แปลก เป็นตนก็ไม่พอใจเหมือนกัน พูดจาวกวนไปมา มีแต่เรื่องเดิมๆ ขณะที่ ส.ส.อีสานอีกคนได้เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์คืนวันที่ 27 ก.พ. ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอ้างว่ามีมติจะไม่เดินทางมาโหวตและทางพรรคได้แจ้งในกลุ่มไลน์ให้ ส.ส.รับทราบ แต่เช้าวันที่ 28 ก.พ. กลับมีไลน์จากทางพรรคแจ้งให้เดินทางมา
“มันไม่ใช่การอภิปราย ดูแล้วมันเป็นเชิงแนะนำ เสนอแนะ คนอภิปรายของเรา มีแต่เสนอแนะ แนะนำกัน 2 ชั่วโมง …(ชื่อ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านบางคน) พูด 2 ชั่วโมง แนะนำทั้งหมด อันนั้นมันหน้าที่รัฐบาล ไม่ใช่ตั้งโจทย์ ….(ผู้อภิปรายของพรรคเพื่อไทย) มีรถสีดำมาจอดเรียงกัน 3 คัน บอกไม่ให้ใครไปยุ่ง เวลาของเราหมด ยังไม่ทันได้ตั้งคำถาม อภิปรายต้องตั้งคำถามให้คม ติดคุกเป็นติด มันอภิปราย ไม่ใช่ไปแนะนำเขา ไปเปิดเทปเก่าๆ ดู อภิปรายกันอย่างไร อยากฝากเอาไว้ เมื่อได้พูดแล้ว ก็เชื่อว่าเราจะรักกัน” ส.ส.รายเดิมระบุ
ขณะที่ ส.ส.ภาคเหนือคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า อยากให้ไปย้อนดูการอภิปรายในสมัยพรรคไทยรักไทย เขาทำกันอย่างไร ของเราเนื้อหาก็ดีแต่ presentation (นำเสนอ) ห่วยแตก อนาคตใหม่ เนื้อหาไม่เท่าไหร่ แต่เขาพรีเซนต์ดี ทำเป็นเรื่องๆ เป็นข้อมูล มีการหาข้อมูล แต่ของเราเอามาจากอินเทอร์เน็ตบ้าง อิศราบ้าง วิกิพีเดียบ้าง ใครก็รู้ ข้อมูลเป็น 10 ปีแล้ว วันนี้เราเกรงใจ พรรคเพื่อนบ้านมากเกินไปหรือเปล่า เอาจังหวะยุบพรรคมาปีนด่า ตีกินเรา ยังมีผู้ใหญ่ในพรรคบางคน ไปดูเขาแถลง มันสมควรหรือไม่ แทนที่จะห้าม กลายเป็นไปดูเขาแถลงข่าว
ทอนเจ้าภาพเลี้ยงข้าว 4 มี.ค.
นอกจากนี้ ส.ส.เพื่อไทยบางคนกล่าวถึงการขาดเอกภาพในพรรคว่า ก่อนอภิปรายครั้งนี้เละไปหมด มีทั้งทีมยุทธศาสตร์ ทีมกิจการพิเศษ ทีมหัวหน้าสมพงษ์ คนนึงพูดอย่าง คนนึงจะเอาอีกอย่าง ไม่รู้จะฟังใคร ยังมี ส.ส.ตั้งข้อสังเกตท่าที อนค.ที่ไม่ยอมมาพูดคุยหารือกันก่อน แล้วไปแถลงข่าวตำหนิพรรคเพื่อไทย ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่สบายใจ ทำไมจึงไม่ปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ปัญหาแบบผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ แต่กลับแถลงข่าวโจมตี และยังกล่าวหาว่า พท.เล่นปาหี่ช่วยรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรง แล้วจะทำงานร่วมกันในสภาได้อย่างไร
เมื่อถึงช่วงนี้ นายสมพงษ์กล่าวว่า เป็นธรรมดาของ ส.ส.วัยรุ่น ยังขาดประสบการณ์ อาจใช้อารมณ์วู่วามไปหน่อย แต่หวังว่า ส.ส. พรรคเราซึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า จะมีความใจเย็นและให้อภัยวัยรุ่นใจร้อน ยอมรับว่าก็รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องกลืนเลือดและต้องหักห้ามความรู้สึก
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกำหนดการรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในช่วงเย็นของวันที่ 4 มี.ค. ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค อนค.เป็นเจ้าภาพ จะจัดขึ้นที่ร้าน Wine & Dine ทองหล่อซอย 13 ทั้งนี้ กำหนดการดังกล่าวเป็นหมายลับที่จะไม่เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์การพบปะในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชื่อพรรคใหม่ของอดีต อนค.จากการหารือภายหลังการประชุมของ ส.ส.และอดีต ส.ส. เมื่อวันที่ 28 ก.พ.-1 มี.ค. ที่ จ.นครนายก ได้ข้อสรุปเบื้องต้นถึงชื่อพรรคใหม่ จำนวน 3 ชื่อ ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคไทยเท่าเทียม และ พรรคอนาคตไทย ทั้งนี้ วันที่ 6 มี.ค. จะมีการโหวตชื่อพรรคใหม่ โดย ส.ส.และอดีต ส.ส.ที่ยังเกาะกลุ่มกันอยู่ โดยแนวโน้มของสมาชิกส่วนใหญ่เห็นชอบในชื่อของพรรคก้าวไกล
สำหรับแนวทางการทำงานของพรรคใหม่จะลดโทนการปะทะกับฝ่ายตรงข้ามให้น้อยลง และจะเน้นการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งการตั้งกระทู้ถามฝ่ายบริหาร และการผลักดันการออกกฎหมายต่างๆ ทั้งนี้ วิธีการจดแจ้งตั้งพรรคใหม่ จะใช้ชื่อพรรคที่มีการจดแจ้งไว้กับ กกต.ไว้แล้ว โดยการเปิดตัวพรรคในวันที่ 8 มี.ค. จะยังใช้ชื่อพรรคเดิมที่จดแจ้งกับ กกต.ไว้ จากนั้นเมื่อมีการดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมือง จะมีการเรียกประชุมใหญ่สามัญพรรคในช่วงต้นเดือน เม.ย. ก่อนจะเปลี่ยนชื่อและโลโก้ให้เป็นไปตามมติ โดยคาดว่าจะมีการย้ายที่ทำการพรรคออกจากตึกไทยซัมมิท เพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียนขึ้นในอนาคต โดยในวันที่ 8 มี.ค. ส.ส.ทั้ง 55 คน จะเดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคพร้อมกัน และจะเปิดรับสมัครสมาชิกสำหรับประชาชนทั่วไปโดยการวอล์กอินในวันเดียวกัน ส่วนการสมัครผ่านทางช่องทางออนไลน์ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะที่นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 2 ทางเว็บไซต์ของ อนค.รายงานว่า ได้เข้าสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว ทำให้ยอดล่าสุดของ ส.ส. อดีต อนค.เหลือ 55 คนที่คาดว่าจะย้ายไปสมัครพรรคเดียวกันในวันที่ 8 มี.ค.นี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |