ขณะนี้สถาบันการเงินตื่นตัวและได้เร่งออกมาตรการเพื่อดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายกลางและรายย่อยจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) โดยสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชนเกือบทุกแห่งได้มีมาตรการชัดเจนออกมาแล้ว โดยในส่วนธนาคารพาณิชย์ที่ได้ออกมาตรการแล้ว อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในส่วนลูกหนี้ธุรกิจที่มีสินเชื่อเดิมกับธนาคารให้พักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ส่วนสินเชื่อใหม่ กลุ่มที่เป็นเอสเอ็มอี ให้สินเชื่อประเภท PN (ตั๋วสัญญาใช้เงิน) ไม่เกิน 6 เดือน และสามารถต่ออายุได้ โดยมีระยะเวลารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1 ปี วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ขณะที่ลูกหนี้บัตรเครดิต จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 50% จากอัตราปกติ พร้อมทั้งลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกิน 10% และยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ เป็นต้น

                “ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดได้ไม่เกิน 12 เดือนสำหรับสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (ประเภทเงินกู้) พร้อมทั้งขยายวงเงินหมุนเวียน (ประเภทตั๋ว) ให้ครั้งละไม่เกิน 3 เดือน ส่วนลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร ให้ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยไม่เกิน 12 เดือน ส่วนลูกหนี้รายย่อย ประเภทสินเชื่อบ้านและสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีหลักประกัน ให้ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน, สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยถึงรอบบัญชี ธ.ค.2563  และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 60% ระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน พร้อมทั้งขยายเวลาการผ่อนสูงสุด 7 เดือน รวมสัญญาล่าสุดต้องไม่เกิน 7 ปี

                “ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)” ให้พักชำระหนี้เงินต้นพร้อมทั้งขยายเวลาผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน  และขยายเวลาวงเงินหมุนเวียน (P/N, T/R, P/C) สูงสุด 6 เดือนสำหรับลูกค้าธุรกิจ ส่วนลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อยให้พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ พักชำระค่างวดสูงสุด 6 เดือน และลูกค้าสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล พักชำระยอดขั้นต่ำสูงสุด 6 เดือน ด้าน “ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)” สำหรับลูกหนี้ธุรกิจให้พักชำระหนี้เงินต้นตามระดับผลกระทบ ไม่เกิน 12 เดือน พร้อมขยายเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับธุรกิจ ส่วนรายที่ใช้ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อเดิมสามารถขยายเวลาค้ำประกันได้อีก 5 ปี โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

                “ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)” ให้ผ่อนปรนเงื่อนไขวงเงินกู้ระยะยาว สูงสุด 12 เดือน และผ่อนปรนเงื่อนไขวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน พร้อมลดดอกเบี้ยสูงสุด 2% จากอัตราปกติสูงสุด 6 เดือน สำหรับสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ส่วนลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ในส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และลดเงินผ่อนชำระค่างวดลง ส่วนสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย ให้พักหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน พร้อมลดเงินผ่อนค่างวด (แล้วแต่กรณี) ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ให้พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน พร้อมลดเงินผ่อนชำระค่างวด ด้าน “ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)” ให้พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือนสำหรับลูกหนี้ธุรกิจ และปรับลดอัตราผ่อนชำระขึ้นต่ำของสินเชื่อบัตรเครดิต

                ขณะที่สถาบันการเงินของรัฐ อย่าง “ธนาคารออมสิน” ได้มีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งให้สินเชื่อเพิ่มสูงสุด 5 หมื่นบาท ผ่อนชำระคืนสูงสุด 5 ปี พักหนี้ 6 งวดแรกแก่ผู้ประกอบการ ผู้มีอาชีพอิสระ พนักงานลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม สามารถยื่นคำขอได้ภายใน 30 ก.ย.นี้ พร้อมทั้งลดดอกเบี้ยให้สูงสุด 20% ของดอกเบี้ยที่จ่าย เวลา 1 ปี พักเงินต้นไม่เกิน 2 ปี อีกทั้งขยายเวลาชำระหนี้ สามารถยื่นคำขอได้ใน 31 ธ.ค.นี้

                "ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)" ได้ปรับลดดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่กู้และจดจำนองก่อนวันเริ่มมาตรการนี้และได้รับผลกระทบด้านรายได้จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสามารถยื่นคำขอไม่เกิน 31 มี.ค.นี้ ไม่เพียงเท่านี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์,  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  ก็ได้ต่างออกมาตรการเพื่อดูแลและบรรเทาผลกระทบของลูกหนี้จากปัจจัยเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน.

 ครองขวัญ รอดหมวน