'ณัฐวุฒิ'โผล่ชมแฟลชม็อบ สายลมแห่งอรุณรุ่ง ถ้ารัฐบาลมองเป็นศัตรูเท่ากับสู้กับคนทั้งแผ่นดิน


เพิ่มเพื่อน    

3 มี.ค.63-   นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ ว่า ‘การปรับครม.เกิดขึ้นแน่ๆ ครับ จะปรับเล็กปรับใหญ่ปรับช้าเร็วอย่างไรต้องตามดูกันต่อ แต่เมื่อมีการปรับครม.รับรองกระเพื่อมหนักครับ

เพราะรัฐบาลชุดนี้ที่มารวมตัวกันต่างคนต่างบอกว่าเป็นรัฐบาลคนดี แต่ละท่านเสียสละเข้าไปนั่งเก้าอี้ เมื่อเสียสละเข้าไปแล้วก็ไม่อยากจะให้ใครเสียสละมานั่งเก้าอี้แทน

ดังนั้น คนดีทั้งหลายต่างแย่งกันเสียสละที่จะรักษาและที่จะชิงเก้าอี้ ความจริงเป็นเช่นนี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน และหลังจากที่ประชาชนจำนวนมาก

ไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่เชื่อมั่นว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะแก้ปัญหาการเมือง จะแก้ปัญหาความมั่นคงและจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้

-แล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ

แต่เรื่องใหญ่ที่ต้องตามกันต่อ คือความเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวนักเรียนนิสิตนักศึกษา จนถึงวันนี้จำนวนสถาบันเพิ่มขึ้นมากทุกที แล้วจำนวนจังหวัดจำนวนพื้นที่ที่มีการทำกิจกรรมมากขึ้นทุกวัน

นี่คือสายลมแห่งอรุณรุ่ง นี่คือดอกไม้ที่ผลิบานและเรียกร้องสังคมอย่างที่พวกเขาต้องการ

หนึ่งกำลังใจส่งไปจากตรงนี้ตลอดเวลาในทุกเวทีนะครับ

เพียงแต่ถ้ามีข้อเสนอได้ ก็อยากจะเน้นย้ำให้น้องๆ ทั้งหลายยึดหลักการประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเคร่งครัด อะไรสุ่มเสี่ยงอย่าไปทำ อย่าไปเปิดช่องให้อีกฝ่ายหนึ่งโจมตีหรือทำลายความชอบธรรม ทำลายความบริสุทธิ์ของพลังนี้ได้

-จะยกระดับต้องดูดีๆ ผู้มีอำนาจกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา

ถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าน้องๆ ที่ออกมา เค้าไม่หยุดล่ะครับ หลังจากนี้คงมีข้อเรียกร้อง คงมีคำประกาศต่างๆ ตามมาให้สังคมได้รับรู้และพิจารณา

เพียงแต่นิสิตนักศึกษาต้องมองให้ขาดนะครับว่ารัฐบาลที่กำลังต่อสู้เรียกร้องกันอยู่ คนกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา เคยร่วมกันจัดการกับการชุมนุมของประชาชนมาแล้วในปี 2552 และ 2553

ต่างกันตรงที่เวลานั้นประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ อภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ‘3ป’ คุมความมั่นคง เวลานี้ ‘3ป’ เป็นแกนนำ ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนประชาธิปัตย์คุมความไม่มั่นคง

เพราะในพรรคยังง่อนแง่น

แต่กระนั้นก็เถอะครับ พรรคภูมิใจไทยก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ทั้ง 2 สถานการณ์และคนกลุ่มนี้มีวิธีคิดต่อการชุมนุมของประชาชนอย่างไรและจัดการแบบไหน ก็เป็นดังที่ทราบกัน

ไม่ได้พูดให้ตกอกตกใจล่ะครับ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่า จนถึงวันนี้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายนิสิตนักศึกษายังเป็นความเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวเป็นหลัก

รัฐบาลเขายังไม่ได้ออกตัว รัฐบาลเขายังไม่ได้ลงมือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด อย่าได้ประมาทหัวจิตหัวใจของคนที่มีอำนาจบาทใหญ่อยู่ในบ้านเมืองนะครับ ผมเคยเจอมาแล้ว

-รู้จักฟังและรู้จักพอ

ส่วนผู้มีอำนาจก็ต้องตั้งสติดีๆ นะครับ ลูกหลานที่เค้าออกมา ไม่ใช่ศัตรูของชาติและไม่ใช่ศัตรูของท่าน เค้าเพียงต้องการสังคมประชาธิปไตยอย่างที่เราทุกฝ่ายยอมรับและอย่างที่ท่านเองก็ประกาศอยู่ทุกวัน

พึงรับรู้นะครับ เมื่อไหร่ท่านมองคนหนุ่มสาวบุตรหลานแห่งประเทศเป็นศัตรู เมื่อนั้นเท่ากับท่านกำลังประกาศสู้กับคนทั้งแผ่นดินเหมือนกัน

ดังนั้น สิ่งที่ควรจะเป็นคือ ผู้มีอำนาจต้องรู้จักฟังและรู้จักพอ

พล.อ.ประยุทธ์และพวก เข้ามามีอำนาจจนถึงวันนี้ 6 ปีผ่านไป พอได้แล้วมั้งครับ เพราะคนส่วนใหญ่ได้ข้อสรุปแล้วว่าท่านแก้ปัญหาอะไรไม่ได้

ไม่มีการพัฒนาในแง่มุมใดเกิดขึ้นอย่างเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน เศรษฐกิจเข้าขั้นวิกฤต ในทุกวิกฤตรัฐบาลไม่เคยสร้างความเชื่อมั่น ทุจริตคอรัปชั่น มีให้เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีการปฏิรูปประเทศ ไม่มีการปฏิรูปการเมือง

ท่านเข้ามาโดยอ้างว่ารังเกียจพฤติการณ์ของนักการเมือง แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์และพวก ทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ต่างกับนักการเมืองที่พวกท่านกล่าวหา

ร่างกติกาเอื้อประโยชน์ตัวเอง ตัดโอกาสฝ่ายตรงข้าม จัดสรรผลประโยชน์ทางการเมืองกันตามโควต้า ไม่ได้นึกถึงความชอบธรรม ความรู้ความสามารถ ความขาวสะอาดของคนมาทำหน้าที่

มีการไล่ช็อปไล่ซื้อส.ส. ทำสภาเป็นตลาดนัดงูเห่า การเมืองแบบนี้ผมไม่เชื่อว่าเป็นอย่างที่คนเคยสนับสนุนพวกท่านต้องการ

ความขัดแย้งไม่ได้สลายคลายลงไป และพวกท่านเป็นตัวละครหลักในความขัดแย้งนี้ ลูกหลานเค้าออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าท่านจะอยู่ต่อ ผมยังนึกไม่ออกว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร

-เปิดสภาคุยกับนักศึกษา บริสุทธิ์เจตนาหรือละลายพฤติกรรม?

ส่วนการยื่นญัตติด่วนให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ตั้งกรรมาธิการรับฟังข้อเสนอของนิสิตนักศึกษา เรื่องนี้เป็นกลไกของสภา ผมไม่คัดค้านล่ะครับ

แต่ต้องตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เกิดจากบริสุทธิ์เจตนาของรัฐบาลหรือเป็นเพียงความต้องการแค่เปิดพื้นที่ให้นักศึกษา เพื่อคลายแรงเสียดทานทางการเมือง เทคนิคตื้นๆ แบบนี้ เอามาใช้กับสถานการณ์นี้ไม่ได้ล่ะครับ เพราะเรื่องมันไปไกลแล้ว ประเมินกันให้ดีๆ

เด็กเขาออกมาวันนี้ เขาไม่ได้มาเรียกร้องเวทีให้พูด แต่เขาเรียกร้องประชาธิปไตย เขาไม่เอายุติธรรมสองมาตรฐาน เขาต่อต้านเผด็จการ เขาไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญที่ดีไซน์มาเพื่อพวกท่าน

และเขาไม่ยอมรับในการถืออำนาจของพวกท่านอีกต่อไป พูดตรงๆ คือเขามาไล่นะครับ ท่านที่เคารพทั้งหลาย

ดังนั้นจะไปคิดง่ายๆ ว่าการออกมาของเยาวชนคนหนุ่มคนสาว ก็เหมือนกับการเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมือง เอาเข้ากรรมาธิการวิสามัญ พูดกันไปหลายเดือนหลายวัน

ไม่รู้จะจบแบบไหน แล้วก็จบๆ กันไปขายผ้าเอาหน้ารอด ไม่รอดล่ะครับ

เพราะพลังของคนหนุ่มสาวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพวกเขาจะต่อสู้อย่างถึงที่สุด จนบรรลุเป้าหมาย แล้วอย่ามากล่าวหาว่าใครไปปลุกระดมพลังนี้ขึ้นมา เพราะข้อเท็จจริงก็คือสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั่นล่ะครับ ทำให้พวกเขาต้องลุกขึ้นออกมาทวงสิทธิ์ ทวงอนาคตของตัวเอง

ผมตั้งความหวังอย่างเต็มเปี่ยมนะครับ ถ้าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมืองของประเทศไทย ควรเกิดขึ้นโดยสันติวิธี

ควรเกิดขึ้นโดยจิตสำนึกความรับผิดชอบของผู้คนทั้งหลายโดยเฉพาะคนเป็นผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง เราไม่มีเวลาจะมาสูญเสีย เราไม่มีเวลาจะมาเผชิญหน้าอีกต่อไป

เพราะสังคมไทยกำลังเผชิญวิกฤตร้ายแรงในทุกด้าน เพียงผู้มีอำนาจรู้จักคำว่าพอ ประเทศไทยก็ไปต่อได้แล้วครับ

-นักศึกษาออกมาเยอะ สลิ่มจะว่าไง?

เดี๋ยวนี้สลิ่มเหลือน้อยแล้ว เค้าไม่เป็น

เค้าเลิกเป็นกันไปเยอะแล้ว สลิ่มไม่เป็นไรแล้ว ผมไม่หนักใจ

ปวดหัวกับพวกลอดช่องเนี่ย พวกเขียวตลอด พวกสีเขียวๆ เนี่ย บางคนนะบางคน ไม่ยอมเข้าใจอะไรทั้งสิ้น ตะบี้ตะบันอยู่อยู่ท่าเดียว ไม่ห่วงสลิ่มอะ เบื่อลอดช่อง'นายณัฐวุฒิกล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"