3 มี.ค.63- นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หากผมไป โรงพยาบาล ที่เป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคต่างๆ ผมปรารถนาจะเห็น บุคลากรทางการแพทย์ สวมหน้ากากอนามัย เพราะท่านเหล่านั้นคือกลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรคได้มากที่สุด และยังเป็นกลุ่มที่แพร่กระจายโรคได้ให้คนไข้ที่มาตรวจได้ง่ายได้ที่สุดเช่นกัน และให้โรงพยาบาลมีจุดขายสำหรับคนที่ไปติดต่อ หากเขาไม่ได้เตรียมตัวไป
หากผมไปสนามบิน ที่ต้องขึ้นเครื่องที่มีผู้อยู่ร่วมกัน 200-300 คนในเครื่องที่มีอากาศปิดเป็นเวลานับชั่วโมง ผมอยากเห็นร้านสะดวกซื้อที่นั่น มีหน้ากากอนามัยขาย และหากเป็นไปได้ ก่อนขึ้นเครื่องทุกสายการบินมีเจลล้างมือให้ผู้โดยสารทุกคนใช้ และมีหน้ากากแจกสำหรับคนที่ยังไม่มี เพราะหนึ่งคนสามารถแพร่แก่ทุกคนบนเครื่องได้
หากผมเข้าห้องสอนหนังสือ คงถึงเวลาที่ผู้เรียนและผู้สอนต้องสวมหน้ากาก เสียงดังฟังชัดอาจจะลดลง แต่ปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย
ห้างสรรพสินค้า คงไปให้น้อยเท่าที่จำเป็น เจ้าของกิจการต้องรู้จักเพิ่มช่องทางการสั่งของทุกชนิดออนไลน์ ให้คนออกมาห้างให้น้อยลง
หากผมเป็นรัฐมนตรี ผมคงไม่ออกมาตรการควบคุมราคาหน้ากากอนามัย แต่ทำให้หาซื้อไม่ได้ ให้เขาขายอย่างเสรี แต่เน้นเรื่องคุณภาพ ให้แข่งกันขาย องค์การเภสัชก็อย่าไปขายถูกกว่าให้คนมาแย่งกันซื้อไปขายต่อ ขายไปเลยอันละ 10 บาท กำไรก็เอาไปแจกในโรงพยาบาล ตามขนส่งมวลชนที่คนต้องขึ้นรถขึ้นเครื่อง แต่ไม่ใช่มาแจกทีทำเนียบหรือกระทรวงเพื่อเอาหน้าไม่กี่วัน และสร้างความยากลำบากแก่คนที่ต้องเดินทางมา
ผมคิดแบบโง่ๆได้แบบนี้แหละครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |