แม้ภาพลักษณ์แนวทางการทำงานต่อหน้าสังคมของ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะออกแนวบู๊ ปะ ฉะ ดะ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ เข้าขั้นเรียกว่าดุเลยทีเดียว

      แต่หากไปถามคนใกล้ชิดหรือคนที่ผ่านการทำงานระดับรากหญ้า ก็พอจะทราบว่าเขาเป็นคนใจถึงพึ่งได้ ที่สำคัญยังจัดสิระเป็น "สายเปย์" เพราะไม่ว่าจะทำอะไรมักเอาใจใส่คนรอบตัวเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรียนหลักสูตรใดสถาบันไหน เขาจะได้รับเลือกเป็นประธานตลอด อย่างเช่น 4ส.9 และ ปปร.23 ของสถาบันพระปกเกล้าที่มีแต่คนอยากเข้าไปเรียน     

      ทั้งนี้เมื่อเปิดดูทรัพย์สินของ สิระ ถือว่าไม่ธรรมดา จัดอยู่ในขั้นอู้ฟู่ได้เลย เคยแจ้งต่อ ป.ป.ช.เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.ว่ามีเงินในกระเป๋าถึง 500 ล้าน!

      ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรจึงดูคล่องตัวเพราะรากฐานแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะให้เงินรางวัลสำหรับคนที่พบคลิป ส.ส.เสียบบัตรแทนกันจำนวน 1 แสนบาท หรือเหมาเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจสอบนักการเมืองสร้างบ้านรุกแม่น้ำ

      นอกจากเรื่องงานแล้ว โมงยามปกติเขาก็มักดูแลข้าราชการ เจ้าหน้าที่ แม่บ้านที่ทำงานในสภา ไม่ได้อยู่แต่ในห้องแอร์ ชอบลงมาเดินพูดคุยไต่ถามสารทุกข์สุกดิบชาวสภา พร้อมทั้งเลี้ยงข้าวผู้คนที่โรงอาหารสภา บางครั้งก็นำลอตเตอรี่เป็นแผงๆ มาแจกสร้างสีสันคลายความเครียดระหว่างการประชุมของ ส.ส.ที่กำลังดุเดือด หรือในวันใดที่มีการประชุมดึกดื่น เช่นอภิปรายงบประมาณหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ

        สิระ ที่สนิทกับวัดหลักสี่ ก็จะเหมาข้าวต้มหมูข้าวต้มไก่วันละไม่ต่ำกว่า 4-5 หม้อพร้อมน้ำดื่มมาดูแลคนทำงานที่นี่ทุกค่ำคืน เพราะเขาตระหนักดีว่าตัวเองเคยยากจนและปากกัดตีนถีบมาก่อน จึงเข้าอกเข้าใจคนทำงานหาเช้ากินค่ำเป็นอย่างดี  

      เห็นอย่างนี้แล้วจะไม่เรียก "ส.ส.สิระ เจนจาคะ" ว่าเป็น "สายเปย์ของคนยาก" ได้อย่างไร.

ช่างสงสัย