ไม่ว่าใครจะหลงใหล ได้ปลื้ม ปรารถนาและต้องการ สิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพ หรือ ความเป็นประชาธิปไตย ชนิดมันเยิ้ม มันจุกอก กันไปถึงขั้นไหน ระดับไหน...แต่ต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เอาจริงๆ นั่นแหละ ในช่วงระหว่างนี้ บรรดาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ มันออกจะไม่ค่อยสอดคล้อง กลมกลืน กับความเป็น อาจารย์โกวิท หรือ Covid-19 มากมายซักเท่าไหร่นัก...

                                                             ------------------------------------------------

      คือถึงแม้นไม่มีใครคิดควบคุม บังคับ เอาเลยก็เถอะ... แต่ถ้าบรรดาเด็กๆ และเยาวชนทั้งหลาย ดันมุ่งแต่เพียรพยายามออกมานอนกลิ้ง นอนหงาย กันกลางถนน นับเป็นหมื่นๆ แสนๆ กันจริงๆ โอกาสที่จะ เสร็จอาจารย์โกวิท กันไปทั้งประเทศ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ถึงแม้แต่ละรายพยายามสวมหน้ากาก ปิดจมูก ปิดปาก เอาไว้ยังไงก็ตามที แต่การคลุกคลี สัมผัส ด้วยกรรมวิธีอื่นๆ ที่อาจกลายเป็นตัวเปิดช่อง เปิดทาง ให้กับตัวไวรัส Covid-19 ที่ต่างก็ปรารถนาและต้องการ เสรีภาพ และ ความเป็นประชาธิปไตย ในการแพร่เชื้อโรคระบาด ไม่น้อยไปกว่าบรรดาเด็กๆ ในแต่ละราย อันนี้...ต้องยอมรับว่า ออกจะเป็นอะไรที่น่ากลัว น่าหวาดหวั่น ขวัญสยองเอามากๆ...

                                                               --------------------------------------------------

      เรียกว่า...ขนาด เด็กฮ่องกง หรือ กะปอมฮ่องกง ที่ชักกลายเป็นต้นแบบ แม่แบบ ของบรรดาเด็กๆ จำนวนไม่น้อยในแต่ละสังคม แต่ละประเทศ ยังออกอาการ ถอยดีกว่า...ไม่อาวว์ว์ว์ดีกว่า กันเห็นๆ จากที่เคยออกมาเผาโน่น เผานี่ ทุบโน่น ทุบนี่ กันชนิดแทบเป็นกิจวัตรประจำวัน ประจำสัปดาห์ หรือประจำเดือนมาโดยตลอด แต่หลังจากเจอ อาจารย์โกวิท หรือ Covid-19 โผล่เข้ามาสอดแทรก ชนิดพร้อมเป็น มือที่สาม ได้เสมอๆ บรรดากุมารฮ่องกงในแต่ละราย ก็ชักจะหายเงียบ หายจ้อย ไม่ได้คิดจะออกมายั่วยวน กวนส้นตีน ใครต่อใคร ไปอย่างต่อเนื่อง ยาวนานพอสมควร...

                                                              ---------------------------------------------------

      เพราะไม่เพียงแต่โอกาส โชคดี...ที่ตายก่อน หรืออาจต้องตายไปก่อนที่จะได้มาซึ่งเสรีภาพ และประชาธิปไตย แต่ยังอาจกลายเป็นตัวชักลาก ชักจูง ให้ใครต่อใครต้องพลอย ลงหลุม ไปด้วย ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ บรรดา โจชัว หว่อง ทั้งหลายเลยไม่คิดจะโหว่ ไม่คิดจะหว่อง หรือแหว่ง เอาดื้อๆ ส่งผลให้ ความเป็นเผด็จการ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เลยพอมีโอกาสในการต่อสู้เพื่อเอาชนะเชื้อโรค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล พอสมควร และกลายเป็นตัวช่วยบรรเทา เบาบาง ไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่เสียชีวิต ไม่ว่าในเมืองจีน ในเกาะฮ่องกง หรือกระทั่งในระดับโลกทั้งโลกนั่นแหละ ไม่ถึงกับหนักหนา สาหัส จนเกินไป...

                                                                   ------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากรัฐบาลจีน เขาไม่ตัดสินใจใช้อำนาจเผด็จการ หรือ กลไกเผด็จการ ในการปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดจังหวัด อู่ฮั่น อันเป็นเมืองที่สามารถทำเงิน ทำกำไร ให้กับประเทศได้แบบเต็มเม็ด เต็มสูบ โดยไม่ได้คิดเสียดม เสียดาย เงินๆ ทองๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ป่านนี้...บรรดาเชื้อโรค เชื้อไวรัส Covid-19 มันคงสามารถใช้ เสรีภาพ และ ประชาธิปไตย ใช้ สิทธิแห่งเชื้อโรคชน ที่อาจไม่ได้ต่างอะไรไปจาก สิทธิมนุษยชน โดดไปไหน ต่อไหน แพร่ไปไหน ต่อไหน ได้แบบสบายๆ อย่างที่เชื้อไวรัส H1N1 ที่เคยแพร่ระบาดในอเมริกา เมื่อช่วงปี ค.ศ.2009 มันเคยใช้ๆ กันมาแล้วนั่นแหละ...

                                                                   ------------------------------------------------

      ส่งผลให้ช่วงระหว่างนั้น...จำนวนผู้ติดเชื้อในระดับโลก พุ่งขึ้นไปเป็นล้านๆ อาจถึงขั้นร้อยล้าน พันล้าน เอาเลยก็ไม่แน่ โดยเฉพาะถ้านับรวมไปถึงบรรดาผู้ที่ไม่ถูกควบคุม ถูกเฝ้าระวังสังเกต อย่างเป็นทางการ ส่วนจำนวนผู้ตายก็ปาเข้าไปเป็นหมื่นๆ แสนๆ เฉพาะที่อเมริกาเห็นว่าขึ้นไปถึงเกือบ 2 หมื่น ใครที่อยากรับรู้รายละเอียดคงต้องลองไปถาม อากู๋กูเกิล ดูเอาเองก็แล้วกัน คือจะด้วยเหตุเพราะอเมริกา เขาไม่ได้มี กลไกเผด็จการ ไว้คอยควบคุม บังคับ หรือเพราะด้วยความเป็น ทุนนิยมเสรี ที่ออกจะให้ความสำคัญกับของเรื่องเงินๆ ทองๆ มากกว่าเรื่องชีวิตมนุษย์มนา ก็แล้วแต่ เชื้อไวรัส H1N1 หรือที่เรียกๆ กันว่า ไข้หวัดหมู มันจึงออกจะมีเสรีภาพ มีประชาธิปไตย และมีสิทธิแห่งเชื้อโรคชน สูงกว่าเชื้อไวรัส Covid-19 ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า และส่งผลให้บรรดามวลมนุษย์ทั้งหลาย ต้องเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง กันไปเป็นจำนวนไม่น้อย...

                                                                     ------------------------------------------------

      ส่วนช่วงระหว่างนี้...เมื่อดันต้องเจอเชื้อไวรัส Covid-19 ขึ้นมาอีกครั้งแบบจะจะ จังๆ ดูเหมือนว่าบรรดาประเทศประชาธิปไตยเสรีทั้งหลาย ไม่ว่าเยอรมันที่มีผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดๆ พราดๆ ไปแล้วกว่าร้อยราย ฝรั่งเศสของโรแบส ปิแอร์ หรืออองตวนใดๆ ก็แล้วแต่อีกเป็นร้อยราย รวมถึงอเมริกาที่ตายไปแล้ว 1 ราย ชักเริ่มๆ หันมาให้ความสนใจต่อกรรมวิธีรับมือกับเชื้อไวรัส Covid-19 ของประเทศจีนกันมั่งแล้ว คือเริ่มเห็นความสำคัญของ ความเป็นเผด็จการ ว่าถ้าหากมันถูกนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ถูกจังหวะ ถูกเรื่อง ถูกราว หรือเผด็จการเพื่อความ ถูกต้อง-เป็นธรรม จริงๆ แล้วล่ะก็ มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่น่าเกลียด น่าชัง ไปในทุกเรื่อง ทุกราว เผลอๆ อาจดีกว่า เท่กว่า เก๋กว่า ประชาธิป...ตาย ใดๆ ซะด้วยซ้ำ...

                                                                    ------------------------------------------------

      อันนี้...ก็แล้วแต่จะเก็บไปคิด เก็บไปเป็นการบ้านกันเอาเองก็แล้วกัน แต่เอาเป็นว่า...อย่างน้อยด้วยเหตุเพราะ อาจารย์โกวิท ท่านดันโผล่ขึ้นมา ในช่วงจังหวะที่บรรดาเด็กๆ ในบ้านเรา ต่างโหยหา ปรารถนา สิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพ และ ประชาธิปไตย ซะเหลือเกิน เลยคงต้องขอฝากเด็กๆ เหล่านี้ ให้ลองเก็บไปคิดเป็นการบ้าน เก็บเอาไปทำรายงานส่งอาจารย์ ก่อนลงไปนอนกลิ้ง นอนหงาย กันกลางถนน กันดูอีกที...

                                                                     ------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Japanese proverbs... Man may bend to virtue, but virtue cannot bend to man.- คนจะต้องหันเข้าหาคุณธรรม เพราะคุณธรรมไม่อาจหันเข้าหาคน...

                                                                    -----------------------------------------------