นายอำเภอนำตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าตรวจค้นร้านรับซื้อของเก่าในอำเภอวิหารแดง ผงะ พบคนงานกำลังรีไซเคิลหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ตั้งแต่ซัก รีด แล้วบรรจุกล่องเพื่อเตรียมส่งขาย หญิงเจ้าของอ้าง แค่นำมาคัดแยกก้านเหล็กทำโครงหน้ากากมาหลอมขายเท่านั้น แต่สุดท้ายถูกแจ้งความดำเนินคดี 
    บ่ายวันที่ 2 มีนาคมนี้ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง จ.สระบุรี, พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผ.ก.ก.สภ.วิหารแดง, พ.ต.ท.ชูเกียรติ สุขประเสริฐ สว.สส., นายประชา ธนบัตรวิโรจน์ นักวิชาการสาธารณสุข อ.วิหารแดง, พ.ต.ท.สำราญ โสรีกุน พนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง พร้อมกำลังฝ่ายความมั่นคง และนายพรชัย แย้มพลอย กำนัน ต.หนองสรวง เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่า พบกลุ่มชายวัยรุ่นรวม 6 คน กำลังแบ่งหน้าที่กันทำงาน ส่วนหนึ่งคัดแยกหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นของใช้แล้ว บางคนทำหน้าที่ใช้เตารีดรีดหน้ากากอนามัยให้ดูเหมือนใหม่ก่อนบรรจุใส่กล่อง ซึ่งเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างก็หยุดทำงาน 
    นอกจากนี้ที่เพิงพักติดกับตัวบ้าน เจ้าหน้าที่ยังพบเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ 1 เครื่อง เตารีด 2 ตัว ถุงบิ๊กแบ็กและกล่องกระดาษขนาดใหญ่อีกหลายใบบรรจุหน้ากากอนามัยทั้งที่ผ่านการคัดแยกแล้วและยังไม่ได้คัดแยกอีกจำนวนมาก วางทับซ้อนกันอยู่ ส่วนที่พงหญ้าห่างจากตัวบ้านเล็กน้อย พบหน้ากากอนามัยที่ชำรุดใส่ถุงกองทิ้งไว้เป็นจำนวนมากเช่นกัน ประมาณว่ามีหน้ากากอนามัยทั้งหมดเป็นหมื่นชิ้น
    จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังนี้เป็นของนางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบออกไปธุระนอกบ้าน โดยมีนายคุณานนท์ อายุ 17 ปี ลูกชายทำหน้าที่ดูแล คุมคนงานอยู่ ให้การว่า หน้ากากอนามัยที่พบนำมาจากโรงงานอุตสาหกรรม แต่ไม่ทราบว่าที่ใด ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพราะส่วนใหญ่แม่จะเป็นผู้ดูแล สำหรับหน้ากากอนามัยที่ผ่านการรีดและพับเรียบร้อยกำลังบรรจุกล่องเพื่อจัดส่งไปจำหน่าย โดยว่าจ้างกลุ่มวัยรุ่นมาทำงานคัดแยกหน้ากากอนามัยดังกล่าว ให้ค่าจ้างอันละ 1 บาท แต่ละคนทำได้วันหนึ่ง 3-400 อัน
    จากนั้นนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง ได้โทรศัพท์พูดคุยสอบถามนางจินตนา เจ้าของบ้านดังกล่าว ถึงแหล่งที่มาของหน้ากากอนามัย และสอบถามว่านำหน้ากากอนามัยจำนวนมากเหล่านี้มาทำอะไร นางจินตนากล่าวว่า นำมาจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง แต่ไม่บอกว่าที่ใด โดยแจ้งแก่นายอำเภอว่าได้นำหน้ากากอนามัยเหล่านั้นมาคัดแยก นำเหล็กที่ประกอบอยู่ในหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปหลอมละลายนำแร่เหล็กไปขาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
    นายสมศักดิ์เปิดเผยว่า จากหลักฐานหน้ากากอนามัยจำนวนมากที่พบ ประกอบกับพฤติกรรมในการรีไซเคิลหน้ากากอนามัยเหล่านี้ รวมถึงคำให้การของลูกชายเจ้าของบ้าน ขัดกันกับผู้เป็นแม่ จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนทำบันทึกตรวจยึดหน้ากากอนามัยเหล่านี้ไว้ทั้งหมด และนำบางส่วนส่งไปพิสูจน์ถึงที่มาของหน้ากากอนามัย รวมถึงให้ตรวจสอบใบอนุญาตการทำการค้ารับซื้อของเก่าว่าถูกต้องหรือไม่ และมอบให้สำนักงานสาธารณสุข อ.วิหารแดงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง ในฐานะผู้เสียหายหากมีการนำหน้ากากอนามัยที่มีการรีไซเคิลแล้วนำกลับไปจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งนับเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง.