ปัญหาคาราคาซัง วิน จยย.ยกพวกรุมยำแกร็บไบค์ แค้นแย่งลูกค้า ผู้โดยสารหญิงโดนลูกหลงเจ็บไปด้วย ตำรวจปรับ 3 ผู้ก่อเหตุคนละ 1 พัน แถม กทม.เตรียมลงโทษซ้ำยึดเสื้อวิน
    เมื่อวันที่ 2 มีนาคมนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Amittaa Phongsawat ได้โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ขับขี่แกร็บและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่บริเวณถนนสุขุมวิท 48 พร้อมระบุข้อความว่า "เหตุการณ์เกิดที่คอนโดฯ ตรงซอยสุขุมวิท 48 วันนี้เรียกแกร็บไปยิมปกติ แต่วินหน้าปากซอยขี่รถมาปาดรถแกร็บ ดีที่เราไม่ตกรถหรืออะไร หลังจากนั้น เบอร์ 26 ก็เริ่มตีแกร็บแล้ว มีคนมารุมอีกสามสี่คน (นี่คือคิดว่าจะมาห้ามเพื่อน เปล่าเลยมาช่วยเพื่อนรุม) เราคนเรียกแกร็บก็โดนลูกหลงที่หน้า อย่างนี้ได้หรอคะ" 
    มีรายงานต่อมาว่า หลังเกิดเหตุ นายทัศดา ฝักฝ่าย ผู้ขับขี่แกร็บไบค์ พร้อมผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สน.คลองตัน เพื่อเอาผิดวินจักรยานยนต์รับจ้างที่ก่อเหตุ
    นางสาวอมิตา เข้าใจกลาง อายุ 24 ปี ผู้เสียหายและผู้โพสต์คลิป ระบุว่า คนขี่วิน จยย.รับจ้างเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน และเกิดการทำร้ายร่างกายกันจนตนโดนลูกหลงเกือบตกจากรถและได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ซึ่งตนพยายามห้ามปรามแล้ว แต่ไม่เป็นผล เหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต เพราะวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ใกล้กับคอนโดฯ และจดจำใบหน้าเธอได้ ก่อนหน้านี้รับว่าใช้บริการวิน จยย.หน้าคอนโดฯ แต่เคยได้กลิ่นเหล้าจากคนขับขี่วินทั้งที่เป็นช่วงเช้า จึงหันมาเรียกแกร็บไบค์แทน
    นอกจากนี้ มีผู้เสียหายชาวอินเดียเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ ระบุว่าถูกคนขี่ จยย.รับจ้างกลุ่มเดียวกันข่มขู่ด้วย โดยชาวอินเดียคนนี้เรียกใช้บริการแกร็บไบค์ช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ระหว่างทางถูกคนขี่วิน จยย.ขี่รถปาดหน้า พร้อมไล่ตนลงจากรถ เหตุการณ์ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดเหตุการณ์ที่ชายขับขี่แกร็บไบค์อีกคน ซึ่งมารับผู้โดยสารผู้หญิง ถูกรุมทำร้าย
    ด้านจักรยานยนต์รับจ้างวินเบอร์ 6 ตามภาพในคลิป บอกว่า ก่อนเกิดเหตุหนุ่มแกร็บไบค์ไล่ตะโกนด่าให้ของลับกับวินเบอร์ 26 ก่อน ทำให้วินเบอร์ 26 ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปปาดหน้า และตนขับขี่ จยย.ตามมาทีหลัง เห็นเพื่อนล้มจึงเข้าไปช่วย ยืนยันไม่ได้รุมทำร้ายหรือกระชากหนุ่มแกร็บไบค์แต่อย่างใด 
    ต่อมาตำรวจติดตามจับกุมวิน จยย.พร้อมพวกอีก 2 คนที่ก่อเหตุได้ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน โดยพบว่ามีกลุ่มคนขับขี่แกร็บไบค์จำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อน เช่นเดียวกับกลุ่มวิน จยย.รับจ้าง ก็มาให้กำลังใจเช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างตะโกนต่อว่ากัน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง 
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันจันทร์ ภายหลังเกิดเหตุ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจคู่กรณี ที่ขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์รับลูกค้าตัดหน้า อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ไปรักษาตัวและชันสูตรบาดแผลการถูกทำร้าย พร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างทั้ง 3 คน ในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ” ซึ่งผู้เสียหายได้ยินยอมให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คนละ 1,000 บาท 
    อย่างไรก็ตาม การขับแกร็บ เป็นการนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการลักษณะรับจ้าง ใช้รถผิดประเภท ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 23/1 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และในกรณีผู้ขับขี่รถ ไม่มีใบขัขี่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกวดขันจับกุมมาโดยตลอด หากแต่การทำร้ายร่างกายผู้อื่น จะด้วยเหตุที่ไม่พอใจ รับลูกค้าตัดหน้าหรือมาแย่งลูกค้าของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ย่อมเป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ควรหลีกเลี่ยงการกระทำนั้นเสีย แล้วไปพัฒนาการให้บริการต่อประชาชนผู้รับบริการ ในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย จนได้รับการยอมรับและไว้วางใจดีกว่า
    ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทาง กทม.ได้ตรวจสอบข้อมูลกรณีนี้แล้ว พบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 ราย เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะสมาชิกวินปากซอยสุขุมวิท 48 ได้ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นวิธีการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง ทาง กทม.จึงเสนอให้ใช้มาตรการยึดเสื้อวินต่อผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่เข้าข่ายความประพฤติไม่เหมาะสมตามข้อ 13 แห่งประกาศคณะกรรมการประจำกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดสถานที่ตั้งวินและหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2563 
    โฆษก กทม.กล่าวว่า ในวันที่ 3 มี.ค. เวลา 09.00 น. ทาง กทม.จะเชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำพื้นที่เขตคลองเตย ร่วมประชุมที่ฝ่ายเทศกิจ ชั้น 3 สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ตามมาตรการยึดเสื้อวินต่อไป ทั้งนี้ กทม.เข้าใจดีถึงปัญหาระหว่างผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะกับผู้ให้บริการรับผู้โดยสารเอกชน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกกำลังหาทางออกร่วมกันสำหรับทุกฝ่าย.