2มี.ค.63-ที่หอประชุมคุรุสภา - สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจัดงาน 75 ปี การสถาปนาสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา “มุ่งสร้างมาตรฐานและจิตวิญญาณความเป็นครู สู่คุณภาพการศึกษาไทย”  โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษหัวข้อ “การยกรดับมาตรฐานการผลิต การคัดกรอง การใช้และการพัฒนาครู ว่า หลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่ง รมว.ศธ.แล้วได้เห็นการขับเคลื่อนงานของคุรุสภาที่สร้างประโยชน์ต่อการผลิตและวางรากฐานครูไปสู่ภาระกิจงานของคุรุสภาที่ดำเนินการร่วมกับสถาบันผลิตครู ซึ่งจากนี้ไปคุรุสภาจะต้องเป็นผู้วางรากฐานวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูงอย่างมีคุณภาพ เพราะหากการศึกษาไทยจะขับเคลื่อนได้ต้องเกิดจากบุคลากรครูที่จะทำให้เกิดการต่อยอดและพัฒนาการศึกษาไปสู่ความสำเร็จ

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ประเทศไทยกำลังสู่ภาวะวิกฤตไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการมีโรคระบาดเกิดขึ้น แต่ตนก็ต้องการให้มีการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการที่ครูจะต้องเรียนรู้วิกฤตเหล่านี้ไปสู่การต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อนำไปสู่ผู้เรียน ขณะที่การพัฒนาผู้เรียน ตนต้องการให้มีการพัฒนากระบวนการคิดตั้งแต่ระดับปฐมวัย เพราะหากเริ่มพัฒนากระบวนการคิดในระดับมัธยมศึกษาจะไม่มีประโยชน์ เนื่องจากเด็กไม่ได้เรียนรู้กระบวนการคิดวิเคราะห์ตั้งแต่เล็ก ดังนั้นหากเรามีหลักสูตรที่สร้างกระบวนการคิดให้แก่เด็กจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน รวมถึงตนจะจัดงบประมาณส่วนหนึ่งมาพัฒนาครูทั้งระบบ พร้อมกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ครูในอนาคต

“ผมอยากเปลี่ยนความคิดคนใหม่ โดยไม่อยากให้มองว่าผิดเป็นครู แต่ครูต้องเป็นคนเก่งทั้งด้านวิชาการและคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งหากครูไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพแล้วจะมาเป็นครูไม่ได้  เพราะถือว่าไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็ก อีกทั้งการที่ผมได้สัมผัสครูประมาณ ร้อยละ 95 ทุกคนอยากเป็นครูที่ดีและเก่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแก้ปัญหาจรรยาบรรณวิชาชีพนั้น ผมไม่ต้องการให้คนไม่ดีมาเป็นครู เนื่องจากผมเห็นข้อมูลการลงโทษดำเนินคดีกับครูที่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องทุจริต ยาเสพติด และล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่มีหลักฐานการกระทำผิดที่ชัดเจน แต่สาเหตุใดกระบวนการสอบสวนถึงมีความล่าช้า ดังนั้นหากมีคดีใดที่พบหลักฐานชัดเจนจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที เพราะผมไม่ต้องการให้คนไม่ดีกลับมาเข้ามาเป็นครูได้อีกต่อไป”รมว.ศธ.กล่าว