2 มี.ค. 63 – เมื่อเวลา 08.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังรักษาการอุปทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าพบว่า เราได้ติดต่อผ่านทางสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ช่วยเจรจากับทางบริษัทผู้ผลิตยาที่เพิ่งได้ลิขสิทธิ์ในการผลิตยาที่ทางการจีนประกาศว่ามีสรรพคุณที่ใช้ได้ดีกับผู้ป่วย ให้ช่วยเจรจาเพื่อให้ทางการไทยได้ซื้อยาได้ตัวนี้ได้ โดยขอให้เป็นนโยบายพิเศษ เพราะขณะนี้ทางการจีนยังไม่อนุญาตให้มีการขายยาตัวนี้ออกนอกประเทศ เนื่องจากในประเทศเขายังมีความต้องการมาก แต่เราบอกเขาว่าความจริงที่ต้องการยาตัวนี้มาเพื่อนำมารักษาคนจีนที่ป่วยในประเทศไทย จึงขอให้ช่วยประสานงานเพื่อให้เราซื้อได้ ซึ่งทางจีนให้ความร่วมมือเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวว่า ทางองค์การเภสัชกรรมได้ยามาส่วนหนึ่งแล้วจากบริษัทผู้ผลิต ซึ่งใช้คอนเน็กชั่นในการที่เป็นผู้ผลิตยาด้วยกัน นำเข้ามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ยาที่อยู่ในสต็อกของกระทรวงสาธารณสุข หากสถานการณ์ไม่บานปลายไปมากกว่านี้ เรามีมากเพียงพอที่จะเอามารักษาผู้ป่วยได้ ขอย้ำว่ายาไทยที่เราผลิตเองก็รักษาได้ อย่างกรณีที่ใช้ผู้ป่วยที่ รพ.ราชวิถีสามารถยับยั้งอาการของโรคนี้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นตามข่าวที่ว่าเราขาดยา ไม่มียารักษาโควิด-19 นั้นไม่เป็นความจริง ยิ่งตอนนี้เรายิ่งมีความมั่นใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ดูจากผู้ป่วย 43 ราย เสียชีวิตไป 1 ราย ซึ่งการเสียชีวิตยังต้องไปดูว่าเสียด้วยโควิด-19 หรือโรคอื่นที่ผู้ป่วยเป็นอยู่แล้ว เพราะตอนผู้ป่วยเข้ามารักษาตัวมีอาการค่อนข้างหนักอยู่แล้ว แต่ในผู้ป่วย 43 คน กลับบ้านไปแล้ว 28 คน ดังนั้นมีผู้ป่วยอยู่ 13-14 คน ซึ่งการรักษาโดยใช้ยาของเราเอง ขณะนี้พยายามเร่งผลิตให้เพียงพอกับความต้องการและยืนยันว่าเพียงพอแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันต้องยอมรับว่า โควิด-19 ยังไม่มียารักษา แต่ยาที่ใช้เป็นลักษณะของการประคองอาการให้ผู้ป่วยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับโรคได้ ขอให้มั่นใจว่ายาเรามีพร้อมและสามารถนำมาใช้รักษาประคองอาการโควิด-19 ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะมีการประกาศเรื่องสำคัญในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับควิด-19 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องของประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย เป็นการประกาศบูรณาการทั้งหมด ที่ผ่านมาตนได้เรียบเรียงเรื่องต่างๆ ขอบเขตของกฎหมาย อำนาจที่อยู่ภายใต้กฎหมายมีอะไรบ้าง ซึ่งนายกฯคงจะไปรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ด้วย
เมื่อถามว่า จะเป็นการประกาศให้เป็นโควิด-19 ขึ้นเป็นระดับ 3 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยัง ถ้าในทางการแพทย์ตอนนี้ยังไม่ใช่ระยะที่ 3 เพราะระยะที่ 3 ต้องเป็นการติดต่อจากคนสู่คนในประเทศในลักษณะที่เป็นคนหมู่มาก ตอนนี้เรายังอยู่ในระยะที่ 2 อยู่ ขอไม่ต้องกังวลกันมาก เพียงแต่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล ให้ความร่วมมือกันทุกฝ่าย
ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนใหญ่ควรให้ผู้ป่วยเป็นผู้ใส่ เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปยังผู้อื่น สำหรับผู้ที่ไม่ป่วยนั้นไม่จำเป็น กรณีที่มีการขาดตลาดนั้น เรารู้ว่ามีการกักตุน ซึ่งทางกรมการค้าภายในคงมีการดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่อยากฝากให้ทุกคนคิดใช้หน้ากากที่ทำมาจากผ้า และสามารถนำมาซักได้ เพราะเราต้องการแค่ปิดอวัยวะที่รับเชื้อได้เท่านั้น ดังนั้น หากส่วนใหญ่ใช้หน้ากากที่ทำจากผ้ากันเอง คนที่กักตุนไว้จะนำออกมาขายแน่นอน
เมื่อถามกรณีที่มีนักวิทยาศาสตร์ออกมาตั้งข้อสังเกตว่ายิ่งใส่หน้ากากยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้ประชาชนเริ่มสับสน นายอนุทิน กล่าวว่า จะให้กรมควบคุมโรคชี้แจงเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับตรงนี้ ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจและให้คิดว่าจะต้องกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ตลอด ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในที่แออัด มีคนเยอะ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |