คุยกันไปเอง ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถานไม่รับปากว่าจะยอมแลกนักโทษกับตอลิบันตามที่สหรัฐรับปากกับตอลิบันตามข้อตกลงที่ลงนามกันเมื่อวันเสาร์ แต่ยืนยันว่าการพักรบชั่วคราวนาน 7 วันก่อนหน้านี้จะดำเนินต่อไป

ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี แถลงข่าวเกี่ยวกับ "ความตกลงเพื่อนำสันติภาพสู่อัฟกานิสถาน" (AFGHAN PRESIDENCY PRESS OFFICE / HANDOUT / Anadolu Agency via Getty Images)

    ข้อตกลงที่รัฐบาลสหรัฐและตัวแทนของตอลิบันลงนามกันที่กรุงโดฮาของกาตาร์เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ กำหนดกรอบเวลาที่ทหารอเมริกันและทหารต่างชาติทั้งหมดจะถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานภายใน 14 เดือน โดยตอลิบันให้คำมั่นว่าจะเปิดการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลคาบูลอย่างครอบคลุมมากขึ้น และจะขับไล่นักรบญิฮาดกลุ่มอื่นๆ รวมถึงอัลกออิดะห์ ออกจากอัฟกานิสถาน

    อย่างไรก็ดี ข้อตกลงที่สหรัฐและตอลิบันเจรจาต่อรองอันเองโดยรัฐบาลอัฟกันไม่เกี่ยวข้องด้วยนี้ ยังระบุไว้ด้วยว่า ตอลิบันจะปล่อยนักโทษ 1,000 คน แลกกับที่รัฐบาลอัฟกันปล่อยนักโทษตอลิบัน 5,000 คน ก่อคำถามว่าเหตุใดสหรัฐจึงได้ระบุไว้ในข้อตกลงเช่นนั้น และเป้าหมายนี้จะบรรลุได้อย่างไรหากรัฐบาลอัฟกันไม่เห็นชอบด้วย

    ประธานาธิบดีกานีกล่าวว่า การปล่อยตัวนักโทษนั้นไม่อยู่ในอำนาจของสหรัฐ แต่เป็นอำนาจของรัฐบาลอัฟกัน ประเด็นนี้อาจปนอยู่ในวาระการเจรจาภายในระหว่างคนอัฟกันด้วยกันเอง แต่ไม่ใช่มากำหนดเป็นเงื่อนไขไว้ล่วงหน้าก่อนการเจรจา

    ขณะเดียวกัน กานีกล่าวว่า ระยะเวลาของการ "ลดความรุนแรง" ที่ยาวนาน 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันลงสนามข้อตกลงประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐกับตอลิบันนั้นจะขยายเวลาออกไป

    "การลดความรุนแรงจะดำเนินต่อไปด้วยเป้าหมายเพื่อให้บรรลุการหยุดยิงอย่างสมบูรณ์" กานีแถลงข่าวที่กรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมกับเสริมว่า พลเอกสกอต มิลเลอร์ ผู้บัญชาการสหรัฐที่บัญชาการกองกำลังผสมนานาชาติในอัฟกานิสถาน บอกให้ตอลิบันปฏิบัติตามด้วย เขาจึงคาดว่าการพักรบจะมีผลต่อไปอีก

    แหล่งข่าวในตอลิบันยังไม่ให้ทัศนะเรื่องนี้ ที่ผ่านมาตอลิบันปฏิเสธจะเจรจากับรัฐบาลอัฟกันที่พวกเขามองว่าเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของสหรัฐ แต่ข้อตกลงถอนทหารต่างชาติจำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือของรัฐบาลอัฟกัน โดยทั้งสองฝ่ายนัดเจรจากันวันที่ 10 มีนาคมนี้ คาดว่าน่าจะจัดที่กรุงออสโลของนอร์เวย์.