อำมหิตกว่า 'โควิด-๑๙' 


เพิ่มเพื่อน    


    ก็เตือนกัน....
    หากยังมีการชุมนุมแฟลชม็อบไปเรื่อยๆ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ ความรับผิดชอบต่อสังคมต้องมาก่อนเสมอ 
    แม้จะกล่าวได้ว่า การชุมนุมทางการเมืองเพื่อไล่เผด็จการ ก็ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ก็ยังมีความผิดชอบที่มากกว่านั้น
    นั่นคือรับผิดชอบต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รวมไปถึงคนในครอบครัว
    ผู้หลักผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ที่นั่งเชียร์เด็กอยู่ข้างหลัง ก็ควรจะเลิกเสียทีกับการเสียดสีที่ไร้ประโยชน์ 
    เช่น สุชาติ สวัสดิ์ศรี โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า
    ....ใครกันแน่ที่เป็น "เชื้อโรค"?
    ปล่อยนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแบบไม่จำกัด ทั้งที่ "โควิด ๑๙" เข้าประเทศระยะที่ ๓ แล้ว แล้วยังมีการชุมนุมแข่งรถที่บุรีรัมย์ แต่ทำไมกลับจ้องเล่นงานการแสดงออกของคนหนุ่มสาว โดยการออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมการชุมนุม......
    ถามว่าโพสต์ข้อความแบบนี้มีประโยชน์อะไร
    การใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีใครห้ามได้ 
    นักเรียน นิสิต นักศึกษา จะชุมนุมในสถาบันศึกษาต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีใครห้าม 
    ศิลปินแห่งชาติกินเงินเดือนภาษีประชาชน เดือนละ ๒๕,๐๐๐ บาท สวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาลอีกต่างหาก ขอถาม สุชาติ สวัสดิ์ศรี ว่าทำงานเพื่อสังคมคุ้มเงินภาษีประชาชนบ้างหรือยัง 
    ขณะนี้สถานการณ์โควิด-๑๙ ยังเป็นแค่ระดับ ๒ แต่พยายามปั้นเฟกนิวส์ให้ขึ้นเป็นระดับ ๓ 
    แล้วที่โพสต์ข้อความมา รู้หรือเปล่าว่า ระดับ ๒ กับ ๓ ต่างกันอย่างไร 
    โควิด-๑๙ ในประเทศไทยอยู่ระดับ ๒ คือสามารถสืบทราบได้ว่าติดมาจากใคร แหล่งไหน 
    ส่วนระดับ ๓ คือมั่วไปหมด ไม่รู้แหล่งที่มา ไม่รู้ใครติดจากไหน 
    มันเป็นความงี่เง่าของศิลปินแห่งชาติผู้นี้ หรือความไม่รู้กันแน่ 
    เมื่อคุณบอกว่า โควิด-๑๙ ในประเทศเข้าระยะที่ ๓ แล้ว ยังจะสนับสนุนให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ชุมนุมต่อไป ใจคุณอำมหิตมาก 
     เพราะมันจะติดกันมั่วไปหมด 
    เด็กอาจติด โควิด-๑๙ ในพื้นที่ชุมนุม พาไปติดคนที่บ้าน พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้อง สุดท้ายอาจไม่มีชีวิตอยู่ดูประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ก็ได้ 
    แต่สถานการณ์ ณ ขณะนี้ อยู่ระดับ ๒ และรัฐบาลเขาร้องขอว่า อย่าเพิ่งชุมนุมช่วงของการระบาดนี้ได้หรือไม่ 
     ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้ติด ไวรัส โควิด-๑๙  
    มันก็มีอยู่แค่นั้น 
    ไอ้เรื่อง พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็รู้กันอยู่ มันยังไม่ถึงเวลา สถานการณ์มันยังไม่ได้ ประกาศใช้ไปก็จะมีแต่ปัญหา
    รัฐบาลเขาทำตามขั้นตอน ราชกิจจานุเบกษาเพิ่งจะประกาศให้ โควิด-๑๙ เป็นโรคติดต่ออันตรายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ๒๕๕๘ มีผลบังคับใช้ในวันที่ ๑ มีนาคม ที่ผ่านมา
    ก็เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย 
    ใครปกปิดมีความผิดขั้นติดคุก
    ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว ๑ ราย ไม่ควรตื่นตระหนก แต่อย่าประมาท 
    ฉะนั้นอย่าหน้ามืดตามัว หันมองดูข้อมูลรอบๆ ตัว แล้วตัดสินใจให้ถูกต้อง ถ้าดื้อดึงแล้วทำให้ สถานการณ์โควิด-๑๙ ในไทยเป็นเหมือนที่เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน เผชิญอยู่ จะรับผิดชอบกันไหวไหม
    มันคุ้มกับประชาธิปไตยเตะหมูเข้าปากหมาหรือเปล่า
    จำไว้นักการเมืองอ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจอมปลอมเกือบทั้งนั้น    
    เช่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา มันไม่มีหรอกประชาธิปไตย 
    เล่ห์เหลี่ยม เงินตรา และอำนาจต่างหากที่คนพวกนี้ต้องการ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"