‘ไม่ใช่เพื่ออนาคตใหม่  แต่เพื่ออนาคตเรา...’


เพิ่มเพื่อน    

    นี่คือหนึ่งในหลายๆ ประโยคจากแวดวง Flash Mobs ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จี้ตรงจุดของอารมณ์และความรู้สึกของนักศึกษาที่รวมตัวเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองของตน
    "อนาคตเรา" เป็นหัวใจของประเด็นจริงๆ สำหรับคนรุ่นนี้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ, การเมือง, สังคมและความมั่นคงส่วนตน
    เพราะสังคมไทยตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของโลก คนไทยตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง และติดกับดักวงจรอุบาทว์แห่งรัฐประหารสลับกับการเลือกตั้งมายาวนาน
    คุณภาพการเมืองที่ประเมินจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดก็ยังเป็นแบบเดิมๆ ที่นักการเมืองยังวนเวียนอยู่กับการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตน แทนที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง
    พรรครัฐบาลอยู่ร่วมกันก็เพื่อตำแหน่งแห่งหน กลุ่ม ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่ออกมาบอกว่าจำใจต้องยกมือให้รัฐมนตรีบางคนที่ "ไม่น่าไว้วางใจ" เพราะเป็นมติพรรค จำใจต้องฝืนหลักการของตนเอง ก็ไม่อาจจะตอบคำถามของคนไทยทั่วไปได้ว่า พวกเขาเคารพในความรู้สึกของชาวบ้านที่เลือกเข้าไปเพียงใด
    เมื่อพรรคเพื่อไทยกับอนาคตใหม่แตกกันอย่างเปิดเผย เพราะมีความระแวงในกันและกันว่ามีการแอบไปตกลงกับผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนหรือไม่ ก็สร้างความผิดหวังให้ประชาชนไม่น้อย
    อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ที่ตระเตรียมทำการบ้านมาซักฟอกรัฐมนตรีหลายคนไม่ได้ทำหน้าที่ เพราะแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่บริหารเวลาและการทำงานร่วมกันไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ก็เท่ากับยังเป็นการเมืองน้ำเน่าแบบเดิม
    การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เดิมอ้างว่าจะมี "หมัดเด็ด" เพื่อล้มรัฐบาลได้ เอาเข้าจริงๆ ก็มีแต่โวหารและลูกเล่นเก่าๆ
    เนื้อหาสาระจริงๆ ที่มาจากการค้นคว้าหาข้อมูลและเจาะลึกมิได้มีให้เห็นปรากฏอย่างชัดเจนแต่ประการใด
    คนรุ่นใหม่เห็นความเป็นไปของการเมืองเช่นนี้ย่อมมองไม่เห็นว่า พวกตนจะมีความหวังว่าคุณภาพการเมืองจะดีขึ้นเพื่อเสริมสร้างอนาคตของพวกเขาอย่างไร
    นักเรียนนักศึกษาวันนี้ต้องเผชิญกับคำถามต่างๆ อีกมากมายที่เกี่ยวกับอนาคตของตนเอง เช่น
    เมื่อประเทศไทยกลายเป็นสังคมคนสูงวัยหรือ Aging Society เต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พวกเขาและเธอจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเลี้ยงดูผู้อาวุโส ทั้งในแง่ครอบครัวตนเองและในฐานะเป็นหนึ่งในสมาชิกของสังคมในภาพรวม
    เมื่อสังคมสูงวัยขึ้น ค่าใช้จ่ายของรัฐในการดูแลสุขภาพที่เริ่มเสื่อมถอยของประชากรส่วนนี้ก็ย่อมจะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว 
    นั่นหมายความว่า คนที่อยู่ในวัยทำงานจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นเพื่อให้รัฐมีรายได้พอเพียงที่จะให้บริการคนในวัยชรามากขึ้น
    เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น อายุของคนยาวนานขึ้น ก็ยิ่งทำให้คนสูงวัยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์สำหรับคนกลุ่มนี้ก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
    นี่คือภาระในอนาคตของคนรุ่นใหม่วันนี้ที่จะหนักกว่าคนรุ่นก่อนและรุ่นปัจจุบัน
    ไม่แต่เท่านั้น คนรุ่นใหม่วันนี้กำลังเจอกับ disruption อันเกิดจากเทคโนโลยีที่มากระทบคนทุกอาชีพทุกวงการและทุกวัย จนทำให้ระบบการศึกษาปัจจุบันไม่อาจตอบโจทย์ของสังคมยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 วันนี้ได้
    คนรุ่นใหม่วันนี้ยังไม่สามารถบอกตนเองได้ว่าจบไปแล้วจะได้งานทำหรือไม่ และงานที่รอพวกเขาอยู่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้านั้นจะต้องการคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร
    บางสำนักวิเคราะห์ว่าร้อยละ 85 ของงานที่จะมีในอีก 10 ข้างหน้าจะเป็นตำแหน่งที่ไม่มีอยู่ในวันนี้ เพราะความต้องการของตลาดจะเปลี่ยนไป ผู้บริโภควันข้างหน้าจะเรียกร้องสิ่งที่แตกต่างไปจากวันนี้อย่างสิ้นเชิงเช่นกัน
    ดังนั้น นักเรียนมัธยมและนักศึกษามหาวิทยาลัยวันนี้จึงตกอยู่ในสภาพที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันรอบๆ ด้าน โดยที่รัฐบาล นักการเมือง และนักวิชาการที่คิดและทำแบบเดิมไม่มีคำตอบสำหรับพวกเขา
    จึงไม่ต้องแปลกใจหากคนรุ่นใหม่วันนี้จะออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม
    พวกเขาไม่ได้สู้เพื่อ (พรรค) อนาคตใหม่
    แต่พวกเขากำลังสู้เพื่ออนาคตของพวกเขาเอง!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"