รอง ผบก.ป.เผยคดีฆาตกรรมพี่ชายผู้พิพากษาคืบหน้าไปมาก คาดภายในเดือนนี้สรุปสำนวนได้แน่ เตรียมเรียกเมียและพี่ชาย พ.ต.ท.บรรยินสอบอีกครั้ง หลังพบประเด็นที่อาจเกี่ยวโยงกับคดี เจ้าหน้าที่ขนส่งรับหาป้ายทะเบียนให้ "บรรยิน" อ้างไม่รู้เอาไปสวมทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุ
    พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 มีนาคมนี้ ถึงความคืบหน้าจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภาภรณ์ และพวกรวม 6 คน ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษา ว่า ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ นั้นก็เกือบครบถ้วนเรียบร้อย คงเหลือสอบปากคำเจ้าหน้าที่แพทย์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกบางส่วนเท่านั้น เพราะยังต้องรอผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาอย่างเป็นทางการก่อน จึงจะทำการสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนได้ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนนี้ สำนวนคดีดังกล่าวน่าจะแล้วเสร็จ
    รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบปรามได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดินมาทำการรังวัดที่ดินตรงจุดที่พบเศษชิ้นส่วนกระดูกของนายวีรชัย ผู้ตาย ซึ่งเป็นป่ารกร้างบริเวณเขาใบไม้ จ.นครสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าที่ดินผืนดังกล่าวนั้นใครเป็นผู้ครอบครอง กระทั่งเมื่อทำการรังวัดและตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว จึงพบว่าที่ดินผืนดังกล่าวมีนางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ครอบครอง จึงได้เตรียมเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงว่านางวราภรณ์มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมด้วยหรือไม่
    นอกจากนี้เตรียมเชิญตัว ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชายของ พ.ต.ท.บรรยิน มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยอีกราย หลังแนวทางสืบสวนพบว่า ร.อ.จักรวาลเป็นผู้ติดต่อขอยืมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ 1 ในรถยนต์ของกลาง มาจาก พ.ต.ท.ประเสริฐ ผลประสาร เจ้าของ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ใน จ.พิจิตร เพื่อนำมาใช้งาน ก่อนที่ต่อมาทาง พ.ต.ท.บรรยิน น้องชาย จะนำรถคันดังกล่าวไปใช้ในการก่อเหตุ จึงจำเป็นต้องเชิญตัวมาสอบปากเพื่อให้คลายข้อสงสัยในส่วนนี้
    มีรายงานด้วยว่า ในส่วนของการสืบหาเบาะแสหลักฐานอื่นเพิ่มเติมนั้น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองปราบฯ ประสานนักประดาน้ำ ลงทำการงมค้นหาหลักฐานในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ต.กลางแดด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อีกครั้ง เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะพบหลักฐานสำคัญเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และจักรยานยนต์ รวม 4 แผ่น ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบแผ่นป้ายทะเบียน 2 ใน 4  แผ่นดังกล่าว เป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ พ.ต.ท.บรรยิน และพวก นำมาใช้ติดรถยนต์ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนอีก 2 แผ่นยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่
    นอกจากนี้ พ.ต.อ.เอนกยังได้เดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งรายหนึ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ หลังพบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นคนจัดหาแผ่นป้ายทะเบียนรถให้กับ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งคนดังกล่าวให้การว่า รู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยินมานานแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยินได้ติดต่อมาหาพร้อมกับขอแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะนำไปใช้ทำความผิดจึงให้ไป กระทั่งมารู้ภายหลังว่า พ.ต.ท.บรรยินนำแผ่นป้ายทะเบียนเหล่านี้ไปสวมตบตาเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ก่อเหตุดังกล่าว.