1มี.ค.63 -นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการคืนธงแดงของกลุ่มคนเสื้อแดงภาคอีสานกลับใจและมอบเสื้อขาวเปลี่ยนเป็นกลุ่มเรารักประเทศไทยที่จ.ขอนแก่น และมีข่าวว่า แกนนำ นปช.ออกมาโพสต์ข้อความว่าแกนนำเสื้อแดงยังอยู่กันครบไม่ได้หวั่นไหวกับการจัดงานดังกล่าวว่า​ ทุกคนที่ไปร่วมงานเป็นแกนนำเป็นแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัดที่ต้องการให้เกิดความรักความสามัคคีในบ้านเมืองมีความประสงค์อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ไม่อยากเห็นความแตกแยก แบ่งแยกสีเสื้อ เหมือนในอดีตอีกต่อไป  

นายสุภรณ์ ระบุว่า เขาอยากมีความเป็นหนึ่งเดียวคือหมู่บ้าน"คนรักประเทศไทย" ตนเองอยากถาม นายณัฐวุฒิ มันเสียหายตรงไหนเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงอยากให้บ้านเมืองสงบและมีการสร้างงานสร้างอาชีพส่งเสริมรายได้โดยเดินตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งหลังการจัดงานดังกล่าวได้มีพี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดงทุกภาคได้โทรศัพท์มาหาตนเองอยากให้ไปจัดงานลักษณะดังกล่าวเหมือนที่จัดทางภาคอีสาน  

นายสุภรณ์ ระบุว่า นายณัฐวุฒิมีนิสัยเดิมๆยังยึดมั่นในแนวทางเดิมคิดแต่เรื่องการเมืองจะล้มแต่รัฐบาลไม่ก้าวข้ามความขัดแย้งไม่เคยลืมอดีต มีคนอย่างนี้อยู่บ้านเมืองถึงเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ทำไมไม่บอกว่าตนเองทำแบบนี้ผิดตรงไหน ตนเองยืนยันว่าแกนนำคนเสื้อแดงมีความเห็นต่างกับนายณัฐวุฒิมีเยอะแยะ เขาอยากจะเข้ามาสร้างบ้านเมืองให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้โดยลืมอดีตไปหมดแล้ว การที่นายณัฐวุฒิ  บอกว่าแกนนำคนเสื้อแดงอยู่กับตัวเองนั้นไม่เป็นความจริงอย่าโกหกคนทั้งประเทศอีกต่อไปเลย และต่อไปตนเองจะประสานทุกกลุ่มทุกสีเสื้อรวมทั้ง กปปส.มาร่วมมือกันพัฒนาประเทศอย่างสร้างสรรค์ต่อไป

 ส่วนกรณีแฟลชม็อบที่เกิดขึ้นตามสถานศึกษาต่างๆทั่วประเทศและมีเฟซบุ๊ก ของนายสุภรณ์ เองออกมาโจมตีว่าคนที่ออกมาต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นคนเนรคุณและทรยศประเทศนั้น นายสุภรณ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นขบวนการที่ไม่บริสุทธิ์ ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยไปก้าวล่วงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาเลยและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวิชามารที่จ้องทำลายตนเอง เสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งระหว่างนักศึกษากับรัฐบาล ตนเองได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ ปอท.และตำรวจได้มีการขยายผลจนรู้ตัวผู้กระทำแล้ว 4-5 คน  ที่ผ่านมาคนที่อยู่ในรัฐบาลก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีไม่ว่าจะเป็นนายสิระ เจนจาคะ​ ส.ส.กทม.​ นายธนากร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ​ ซึ่งถูกปลอมเฟซบุ๊กและใส่ร้ายป้ายสีจนได้รับความเสียหายเป็นการสร้างความแตกแยกเสี้ยมให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งผู้ที่ถูกกระทำดังกล่าวก็ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดแล้วเช่นกันเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง​ ซึ่งในเร็วๆนี้จะมีการกระชากหน้ากากบุคคลเหล่านี้ออกมาว่าเป็นฝีมือของใคร 10​ กว่าปีที่ผ่านมามีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆจนทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและส่งผลให้ บ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้ว

นายสุภรณ์ ระบุว่า  ตนเองจึงอยากจะฝากถึงน้องๆนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ ณ วันนี้ประเทศชาติต้องการความสงบสุขความสามัคคีปรองดอง อะไรที่จะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้งต่อไปได้ด้วยความสงบราบรื่น ตนเองในฐานะที่เคยผ่านประสบการณ์ชุมนุมมามากพอแล้วจนรู้ว่าเราเจ็บปวด บอบช้ำและสูญเสียมามากพอแล้ว​ และไม่อยากให้เหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นอีกแล้ว เราควรมาจับมือร่วมแรง ร่วมใจ ทำงานให้บ้านเมืองก้าวหน้าเดินต่อไปได้นี้คือความปรารถนาสูงสุดของตน

นายสุภรณ์ ระบุว่า ในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยไปก้าวล่วงการชุมนุมของนักศึกษา​ เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยไปมีความเห็นหรือสั่งการใดๆและนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำกับทุกคนในรัฐบาลว่าอย่าไปให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นประเด็นใดๆที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งเพราะนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งอยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้​ นายกฯขอทุ่มเททำงานเต็มที่ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม​ เพราะความขัดแย้งที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ไม่มีประโยชน์ใดๆต่อชาติและประชาชนเลย.