(พลุสว่างไสวสวยงามตระการตาในงานบุญผะเหวด)
ภาคอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์ ทางด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะงานประเพณีที่เกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา ซึ่งสะท้อนเรื่องราวของการดำเนินชีวิตของผู้คน
ล่าสุด จังหวัดร้อยเอ็ดกำหนดจัดงาน “มหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด” ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2563 บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และเกาะกลางบึงพลาญชัย อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งถือเป็นงานประเพณีที่มีความสำคัญยิ่ง
นางสาวศิริวรรณ สีหาราช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น (รับผิดชอบพื้นที่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดการจัดงานประเพณีบุญผะเหวดว่า เป็นประเพณีที่คนไทยในภาคอื่นๆ รู้จักกันในนาม “เทศน์มหาชาติ” หรือ “เทศน์พระเวสสันดร” ซึ่งในภาษาอีสานเรียกว่า “เทศน์ผะเหวด” เป็นงานบุญเดือน 4 และเป็นหนึ่งในฮีต 12 ตามวิถีวัฒนธรรมของชาวอีสาน ถือเป็นประเพณีสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา
(ขบวนแห่พระอุปคุตพระราชทาน)
จังหวัดร้อยเอ็ด โดยคณะสงฆ์ ส่วนราชการหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้ร่วมใจกันจัดงานประเพณีบุญผะเหวดขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 เพื่อเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และให้ประชาชนสำนึกในคุณงามความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกำหนดให้การจัดงานประเพณีบุญผะเหวดเป็นงานประจำปีของจังหวัดร้อยเอ็ดสืบเนื่องติดต่อกันมาทุกปี โดยในปี 2563 นี้ นับเป็นปีที่ 30 ของการจัดงาน
(พระอุปคุต)
ภายในงาน มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563 ชมขบวนแห่พระอุปคุตพระราชทาน ส่วนช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป มีการแสดงแสง สี เสียงให้ชม ไฮไลต์ของการจัดงานคือ ขบวนแห่ “มหาทานบารมี ตำนาน พระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ ในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม เวลาประมาณ 09.30 น.เป็นต้นไป
(พิธีแห่ข้าวพันก้อนหนึ่งในกิจกรรมงานบุญผะเหวด)
เช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563 มีพิธีแห่ข้าวพันก้อน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ จากนั้นตั้งแต่ 08.30 น.เป็นต้นไป ฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ พร้อมพบกับขบวนแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายๆ การแห่ต้นผ้าป่าเพื่อนำไปถวายให้ที่วัด และการออกซุ้มข้าวปุ้น หรือขนมจีน ให้กินฟรีทั่วเมือง
นอกจากมาร่วมงานบุญอันเป็นมหากุศลแล้ว จังหวัดร้อยเอ็ดยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวสายบุญ อีกหลายแห่ง เช่น พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์ ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เกิดจากแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาของประชาชนและหลวงปู่ศรี มหาวีโร พระเถระฝ่ายวิปัสสนา ลูกศิษย์พระอาจารย์มั่นเป็นผู้สร้าง มีลักษณะเป็นพระมหาเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ ด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างแบบขององค์พระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม สูง 6 ชั้น ยอดฉัตรทองคำ มีความกว้าง ยาว และสูงอย่างละ 101 เมตร รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็ก 8 ทิศ สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่บนยอดภูเขาเขียว แนวเทือกเขาภูพาน สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงาม
แต่ละชั้นของพระมหาเจดีย์ ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ประดิษฐานรูปเหมือนสลักหินทรายของพระคณาจารย์ ปราชญ์อีสานในอดีตและหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโนในจำนวน 101 องค์ รวมทั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานซึ่งเก็บรวบรวมอัฏฐะบริขารของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ผู้ดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์อีกด้วย ชั้นบนสูงสุด เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รวมยอดทองคำเป็น 109เมตร ใช้ทองคำหนัก 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังเป็นพระมหาเจดีย์ 1 ใน 5 ตามเส้นทางไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมืองรุ่งเรืองตลอดชีวิต ซึ่งว่ากันว่า อานิสงส์ที่ได้รับจากการสักการะพระมหาเจดีย์ชัยมงคล จะช่วยเสริมส่งมงคลทางด้านการมีชัยชนะเหนือผู้อื่น
(วัดป่ากุง)
สำหรับผู้ที่มีศรัทธาต่อหลวงปู่ศรี มหาวีโร หรือพระเทพวิสุทธิมงคล สามารถไปที่ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ภายในมีเจดีย์หินทรายแห่งแรกของประเทศไทย จำลองแบบการก่อสร้างจากบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย สร้างลดหลั่นกัน 7 ชั้น ผนังด้านนอกแกะสลักหินบอกเล่าเรื่องราวพุทธศาสนา ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และบอกเล่าประวัติของหลวงปู่ศรีไว้โดยละเอียด
(เจดีย์มหามงคลบัว)
หากมีเวลาและยังอยากเดินสายไปไหว้พระที่วัดในสถานที่อื่นๆ ต่อ แนะนำให้ไปที่ วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวร้อยเอ็ดเป็นอย่างมาก
ยังมี พระเจดีย์มหามงคลบัว จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแวง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระเจดีย์สีทองโดดเด่นกลางสวน สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ด้านหน้ามีสระน้ำกว้าง บริเวณโดยรอบร่มรื่น นับเป็นเจดีย์เดียวที่ได้รับอนุญาตจากท่านหลวงตามหาบัวให้สร้างขึ้นในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้วางศิลาฤกษ์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยตัวท่านเอง เป็นศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในหลวงตามหาบัว ทั้งยังเป็นที่เผยแผ่ธรรมะและใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของชาวพุทธ
(หอโหวด และบึงพลาญชัย)
ทำบุญกันมาพอสมควรแล้ว แนะนำให้มาปิดท้ายกันที่ บึงพลาญชัย และหอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เมื่อมาเยือนจังหวัดร้อยเอ็ดแล้วไม่ควรพลาด ตัวบึงพลาญชัยเป็นเกาะกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวร้อยเอ็ด บนพื้นที่ 2 แสนตารางเมตร และมีหอชมเมืองรูปโหวด คนจึงนิยมเรียกกันว่า “หอโหวด” เป็นแลนด์มาร์คใจกลางเมืองร้อยเอ็ด ความสูงกว่า 101 เมตร สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ดได้อย่างชัดเจน
สุดท้ายแนะนำให้ไปชม Street Art 101 จังหวัดร้อยเอ็ด พื้นที่แนวอาร์ตสุดฮิปของจังหวัดร้อยเอ็ด พบกับกราฟฟิตี้สีสันสดใสบนกำแพงยาว 200 เมตร ยาวที่สุดของภาคอีสานบริเวณถนนคูเมืองทิศตะวันตกติดกับสวนเฉลิมพระเกียรติภูมิพลมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยกลุ่มศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานตามหัวข้อ “ร้อยเอ็ดในมุมมองของคุณ” ภาพที่ออกมาจึงมีความหลากหลายแล้วแต่ความคิดและจินตนาการของศิลปิน กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครๆ มาเมืองร้อยเอ็ดก็อยากมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
(วัดบูรพาภิราม)
ผู้สนใจร่วมกิจกรรมงานประเพณีบุญผะเหวดและเดินสายทำบุญที่จังหวัดร้อยเอ็ด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานขอนแก่น (รับผิดชอบพื้นที่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม) โทร. 0-4322-7714-6 หรือติดตามข้อมูลได้ที่ Facebook : TAT Khonkaen
สรณะ รายงาน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |