29 ก.พ. 63 - เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ลานหน้าเสาธง หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลุ่มนักศึกษาและประชาชนรวมตัวกันในกิจกรรมนัดซ้อมใหญ่แฟลชม็อบนักศึกษาทุกสถาบัน ในชื่อ "#คืนสู่เหย้าไม่เอาไอโอชา" แสดงพลังไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศ หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เพิ่งสิ้นสุดไป และกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยมีการนำลำโพงขยายเสียง มาตั้งบริเวณหน้าหอประชุมใหญ่เพื่อเป็นเวทีไฮด์ปาร์กชั่วคราว โดยมีนิสิตเก่า นิสิตปัจจุบันขึ้นปราศรัย และคอนเสิร์ตจากวง Rap Against Dictatorship

ขณะที่ผู้ร่วมชุมนุมได้รับแจกหน้ากากอนามัยและธงชาติสำหรับโบก นอกจากนี้ ยังมีนายวรัญชัย โชคชนะ นำพานรัฐธรรมนูญจำลองที่มีรถถังอยู่ข้างบน พร้อมกระดาษเขียนข้อความ "ยุคมืดประชาธิปไตย เสรีภาพถูกทำลาย รัฐธรรมนูญใต้รถถัง ซื้องูเห่า แจกกล้วย" และเทียนไขจุดสว่าง มาประกอบการชุมนุมเชิงสัญลักษณ์

ทั้งนี้ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ตำรวจบางเขน และอื่นๆ ทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังดูแลความเรียบร้อยจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยได้แจกกระดาษประชาสัมพันธ์ “ฮาวทูม็อบ ม็อบอย่างไรไม่ให้เหลือลุง เพื่อการลงถนนอย่างรู้เท่าทัน” ระบุให้ผู้ร่วมชุมนุม ตรวจสอบข้อมูลการชุมนุมให้เรียบร้อย อาทิ ประเด็นการชุมนุม รูปแบบกิจกรรม วันเวลา และสถานที่ การเดินทางและการใช้เวลาเดินทาง ที่สำคัญ ควรแต่งกายให้พร้อมกับทุกสถานการณ์และพกยาประจำตัว รวมถึงเอกสารแสดงการติดต่อญาติในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งผู้ชุมนุมควรเรียนรู้ข้อกฎหมายและสิทธิในการชุมนุม พร้อมช่วยสอดส่องภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดการชุมนุม

ขณะที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ในการออกมาชุมนุมไม่ใช่ลักษณะเรื่องพรรคการเมือง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ธรรมชาติ เพราะว่าความอยุติธรรมของประเทศมันเกิดขึ้นพร้อมกัน คนจึงออกมาพร้อมๆ กัน การยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่กระแส แต่ทุกคนมีเชื้อไฟในความไม่พอใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว ตราบใดที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังอย ู่เชื้อไฟก็ยังมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้คิดว่าจะได้เป็นโอกาสอันดีให้พี่น้องประชาชนแสดงออกในพลังประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะพลังบริสุทธิ์ของกลุ่มนักศึกษา

"ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่คนรุ่นผม แต่เป็นของคนทุกรุ่นทุกวัย ผมขอให้พี่น้องมาทำกิจกรรมในระหว่างที่พวกเราสอบ โดยพี่น้องออกมาแสดงพลังด้วยวิธีการไหนก็ได้ เช่น ใส่เสื้อดำ จุดเทียน แล้วหลังมิดเทอมพวกเราจะมารวมพลังกันทั้งนักศึกษา-ประชาชน แล้วจะได้เคลื่อนไหวแบบยกระดับ"

เมื่อถามถึงจุดสูงสุดในการจัดกิจกรรม นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราว่างเว้นจากการชุมนุมใหญ่ครั้งล่าสุดมาเป็น 10 ปีตั้งแต่ กปปส. ดังนั้น เราต้องมีการประเมินสถานการณ์ ซึ่งการยกระดับมีแน่ ตนกล้าพูดว่ายังไงก็มีแน่ ไม่หยุดแค่นี้อย่างแน่นอน แต่จะเป็นชุมนุมใหญ่เวทีเดียวหรือเดินขบวนหรือไม่ เราต้องคุยกันอีกที ขณะที่เวลานี้ สนท. เราก็ได้มีการประสานเครือข่ายนักศึกษา 20-30 กลุ่ม โดยเวลานี้ถือเป็นโอกาสอันดี เหมือนเขื่อนที่แตกแล้วไม่มีอะไรหยุด

ขณะที่ น.ส.สุพิชชา หนึ่งในนักศึกษาร่วมกิจกรรม กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้ก็มีทั้งกลุ่มศิษย์เก่า นิสิตนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยมารวมกัน โดยก่อนหน้านี้ครั้งแรกที่เราจัดใน ม.เกษตรศาสตร์ ก็มีรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่สอบถามมาที่จะร่วมกิจกรรมด้วยแต่ติดทำงาน เราจึงคิดว่าจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องวันเสาร์เพื่อจะให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากขึ้น

ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. นายพริษฐ์ขึ้นปราศรัย โดยยืนยันไม่มีใครมาปลุกปั่น ส่วนที่ใครหาว่ามีอาจารย์มาปลุกปั่น แกนนำนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังถูกเรียกไปด่า ตำรวจ-ทหารทยอยส่งคนมาสังเกตการณ์ สถานการณ์แบบนี้คนคิดเหมือน 14 ตุลาฯ ยุคนั้นเขาบอกทหารกลัวจนไม่กล้าแต่งเครื่องแบบ

เมื่อกล่าวถึงตอนนี้ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อมีวัยรุ่นชายคนหนึ่งสวมเสื้อเหลืองแดง เดินเข้าไปถามนายพริษฐ์ พร้อมถามสวนนายพริษฐ์ว่า "น้องคิดว่ามันจริงหรือ" ทำให้เกิดการฮือเข้าล้อมวัยรุ่นชายคนดังกล่าว ซึ่งการ์ดและแกนนำนิสิตนักศึกษาผู้จัดงาน พยายามกันพื้นที่เพื่อหาทางนำตัวชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากเป็นที่มุมอับ ซึ่งต่อมาทั้งการ์ดและแกนนำนิสิตนักศึกษาผู้จัดงาน ได้นำตัวชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่บริเวณด้านข้างหน้าหอประชุมใหญ่ ที่ใช้เป็นเวทีได้สำเร็จ ระหว่างนั้นก็มีการปราศรัยของนายพริษฐ์ต่อจนจบ ตามด้วยการปราศรัยของแกนนำคนอื่นต่อไป ช่วงหนึ่งยังได้ให้ผู้ชุมนุมเปิดไฟฉายมือถือเพื่อส่องแสงสว่างพิสูจน์จำนวนมวลชนด้วย