ชี้โชเฟอร์ตีนผีทำคนตาย 18 ศพที่วังน้ำเขียว ยังไม่เข้าข่ายเจตนาฆ่าหลังพยานระบุทิ้งรถกลางคันก่อนเกิดอุบัติเหตุ คมนาคมเรียกประชุมล้อมคอกรถบัส 2 ชั้น เตรียมออกประกาศห้ามวิ่งในเส้นทางลาดชัน-วิ่งข้ามจังหวัด ให้ทุกบริษัทตั้งผู้จัดการด้านความปลอดภัย
    เมื่อช่วงสายวันที่ 26 มีนาคมนี้ พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รักษาการรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยความคืบหน้าคดีรถบัส 2 ชั้นของบริษัท กันเองทัวร์นครราชสีมา พลิกคว่ำที่วังน้ำเขียว มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.อุดมทรัพย์ เจ้าของคดี ได้นำตัวนายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี คนขับรถบัส ไปขออนุญาตศาลฝากขังที่เรือนจำกลางนครราชสีมาตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยนายกฤษณะถูกแจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหา ประกอบด้วย ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส, ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และเสพยาเสพติดแล้วขับรถ โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำเรื่องขอเบิกตัวนายกฤษณะไปสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมทำสำนวนให้รัดกุมมากที่สุด
    อย่างไรก็ตาม จากที่มีข่าวว่าพยานผู้โดยสารที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวระบุว่า ก่อนที่รถบัสจะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ได้เห็นคนขับรถวิ่งหนีและกระโดดออกจากรถเพื่อเอาชีวิตรอดโดยทิ้งผู้โดยสารทั้งหมด เหมือนเป็นการจงใจที่จะฆ่าผู้โดยสารนั้น พ.ต.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องสอบปากคำพยานคนดังกล่าว แล้วนำคำให้การของพยานมาประกอบสำนวนคดี แต่ขณะนี้พยานรายนี้ได้กลับไปพักรักษาตัวที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะต้องเดินทางไปสอบปากคำพยานทั้งหมดที่จังหวัดกาฬสินธุ์อีกครั้ง แต่โดยปกติแล้วข้อหาพยายามฆ่าจะต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น มีการตั้งใจที่จะทำให้ผู้อื่นตาย หรือมีการทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งกรณีนี้พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนและพิจารณาว่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่
    ขณะที่การสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ และพยานแวดล้อมที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุไปแล้วจำนวน 25 ปาก ยังคงเหลือการสอบปากคำกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 18 ราย ซึ่งคงต้องรอให้งานฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นทั้งหมดเสียก่อน จึงจะสามารถสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้ และจะเร่งสรุปสำนวนคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
    วันเดียวกัน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสนับสนุนการกำหนดให้มีผู้จัดการความปลอดภัยด้านการขนส่งทางถนน ซึ่งมีผู้ประกอบการเดินรถโดยสารและขนส่งสินค้ากว่า 200 คนเข้าร่วม โดยกล่าวถึงปัญหาความปลอดภัยทางถนนที่กระทรวงขับเคลื่อนตลอด โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเส้นทางถนน สภาพรถ รวมถึงคนขับที่เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งวันนี้ได้ขอให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการตามนโยบายจัดตั้งผู้จัดการด้านความปลอดภัย หรือเซฟตี้แมเนเจอร์ ที่ผ่านมาบริษัทเดินรถขนาดใหญ่มักไม่ค่อยมีปัญหา จะมีเพียงบริษัทขนาดเล็ก ขอให้ตระหนักถึงความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เร่งรัดดำเนินการ
    นายอาคมกล่าวว่า ความปลอดภัยที่เจาะจงไปที่รถโดยสารไม่ประจำทาง หรือประเภท 30 รวมถึงประเภทสองชั้น มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น นอกจากแนวทางที่จะทยอยลดจำนวนรถสองชั้นจนหมดไปจากระบบแล้ว ยังขอให้กรมการขนส่งทางบกรับนโยบายไปดำเนินการทั้งเซฟตี้แมเนเจอร์ การออกกฎหมายและมาตรการควบคุมรถสองชั้นประเภท 30 โดยเฉพาะเส้นทางเดินรถ หลายครั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผู้ขับรถไม่ชำนาญเส้นทางก็เป็นความเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุ สำหรับมาตรการใหม่จะครอบคลุมกำหนดพื้นที่ให้รถสองชั้นวิ่งบางพื้นที่ เช่น ภายในจังหวัด ไม่ข้ามระหว่างภูมิภาค หรือเส้นทางที่มีพื้นที่ลาดชันเกิดความเสี่ยง นอกจากนี้ ขอให้ผู้ประกอบการรถ 30 จัดทำข้อมูลประสานจังหวัดกำหนดคู่มือ เพื่อให้คนขับพัฒนาการขับขี่ตามเส้นทาง ขณะที่มาตรการรองรับสงกรานต์นั้น ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อม โดยขณะนี้กำชับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เร่งคืนผิวถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับผู้สัญจรมากที่สุด
    นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า แนวทางที่กระทรวงสั่งการให้ควบคุมรถ 30 สองชั้นให้วิ่งในเส้นทางจำกัดนั้น จะต้องไปพิจารณาข้อมูลเพิ่มหลายประเด็น เช่น ต้องออกกฎหมายควบคุมลักษณะใด รวมทั้งจะต้องหารือผู้ประกอบการ สมาคมรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อแจ้งให้รับทราบแนวทางที่ภาครัฐจะออกมาตรการเพิ่ม ส่วนการให้ข้อมูลผู้ประกอบการรถ 30 ที่มักจะวิ่งในเส้นทางที่ไม่ชำนาญ ที่ผ่านมาได้มีแนวทางประสานขนส่งจังหวัดให้ข้อมูลเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ขับรถต่อเนื่อง
    ขณะที่นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถ 30 มีสมาคมเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหพันธ์ด้วยนั้น ทางสหพันธ์จะขอหารือสมาคมรถ 30 เพื่อหามาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับผู้ขับเพิ่ม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ รวมทั้งรับทราบถึงแนวปฏิบัติของกระทรวงคมนาคมที่จะออกมาควบคุมเส้นทางต่างๆ ของรถโดยสารสองชั้น อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาความปลอดภัย อยากให้ภาครัฐดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการครบวงจร โดยเฉพาะปัญหาขาดพนักงานขับรถ ปัจจุบันภาคขนส่งโลจิสติกส์ขาดแคลนนับแสนอัตรา ส่งผลให้บางครั้งผู้ประกอบการไม่สามารถเลือกคนขับรถตามมาตรฐานได้.