กองทัพ‘งูเห่า’เต็มสภา! ‘ปชป.’โอดกลั้นใจยกมือ


เพิ่มเพื่อน    

  งูเห่าโผล่อีก! 3 ส.ส.เสรีรวมไทย-2 เสียงเพื่อไทยโหวตไว้วางใจ "บิ๊กป้อม" 5 ส.ส.เศรษฐกิจใหม่งดออกเสียง "ธรรมนัส" 17เสียง ปชป.ไม่ไว้วางใจ รมช.เกษตรฯ แต่จำใจโหวตตามมติพรรค บี้นายกฯ นำไปทบทวน ปธ.วิปรัฐบาลดี๊ด๊าเตรียมแค่ 269 เพิ่มมาเอง "ศรีสุวรรณ" ร้อง กกต.ฟัน ส.ส.ขายตัว เอาผิดถึงขั้นยุบพรรค

    ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการออกเสียงในญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งปรากฏว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจน้อยที่สุดใน 6 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยได้เสียงไว้วางใจ 269 เสียง ไม่ไว้วางใจ 55 เสียง และงดออกเสียง 7 เสียง  
     จากการตรวจสอบการลงญัตติของสำนักรายงานการประชุมและชวเลข พบว่าเสียงของ 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 5 คน แต่สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส กลับมีมติงดออกเสียง ได้แก่ นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่ 2 เสียงที่งดออกเสียง คือ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นปกติของการทำหน้าที่ในสภา ทั้งนี้ พบว่า ร.อ.ธรรมนัสได้ลงคะแนนเป็นไว้วางใจให้กับตนเองด้วย 
    ขณะที่เสียงลงมติของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด 277 เสียง ซึ่งมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมถึง 5 เสียง พบว่าเสียงที่สนับสนุนให้กับ พล.อ.ประวิตรนั้น มาจากเสียงของ 5 ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน แบ่งเป็น จากพรรคเสรีรวมไทย 3 คน ได้แก่ น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายวัชรา ณ วังขนาย ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายอำไพ กองมณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และมาจากพรรคเพื่อไทย จำนวน 2 คน ได้แก่ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี  และนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.
    อย่างไรก็ตาม ในการออกเสียงของ 2 ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้น ไม่พบการลงมติใดๆ ใน 5 รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่การออกเสียงของ น.ส.นภาพร ก่อนหน้านั้นได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุมว่า การออกเสียงของตนเองในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์นั้น ได้ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ แต่เกิดข้อผิดพลาดเพราะคะแนนไม่ขึ้น อย่างไรก็ดี ในการชี้แจงดังกล่าวไม่ระบุข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับรัฐมนตรีคนอื่น ทั้งนี้ ใน 4 รัฐมนตรีที่เหลือ คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ร.อ.ธรรมนัส และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น น.ส.นภาพรยืนตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ให้ออกเสียงไม่ไว้วางใจ
    สำหรับเสียงไว้วางใจรัฐมนตรี ที่มียอดลงคะแนนเกินกว่าจำนวน ส.ส.ที่สังกัดพรรคร่วมรัฐบาล  11 เสียงนั้น จากการตรวจสอบการลงคะแนน พบว่า เป็น ส.ส.ของพรรคประชาชาติ 1 เสียง คือนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี, ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 10 คน  โดย 9 คนนั้นเปิดตัวว่าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ 1.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น 3.นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่, 4.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา, 5.ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. 6.นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี 7.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ 8.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. และ 9.นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนอีก 1 คน คือนายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร แต่ยังไม่ทราบว่าย้ายไปสังกัดพรรคใด 
    ส่วนการออกเสียงของนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่สอง ได้ออกเสียงไว้วางใจให้กับรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด 6 คน ขณะที่นายชวนและนายสุชาตินั้นใช้สิทธิงดออกเสียง ส่วนคะแนนไว้วางใจและไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่แตกต่างกันแล้ว ยังพบว่ามี ส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมไม่เท่ากันด้วย
งูเห่าพท. 2 เสรีรวมไทย 3
    นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่โหวตไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ด้วยคะแนนที่มากกว่าที่เราเตรียมการไว้ ส่วนคะแนนของ พล.อ.ประวิตร ที่มากกว่ารัฐมนตรีคนอื่นนั้น เพิ่มขึ้นมาจากพรรคเพื่อไทย 2 เสียง และพรรคเสรีรวมไทย 3 เสียง ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ถือว่าอยู่ในระนาบเดียวกัน ส่วนคนที่คะแนนเกิดอุบัติเหตุต้องขออภัย หลังจากนี้จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ให้คะแนนอยู่ในระนาบเดียวกันให้ได้มากที่สุด การลงมติครั้งนี้ถือเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย คะแนนเสมอกันไม่มีอะไรบิดเบี้ยว แต่แปลกใจที่ผู้เสนอไม่ไว้วางใจไม่อยู่ร่วมโหวตด้วย ยืนยันรัฐบาลสามารถยืนด้วยขาตัวเองได้ อย่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งเราโหวตเฉพาะเสียงรัฐบาล 
    เมื่อถามว่า คะแนนเสียงที่เตรียมการไว้คือเท่าไร? นายวิรัช กล่าวว่า 269 เสียง และคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ก็มาเต็มเปรี๊ยะ ส่วนคะแนนที่เพิ่มมานั้นไม่ทราบจริงๆ ว่าเพราะอะไร และคะแนนที่เพิ่มเราไม่สามารถควบคุมได้
    ในช่วงเช้า นายสาทิตย์? วงศ์หนองเตย? ส.ส.ตรัง? พร้อมด้วยนายเทพ?ไท? เสนพงศ์? ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายอันวาร์? สาและ? ส.ส.ปัตตานี? และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์? ส.ส.บัญชีรายชื่อ? พรรคประชาธิปัตย์? ร่วมกันแถลงก่อนโหวตญัตติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 
    ?โดยนายสาทิตย์ กล่าว?ว่า? เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุมหารือถึงการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี  โดยที่ประชุมของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า?มีจำนวน? 5? คนที่เราไม่ติดใจ แต่มีการถกกันมากในกรณีของ? ร.อ.ธรรมนัส? ซึ่ง ส.ส.จำนวนมากในพรรคเห็นว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องคดีที่ประเทศออสเตรเลีย ทั้งคุณวุฒิการศึกษา และประเด็นอื่น รวมถึงมีการหยิบยกประเด็นอื่นๆ กันขึ้นมา เพื่อหารือว่าจะลงมติกันอย่างไร? จนในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ต้องใช้วิธีลงมติกัน ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องใช้วิธีนี้ ผลปรากฏว่า?เห็นควรลงมติไว้วางใจ 24 เสียง และลงมติไม่ไว้วางใจ 17 เสียง ถือเป็นเสียงไม่ไว้วางใจที่มีค่อนข้างมาก
    "พวกผม 4 คนอยู่ใน 17 เสียง ที่เห็นว่ายังไม่ควรไว้วางใจ? ร.อ.ธรรมนัส แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มีมติเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องทำตามมติพรรค ส่วนที่ต้องออกมาแถลงข่าวเพื่อต้องการส่งสัญญาณถึงนายกฯ และคณะรัฐมนตรีว่า การได้เสียงไว้วางใจจะนับเฉพาะในสภาไม่ได้ ควรจะฟังเสียงประชาชนภายนอกด้วย จึงขอเรียกร้องไปยังผู้นำรัฐบาลจะต้องหยิบประเด็นนี้ไปทบทวน หยิบประเด็นนี้ไปคำนึงถึงอย่างสำคัญและเอาจริงเอาจัง? เพื่อความมั่นคงของรัฐบาลที่ต้องขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของประชาชนทั่วประเทศ" นายสาทิตย์ระบุ
ภท.เฉ่ง 2 ส.ส.ลูกเสี่ยตือ
    มีรายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทยแจ้งว่า ในช่วงเช้าก่อนลงมติอภิปรายฯ พรรคภูมิใจไทยได้มีการประชุม ส.ส.เป็นการภายใน โดยให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็น ซึ่งมี ส.ส.บางคนไม่พอใจการชี้แจงของรัฐมนตรีบางคนที่ไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ แต่แกนนำพรรคระบุว่าพรรคจำเป็นต้องโหวตสนับสนุน เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเรื่องวินัยของพรรคสำคัญที่สุด ดังนั้นจึงส่งผลให้ ส.ส.ทั้ง 61 คนโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่กรณีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย  และนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ไม่ลงคะแนนเสียงลงมติขอปิดการอภิปรายในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคคเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ได้สร้างความไม่พอใจให้กับแกนนำพรรคถึงขั้นมีการตำหนิและไปพูดคุยกับนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ซึ่งเป็นบิดาว่าบุตรชายควรคำนึงถึงวินัยของพรรคมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนรุ่นใหม่
    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง? (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำหลักฐานคลิปเสียงการเจรจาชักชวนอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เข้าร่วมพรรคการเมือง มายื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายขัดมาตรา 30 และมาตรา 31  ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ? (พ.ร.ป.)? ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดเสนอให้ หรือรับ ให้ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงโดยอ้อมเพื่อจูงใจ ให้บุคคลสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง   
    นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การซื้อขายตัว ส.ส.กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำได้ และเป็นเรื่องที่น่าอับอาย เพราะนักการเมืองควรเป็นบุคคลตัวอย่างของประเทศ แต่กลับมีพฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับโสเภณีการเมือง เอาเงินมาเป็นที่ตั้ง ซึ่งคลิปเสียงที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่นำมาเผยแพร่ จึงถือเป็นหลักฐานสำคัญว่ามีการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวแล้ว ซึ่งมาตรา 92 (3) ในกฎหมายเดียวกัน ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำลายล้าง เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองที่กระทำการดังกล่าวได้ และ ส.ส.ที่มีพฤติกรรมขายตัว กฎหมายก็กำหนดโทษไว้ในมาตรา 109 ว่าอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ควรให้เกิดขึ้นในระบบการเมืองไทย กกต.จึงควรสอบสวนวินิจฉัย ถ้าพบว่าเป็นความผิด ก็ควรเสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง และยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้เอาผิด ส.ส.ที่ขายตัว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"