ตุรกีพิโรธ ซีเรียโจมตีทางอากาศที่จังหวัดอิดลิบฆ่าทหารตุรกี 33 นาย ประกาศเปิดพรมแดนให้ผู้ลี้ภัยทะลักเข้ายุโรป ด้านรัสเซียโทษทหารตุรกีคลุกคลีกบฏก่อการร้ายซีเรีย พร้อมส่งเรือรบ 2 ลำติดมิสไซล์ครูซไปคุมเชิงนอกฝั่งซีเรีย "แอร์โดอัน-ปูติน" รีบต่อสายเจรจาคลี่คลายความตึงเครียดก่อนบานปลาย

ฮูลูซี อาการ์ รัฐมนตรีกลาโหมตุรกี ขณะดูปฏิบัติการของหน่วยสนับสนุนภาคพื้นดินและอากาศโจมตีเป้าหมายของฝ่ายอัสซาดในจังหวัดอิดลิบ จากศูนย์บัญชาการในจังหวัดฮาทายติดชายแดนซีเรีย เมื่อวันศุกร์

    การโจมตีทางอากาศที่จังหวัดอิดลิบในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาส่งผลให้ทหารตุรกีเสียชีวิต 33 นาย และบาดเจ็บอีก 32 นาย ทำให้จำนวนทหารตุรกีที่สังเวยชีวิตในการสู้รบที่ภูมิภาคนั้นเพิ่มเป็น 54 นายแล้วในเดือนนี้

    เพื่อตอบโต้การสังหารทหารของตนซึ่งรัฐบาลตุรกีกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกองทัพซีเรีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกีรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ตุรกีจะไม่ขัดขวางผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่ต้องการเดินทางไปยังยุโรปอีกต่อไป นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศจัดตั้งเขตห้ามบินเหนือเมืองอิดลิบด้วย

    กองทัพของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด รุกโจมตีจังหวัดติดชายแดนตุรกีแห่งนี้เมื่อเดือนธันวาคม เพื่อยึดคืนพื้นที่จากฝ่ายกบฏที่มีตุรกีหนุนหลัง ทำให้ชาวเมือง 1 ล้านคนทิ้งถิ่นฐาน ขณะที่ตุรกีส่งทหารหลายพันนายและยุทโธปกรณ์หนักเข้าสู่ซีเรีย โดยประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน เตือนว่า ตุรกีจะเปิดการรุกโจมตีเต็มรูปแบบเพื่อขับไล่ทหารซีเรียหากไม่ยอมถอนกำลังออกจากที่ตั้งตรวจการณ์ของตุรกีในภูมิภาคนั้น

    ตุรกีมีที่ตั้งตรวจการณ์ 12 จุด ที่จัดตั้งตามข้อตกลงปี 2561 ระหว่างตุรกีกับรัสเซีย เพื่อป้องกันกองทัพซีเรียรุกคืบเข้าจังหวัดอิดลิบที่ฝ่ายกบฏควบคุมอยู่

    ด้านสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซีย อ้างคำแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันศุกร์ ถือหางฝ่ายซีเรียว่า ทหารตุรกีถูกฆ่าตายเพราะการวางกำลังอยู่เคียงข้างฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ที่โดนปืนใหญ่ของกองทัพซีเรียโจมตีขณะพยายามขับไล่กองกำลังของกลุ่มก่อการร้าย ทั้งที่ทหารตุรกีไม่ควรอยู่ในพื้นที่นั้น และข้อมูลที่ตุรกีแจ้งต่อรัสเซียก็บอกไว้ว่าไม่มีทหารตุรกีที่นั่น

    รัสเซียอ้างว่าไม่มีเครื่องบินรบรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาสในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และรัสเซียพยายามช่วยเต็มที่เมื่อรู้ว่ามีทหารตุรกีอยู่ด้วย ซึ่งรวมถึงการขอให้ซีเรียหยุดยิงปืนใหญ่และให้ตุรกีได้อพยพทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิต

    ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียเปิดเผยว่า เรือรบ 2 ลำของกองเรือทะเลดำ ได้แล่นผ่านช่องแคบบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดาเนลล์ของตุรกี เพื่อมุ่งสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรือฟริเกต 2 ลำนี้ ได้แก่ เรือแอดมิรัลมาคารอฟและแอดมิรัลกรีโกโรวิช ซึ่งติดตั้งมิสไซล์ครูซคาลิเบอร์

    แม้การส่งเรือรบติดอาวุธหนักไปยังน่านน้ำนอกชายฝั่งซีเรียจะเกิดในช่วงเวลาตึงเครียดเช่นนี้และเป็นการเคลื่อนกำลังพร้อมกันถึง 2 ลำ แต่โฆษกกองทัพรัสเซียยืนกรานว่าการเดินทางผ่านของเรือรบ 2 ลำเป็นกิจวัตรปกติตามแผนที่วางไว้

    ด้านรัฐบาลตุรกีปฏิเสธคำอธิบายของรัสเซียเกี่ยวกับการโจมตีที่อิดลิบเมื่อวันพฤหัสบดี โดยรัฐมนตรีกลาโหมฮูลูซี อาการ์ แถลงทางโทรทัศน์ตุรกีว่า ระหว่างการโจมตีครั้งนั้น ไม่มีกลุ่มติดอาวุธอยู่ใกล้หน่วยทหารของตุรกี และการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นทั้งที่ตุรกีประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัสเซียแล้ว โดยตุรกีเตือนถึงการมีทหารตุรกีในพื้นที่นั้น แต่การโจมตียังคงดำเนินต่อไปไม่หยุด

    ความตึงเครียดที่น่าวิตกว่าจะบานปลาย ทำให้ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีแอร์โดอันของตุรกีเมื่อวันศุกร์ ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องมีมาตรการใหม่เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและทำให้สถานการณ์ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งสองยังเห็นชอบให้จัดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดอิดลิบด้วย.