มหาธีร์-อันวา: ละครน้ำเน่าการเมืองสมบูรณ์แบบ


เพิ่มเพื่อน    

 

    การเมืองมาเลเซียวันนี้กลายเป็น "ละครน้ำเน่า" สมบูรณ์แบบ

                มีทั้งน้ำตา เสียงหัวเราะ ทรยศหักหลัง เปลี่ยนขั้ว สับขาหลอก เบี้ยวสัญญา โกหกหน้าด้านๆ และ  "รัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ"

                วันจันทร์ที่ 2 มีนาคมนี้ จะเป็นวันตัดสินว่าระหว่างมหาธีร์ โมหะหมัด และอันวา อิบราฮิม ใครจะมีเสียงคะแนนในสภามากกว่ากัน

                ไหนว่าสองเสือแดนสิงห์นี้หันมาปรองดองเพื่อชาติ คว่ำอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัคได้ด้วยผลการเลือกตั้ง "ปาฏิหาริย์" เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2018 แล้วมหาธีร์เป็นนายกฯ สองปีจะส่งไม้ต่อให้อันวามิใช่หรือ?

                นั่นคือ "ข้อตกลงสุภาพบุรุษ" ระหว่างสองศัตรูคู่แค้นในช่วงสงครามพันตูเพราะมี "ศัตรูร่วมเฉพาะกิจ" คือนาจิบ

                ทั้งสองต่างรู้ว่าถ้าไม่มีอีกคนหนึ่งก็ไม่อาจจะชนะศึกสงครามใหญ่ครั้งนั้นได้

                เราจึงเห็นปรากฏการณ์ที่คาดไม่ถึง เมื่อท่านผู้เฒ่าวัย 94 อย่างมหาธีร์ต้องยอมเดินไปหาอันวาที่คุกเพื่อขอให้ "สมานฉันท์" กันเพื่อคว่ำนาจิบ

                และทั้งสองก็ทำสำเร็จ ท่ามกลางความยินดีปรีดาของคนมาเลเซียทั้งประเทศที่เชื่อว่า "รุ่งอรุณ" ทางการเมืองได้เกิดขึ้นแล้ว

                แต่ผ่านไปได้ปีเศษๆ เท่านั้น ละครน้ำเน่าฉากนี้ก็ระเบิดขึ้น

                เหตุที่เกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ก็เพราะคนของอันวาออกมาให้สัมภาษณ์ต่อเนื่อง ทวงถามการส่งไม้ต่อจากมหาธีร์ให้แก่อันวาเมื่อเส้นตายสองปีเข้ามาใกล้

                มหาธีร์ย้ำทุกครั้งที่ถูกถามเรื่องนี้ว่า "ผมจะรักษาคำพูด"

                อันวาก็จะพูดเอาอกเอาใจเสมอว่า "ผมเชื่อว่าท่านมหาธีร์จะรักษาคำพูด ผมรอได้ ไม่มีปัญหา"

                แต่ทั้งสองเป็นนักการเมืองเก๋าเกม ที่พูดให้สาธารณชนฟังกับที่คิดในใจเป็นคนละเรื่องกัน

                และแล้ววันอาทิตย์ที่ผ่านมาสงครามเต็มรูปแบบก็ระเบิดขึ้น เมื่อมหาธีร์ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายกฯ อ้างว่าไม่พอใจที่ลูกพรรค Bersatu ของตนไปจับมือกับพรรคฝ่ายค้าน UMNO กับ PAS เพื่อจะจัดตั้งรัฐบาลผสมใหม่

                วันเดียวกันนั้น อันวาก็ตะโกนเสียงดังว่าถูก "หักหลัง" โดยลูกน้องมือขวาที่ชื่อ Azmin Ali (ที่เป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจของมหาธีร์ด้วย) ได้แยกตัวออกจากพรรค PKR ของเขาพร้อมกับ ส.ส.อีก 11 คน เพื่อไปร่วมตั้งรัฐบาลผสมใหม่กับพรรค Bersatu ของมหาธีร์และ UMNO กับ PAS เพื่อสนับสนุนให้มหาธีร์กลับมาเป็นนายกฯ

                เห็นชัดว่านี่เป็นแผนสกัดไม่ให้อันวาขึ้นมาเป็นนายกฯ แทนมหาธีร์

                อันวาไปหามหาธีร์ มหาธีร์บอกว่าเขาไม่รู้เรื่องการไปจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เป็นเรื่องพวก ส.ส.กันเอง

                และเพื่อให้เห็นสมจริงสมจัง ท่านผู้เฒ่าก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานพรรค Bersatu ของตัวเองเพื่อประท้วงที่ลูกพรรคไป "สร้างเรื่อง" ที่เขาไม่เห็นด้วยขึ้นมา

                อันวาให้สัมภาษณ์ว่าเขาเชื่อว่ามหาธีร์ไม่ได้เป็นคนวางแผนหักหลังเขา

                ต่อมามหาธีร์ก็ได้รับแต่งตั้งเป็น "รักษาการนายกฯ"

                สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในการเมืองมาเลเซียก็เกิดขึ้น เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีมีรับสั่งให้บรรดา ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลเดิมและฝ่ายค้านเข้าเฝ้าฯ เพื่อจะได้ประเมินว่าเสียงส่วนใหญ่ในสภาที่มี ส.ส. 222 คนนั้นจะสนับสนุนใครเป็นนายกฯ

                มหาธีร์ประกาศว่าเขาพร้อมจะกลับมาเป็นนายกฯ หากจะมีการจัดตั้ง "รัฐบาลสมานฉันท์" หรือ  Unity Government ที่ไม่เกี่ยวกับจำนวนที่นั่งของพรรคการเมืองในสภา หากแต่จะถือเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง

                ท่านผู้เฒ่าบอกว่ายังไงๆ เขาก็ไม่เอา UMNO และ PAS มาร่วมรัฐบาลผสม เพราะเขาถือว่า UMNO  มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชันและโยงไปถึงอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัคที่กำลังถูกสอบสวนเรื่องการโกงเงินมหาศาลจากเงินกองทุน 1MDB ที่อื้อฉาวมาหลายปี

                แต่มหาธีร์บอกว่าถ้าตั้ง "รัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ" และให้เขากลับมาเป็นนายกฯ จะขอแต่งตั้งรัฐมนตรีโดยไม่เลือกตามพรรค แต่จะเลือกเป็นตัวบุคคลแทน

                ถึงตอนนี้อันวารู้แล้วว่าถูกหักหลังแน่นอน จึงวิ่งเต้นให้พรรคใหญ่ 3 พรรคสนับสนุนเขาให้เป็นนายกฯ

                อันวาแถลงข่าววันเดียวกับมหาธีร์ว่าเขาได้ 92 เสียงจากสามพรรคหลัก คือ PKR ของเขา 39 เสียง  พรรค DAP (ของคนจีนในมาเลเซีย) 42 และพรรค Amanah 11 เสียง

                ฝั่งมหาธีร์มี 64 เสียงคือ Bersatu 26 พรรคจาก Sarawak 18 พรรค Warisan 9 และกลุ่มของ  Azmin ที่แยกตัวจากอันวา 11

                กลุ่มฝ่ายค้านมี 60 เสียง ประกอบด้วย UMNO (39), PAS (18), MCA (2), MIC (1)

                แปลว่าหากกลุ่มฝ่ายค้านเทให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะทำให้ซีกนั้นชนะไป

                แต่เอาเข้าจริงๆ ทั้งมหาธีร์และอันวาก็ไม่อาจจะยอมรับเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านได้ เพราะได้เคยประณาม UMNO เอาไว้อย่างรุนแรง ถึงขั้นไม่ยอมเผาผีกันทีเดียว

                ถึงจุดนี้มหาธีร์กับอันวาก็กลับมาเผชิญหน้ากันในฐานะศัตรูซึ่งๆ หน้าอีกครั้งหนึ่ง

                กลายเป็นสถานการณ์ "เข้าทางตัน" หรือ deadlock เพราะไม่มีใครมีเสียงเกินครึ่งหรือ 112 ที่นั่งในสภา

                ทางออกที่หากไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตั้ง "รัฐบาลเสียงข้างน้อย" หรือ "รัฐบาลแห่งชาติ" ตามที่มหาธีร์เสนอ ก็คือการยุบสภาให้คนมาเลเซียตัดสินใจใหม่ว่าจะเอาใคร

                แผนเดิมที่สมเด็จพระราชาธิบดีจะทรงประเมินว่าใครได้คะแนนมากกว่าเป็นอันล้มไป เพราะนักการเมืองทั้งหลายพลิกไปผันมาตลอดเวลา เชื่อน้ำคำไม่ได้เลย

                พระองค์จึงทรงส่งเรื่องกลับมาให้รัฐสภาตัดสินเองในวันจันทร์นี้

                ครบสูตร "ไม่มีมิตรและศัตรูถาวรในการเมือง"

                และ "เสร็จศึกฆ่าขุนพล".

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"