ฝ่ายค้านต้มกันเอง ส้มหวานโวยพท.พูดกินเวลาไม่ให้แตะ‘ป้อม-ป๊อก’


เพิ่มเพื่อน    

 กฐินไม่ไว้วางใจวันสุดท้ายเทกระจาด อรุณรุ่งร่วงไม่เป็นท่า “ศรัณย์วุฒิ” ร่ายยาวเหมือนเล่นลิเกกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งท้าสาบาน-ร่างพินัยกรรม สุดท้ายถูก “วิษณุ” ยกคำโบราณ “ก้านบัวบอกลึกตื้นชลธาร” ตอกกลับนิ่มๆ ก่อนเฉลยเรื่องที่ดินโรงงานยาสูบ “ดอน” ร่วมซัดอภิปรายขึงขังแต่ข้อมูลเบาหวิว ฝ่ายค้านบริหารเวลาพลาดทำ 3 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่อดจ้อ เด็กส้มหวานข้องใจฮั้วไม่แตะ “ป้อม-ป๊อก” ซัดเพื่อไทยทำมวยล้มต้มคนดู เพราะมีพิรุธตั้งแต่ให้ “ประวิตร” อยู่คนสุดท้าย พท.อ้างกำหนดมาแต่ต้น พลาดแค่เรื่องบริหารเวลา

    เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ หลังประธานสภาฯ  ได้สั่งพักการประชุมเมื่อเวลา 02.42 น. ที่ได้อภิปราย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    โดยการอภิปรายที่เป็นไฮไลต์และใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเป็นของนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มีการอภิปรายรัฐมนตรีถึง 3 รายคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ
    ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิได้เริ่มอภิปรายในกรณีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ระบุว่าทำให้เกิดความเสียหาย 84,000 ล้านบาท จากการต่อสัมปทานของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส แต่ถูกเตะถ่วงด้วยนายดอนจนเหลือค่าปรับที่ไทยได้รับเพียง 1,225 ล้านบาท จึงเป็นที่น่าสงสัยว่ารัฐบาลมีส่วนได้เสียจากค่าปรับที่ลดลงหรือไม่ นอกจากนั้น
นายวิษณุยังมีความพยายามกดดันให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือบริษัทนี้ แต่การแทรกแซงเตะถ่วงไม่สำเร็จ เพราะอัยการสูงสุดยืนยันว่าต้องฟ้อง 
“เป็นการใช้เทคนิคเพื่อช่วยต่างชาติ ทำให้ลดภาษีที่ควรจะปรับแปดหมื่นล้านบาทเหลือพันกว่าล้านบาท แทนที่จะแก้กฎหมายแค่ 2 เรื่องตามที่เอกชนร้องขอ แต่กลับไปแก้ในส่วนที่บริษัทต่างชาติได้ประโยชน์”
นายศรัณย์วุฒิยังได้ไล่เรียงเหตุการณ์ว่า เกี่ยวข้องกับนายดอน,  นายวิษณุ และ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมระบุอีกว่า นอกจากช่วยต่างชาติแล้วยังไม่สะใจ ยังทำลายบุหรี่ไทยพังยับเยินถาวร โกงจนโรงงานยาสูบพังทั้งระบบ กระทบคนกว่า 2 ล้านชีวิต แต่ท่านอู้ฟู่ นอกจากนี้ยังช่วยเจ้าสัว ทันทีที่ยึดอำนาจมีมาตรา 44 อยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งเพื่อนรัก พล.อ. ว. ที่เดินไปไหนด้วยกันบ่อยๆ ไปคุมยาสูบ ตามด้วยตั้ง พล.ท. ส. เข้าไปเป็นประธานกรรมการอำนวยการกิจโรงงานยาสูบ จากนั้นก็ตั้ง น.ส. ด. จนกระทั่งได้เป็น ผอ.โรงงานยาสูบ 
    นายศรัณย์วุฒิกล่าวอีกว่า ยังมีการแปรรูปโรงงานยาสูบ และให้เอกชนเข้ามาร่วมตั้งบริษัทเพื่อใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินของยาสูบได้ ถือเป็นการเอื้อเจ้าสัว เพราะเชื่อมกับการต่อสัญญาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 50 ปี ถือเป็นแผนฮุบที่ดินที่เอื้อกันสุดๆ ทั้งนี้เมื่อได้รับการต่อสัญญาแล้ว มีการแก้ผังเมืองบริเวณดังกล่าว ให้สามารถสร้างตึกสูงได้กว่าที่กำหนดไว้เดิม เป็นที่น่าสังเกตว่า การต่อสัญญาตอนที่ยังสร้างตึกสูงไม่ได้ เพื่อให้การจ่ายค่าเช่าต่ำที่สุด โดยวางแผนเพื่อต้องการสร้างเมกะโปรเจ็กต์ที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีโรงแรมและมีห้างสรรพสินค้า หากสร้างเสร็จแล้ว ถนนคลองเตยทั้งเส้นก็จะกลายเป็นถนนเจริญ สงสัยว่าทำไมรัฐบาลชุดนี้ถึงใจดีช่วยเจ้าสัวมากขนาดนี้ เปิดทางให้เจ้าสัวสามารถยึดที่โรงงานยาสูบได้
    ต่อมานายศรัณย์วุฒิยังได้อภิปรายถึงการจัดซื้ออาวุธที่เกี่ยวพันไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ขณะเป็น ผบ.ทบ.เมื่อปี 2557 เดินทางไปเจรจาซื้อรถถังจากประเทศยูเครนด้วยตัวเอง ในการซื้อขายมีการมอบหมายให้ผู้หญิงสองคนที่มีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง เพื่อใช้ในการซื้ออาวุธแต่ละประเทศ 
อภิปรายยิ่งกว่าลิเก
    ทั้งนี้ เมื่อเริ่มอภิปรายเรื่องดังกล่าวก็เริ่มมีการประท้วงว่าไกลเกินไป นำข้อมูลจากไหนมาก็ไม่ทราบ ซึ่งไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะนายกฯ ตอนนั้นคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถึงกับกล่าวว่าทำไมไม่ตรวจสอบตอนนั้น เพราะมัวแต่โกงจำนำข้าวหรือไม่ เมื่อถึงช่วงนี้ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยประท้วงให้ถอนคำพูด   
    ต่อมานายศรัณย์วุฒิก็อภิปรายในการจัดซื้ออาวุธต่อว่า เป็นการซื้อขายรถถังเซียงกง ซึ่งเมื่อซื้อมาแล้วก็ใช้งานไม่ได้ โดยในช่วงท้ายๆ การอภิปรายได้เริ่มกินเวลาฝ่ายค้านไปมาก ทำให้นายศรัณย์วุฒิได้เร่งสรุปให้เร็วขึ้น โดยไม่ได้ลงในรายละเอียด ท่ามกลางการประท้วงของ ส.ส.รัฐบาลที่การอภิปรายไม่สรุปเสียที และเมื่อนายศรัณย์วุฒิเริ่มกล่าวสรุป ได้ยกเรื่องความจงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์ไปเทียบกับเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้เตือนว่าอย่าย้อนไปไกล ไปหยิบยกเรื่องอะไรทั้งหลายที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารโดยตรง ก็ต้องขอร้อง เพราะได้ใช้เวลามากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว และขอให้ข้ามเรื่องนี้ไป
    นายศรัณย์วุฒิยังกล่าวว่า การถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ยิ่งใหญ่กว่าพันท้ายนรสิงห์ และเพื่อพิสูจน์ว่าจงรักภักดีจริงหรือไม่ ก่อนมาอภิปรายคนเตือนว่าอย่ามาอภิปรายเรื่องนี้ จึงได้ทำพินัยกรรมให้กับลูกๆ ถ้าพ่อเป็นอะไรไป พี่น้องต้องรักกัน ดูแลกันให้ดี พ่อจะทำดีให้บ้านเมือง ทำให้นายสิระประท้วงว่า เรามาอภิปรายไม่ไว้วางใจกัน ไม่ใช่มาสั่งเสีย นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า สั้นๆ นิดเดียว นายชวนได้ตักเตือนอีกครั้งว่าถ้าเราพูดแสดงว่าเราไม่กลัว ถ้ากลัวแล้วจะมาพูดทำไม เราต่างต้องการประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ มีการตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง ถ้าเราใช้อะไรแรงไป ถ้าเขาตอบแรงมา เราก็ต้องรับได้
    นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ขอให้นายกฯ ไปวัดพระแก้วมรกต ทำให้นายชวนต้องเตือนอีกรอบว่า อย่าไปท้ากัน นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ท้า เมื่อได้สั่งลากับลูกๆ แล้ว อยากเจอท่านที่หน้าวัดพระแก้ว เตรียมกระสุนไปคนละนัด ยิงกันคนละนัด นายสิระ กล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมปืน เพราะเห็นปืนของท่านแล้ว ปืนของท่านเล็ก บรรยากาศเริ่มกลับมาท้าทายกันอีก จนประธานต้องขอให้ถอนคำพูด โดยนายศรัณณย์วุฒิกล่าวในตอนสุดท้ายว่า ขอถอน เพราะคนอย่างศรัณย์วุฒิไม่เคยกลัวใคร แต่ที่ถอนเพราะเคารพท่านประธาน ไม่ใช่เพราะกลัวใคร     
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงทั้งเรื่องที่ดิน, ฟิลลิป มอร์ริส และรถถังสั้นๆ ก่อนสรุปว่า ไม่ได้กลัวการตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องโรงงานยาสูบมีแผนจะย้ายมาตั้งนานแล้ว หลายรัฐบาล และทุกอย่างเป็นไปตามแผน ดังนั้นการมาอ้างว่าย้ายเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจจึงไม่ถูกต้อง ขอบคุณในความหวังดี ท่านอภิปรายได้สนุกดี แต่ขอให้รักษาเวลาอันมีค่าของสภาด้วย 
วิษณุโต้กลับนิ่มๆ
    จากนั้นเวลา 13.55 น. นายวิษณุชี้แจงว่า ข้อมูลของท่านลงลึกมาก เพียงแต่ข้อมูลบางส่วนไม่ถูกต้อง มีการตัดตอนเสนอเพียงบางส่วน ไม่ได้เอามาทั้งหมด นอกจากนี้ศัพท์แสงที่ใช้ก็ลึกมาก โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับคน แต่ไม่รู้ลึกแค่ไหน โบราณจึงบอกว่า ก้านบัวบอกลึกตื้นชลธาร ก่อนจะไล่เรียงกรณีฟิลลิป มอริส ตั้งแต่ปี 2540-2550 รวมถึงเหตุการณ์การฟ้องร้องกัน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้แก้กฎหมายเพื่อช่วยบริษัทบุหรี่ เนื่องจากแนวคิดการแก้ไขกฎหมายนี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แต่ก็มายุบสภา จากนั้นในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มาเกิดเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยในประเทศขึ้นอีก กระทั่ง คสช.เข้ามา 22 พ.ค.2557 จึงตั้งใจสังคายนากฎหมายตัวนี้ เพราะใช้มาเป็นเวลานาน 90 ปี กฎหมายนี้ประกาศใช้เดือน พ.ค.2560 แต่ก็ทอดเวลาเตรียมการให้อีก 180 วัน แสดงว่าเอาเข้าจริงมีผลบังคับใช้กฎหมายในเดือน พ.ย.60 แต่คดีนี้ฟ้องตั้งแต่ ม.ค. 59
    “ผมไม่ได้ไปแทรกแซงหรือก้าวก่าย แต่พฤติกรรมแบบนี้คือการบริหารราชการแผ่นดิน การแทรกแซงก้าวก่ายหมายถึงตามที่เขาห้ามตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเรื่องแบบนี้ถือเป็นการแทรกแซงก้าวก่ายก็ต้องถือว่าเป็นการแทรกแซงโดยชอบ จำคดีถุงขนมได้หรือไม่ เอาเงินไปจ่ายให้ ไม่รู้ให้ใคร แต่ในที่สุดก็ทิ้งถุงไว้ เป็นถุงขนมจนศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยมีความผิด แบบนี้ถึงจะเรียกว่าก้าวก่ายวิ่งเต้นกับประธานศาลรัฐธรรมนูญในสมัยหนึ่ง แต่ท่านประธานศาลไม่เล่นด้วย ก็ถูกขู่เข็ญ ขอนัดพบ แบบนี้ถือว่าแทรกแซงก้าวก่าย” นายวิษณุกล่าว
    นายวิษณุยังชี้แจงถึงเรื่องยกที่ดินโรงงานยาสูบให้เจ้าสัว ว่าเชื่อว่าผู้อภิปรายไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่รู้ก็เลยพูดแบบนั้น ขอชี้แจงว่าที่ดินดังกล่าวแบ่งเป็น 4 โซน ประกอบด้วยที่ดิน 4 โซน คือโซน A ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 53 ไร่, โซน B ข้างหลังศูนย์ฯ โรงพยาบาล 77 ไร่, โซน c สวนน้ำริมรัชดาฯ 130 ไร่ และโซนสุดท้ายโซน D โรงงานหลังสวนน้ำ จำนวน 320 ไร่ โดยที่ดินแปลง D และที่ดินแปลง C รัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน น้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถวายไปทำอะไร หลังจากนั้นก็เป็นรัฐบาลชวน 1 ที่เกรงว่าหากถวายแล้วจะมีใครเล่นแร่แปรธาตุ จึงมีมติให้โซน C ที่ติดกับถนนรัชดาฯ 130 ไร่ ให้สร้างเป็นสวนน้ำ ตกลงโซน C เป็นสวนน้ำ ใครจะยกให้เจ้าสัว แม้แต่เสี้ยวเดียวก็ไม่ได้ ส่วนโซน D รัฐบาลต่อมาก็ให้ทำเป็นสวนป่า คือปลูกต้นไม้ให้เต็มไปหมด ฉะนั้นใครจะนำที่ดินโซน D ไปยกให้ใครแม้แต่วาเดียวก็ไม่ได้ แต่โซน D มีโรงงานยาสูบตั้งอยู่หลายโรงงาน จึงไม่สามารถทำสวนป่าได้ทันที โดยโซน C ได้มีการขอพระราชทานชื่อ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เป็นอันว่าได้ชื่อเป็นทางการสำหรับโซน C และโซน D คือสวนเบญจกิติ
“รัฐบาลนายกฯ ประยุทธ์ปีที่แล้วไปตรวจเยี่ยม ก็เพิ่งรู้ว่าขนย้ายเหลืออยู่อีกนิดเดียว จึงได้ขอให้ช่วยขยับขยายไปให้หมด โดยเร่งรัดภายในพฤษภาคม 2563 เพื่อจะได้น้อมเกล้าฯ ถวายในเดือนสิงหาคม 2564 ดังนั้นประโยคที่ผู้อภิปรายพาดพิงจึงไม่สวยงามเลยที่บอกว่าไปสร้างสวนเพื่อเอื้อต่อศูนย์ฯ สิริกิติ์เป็นสวนน้ำและเป็นสวนป่า เพราะทั้งหมดกำหนดโดยสำนักพระราชวัง และไม่สวยงามเลยที่บอกว่าที่ดินข้างสวนให้เป็นที่ดินเจ้าสัว แต่เชื่อว่านายศรัณย์วุฒิไม่ทราบ และไม่ได้ตั้งใจ และควรไม่มีใครไปถือสาหาความกับส่วนนี้” นายวิษณุกล่าว
นายดอนได้ชี้แจงเช่นกันว่า เรื่องต่างๆ ตามที่กล่าวหา แม้การนำเสนอจะขึงขังจริงจัง แต่ข้อมูลที่ออกมานั้นเบาหวิวไม่หนักแน่น ซึ่งกรมสนธิสัญญาฯ ก็ติดตามดูแลปกป้องผลประโยชน์ของไทยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ส่วนกรณีการซื้อรถถังยูเครนที่มีการกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องด้วยนั้น อยากชี้แจงว่าเมื่อปี 2554 ที่มีกรณีนี้เกิดขึ้น ตนเองยังอยู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
    เวลา 16.10 น. พล.อ.ประวิตรกล่าวชี้แจงกรณีนายศรัณย์วุฒิเกี่ยวกับการจัดหาเรือดำน้ำและรถถัง ว่าไม่ได้เป็นคนจัดหา แต่เป็นความต้องการของเหล่าทัพที่จะเสนอมาว่ากองทัพเรือต้องการอะไร กองทัพบกต้องการอะไร แล้วจัดสรรคู่กับงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้ ซึ่งเป็นการซื้อโดยระบบจีทูจี 
    จากนั้น พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ชี้แจงรายละเอียดถึงการจัดการยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่ต้องตอบสนองภารกิจ 2 ประการ คือ การเตรียมกำลัง และการใช้กำลัง ซึ่งเราดำเนินการ เพื่อรองรับสถานการณ์ตามแผน 5-10 ปี ซึ่งการจัดการยุทโธปกรณ์ของแต่ละเหล่าทัพได้จัดซื้อมานานแล้ว ขณะที่เรือดำน้ำของกองทัพเรือ เรามีไว้ไม่ได้ต้องการแข่งขันกับอาเซียน แต่มีไว้เพื่อนถ่วงดุลอำนาจทางทะเล 
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องไม่ดี เรื่องผิด น้อมรับไว้ทุกประการ เพื่อจะดำเนินการแก้ไขให้ทุกต้องในทุกประเด็น ส่วนเรื่องอื่นคงชี้แจงไปหมดแล้ว แต่กังวลในเรื่องของการเกณฑ์ทหาร ทหารทุจริตก็มีในทุกหน่วยงาน ฉะนั้นเราก็ต้องขจัดคนไม่ดีออกไปลงโทษ
บริหารเวลาผิดพลาด
    ต่อมาในช่วง 17.30 น. หลังอภิปรายจนใกล้จะครบเวลา 19.00 น. ตามข้อตกลงที่ต้องปิดอภิปราย ซึ่งยังไม่มีการอภิปรายในส่วนของ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทำให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นหารือเรื่องเวลาอภิปรายว่า ฝ่ายค้านได้ใช้เวลาอภิปรายที่มีอยู่ 10 ชั่วโมงไปหมดแล้ว แต่รัฐบาลยังเหลือเวลาอภิปรายอยู่ 1.15 ชั่วโมง ดังนั้นหากรัฐมนตรีชี้แจงในเวลาที่เหลือหมดเมื่อไร จะต้องปิดอภิปรายทันทีในเวลา 19.00 น.  เพื่อเข้าสู่การสรุปญัตติปิดการอภิปรายของฝ่ายค้านอีก 2 ชั่วโมง โดยขอให้ปฏิบัติตามกรอบเวลาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านรุมประท้วงกันจำนวนมาก เพราะยังเหลือผู้อภิปรายอีกหลายคน และยังไม่ได้อภิปรายรัฐมนตรีอีก 2 คน 
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นความผิดของฝ่ายค้านเรื่องการบริหารเวลา แต่ขณะนี้ยังมีเวลาถึง 23.59 น. จึงควรให้อภิปรายต่อไปจนถึงใกล้เวลาดังกล่าว เพราะเป็นเวลาของประชาชน ไม่ควรไปทึกทักเอาว่าต้องปิดในเวลา 19.00 น. ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลงมติไม่ได้ เพราะข้อบังคับระบุให้มีการสรุปญัตติ ถ้าไม่สรุปญัตติปิดอภิปราย ก็ลงมติไม่ได้ ทำให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่พอใจ พากันรุมประท้วงที่จะใช้วิธีไม่ยอมสรุปญัตติจนเกิดการโต้เถียงไปมา ในที่สุดนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม จึงสั่งพักการประชุม 20 นาที เพื่อให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกตัวแทนวิปทั้งสองฝ่ายไปตกลงหาทางออกในเรื่องที่เกิดขึ้น
กระทั่งเวลา 18.30 น. หลังเปิดประชุมกลับมาอีกครั้ง นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค อนค. ได้ขอให้ผู้อภิปรายของอดีต พรรค.อนค.อีก 3 คนอภิปรายคนละ 5-10 นาที แต่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานไม่อนุญาต โดยระบุว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของประธานและวิปรัฐบาล แต่เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือปิดปากไม่ให้อภิปราย ทำให้นายพิจารณ์ตอบกลับว่า ถ้าไม่ให้ เราจะไปอภิปรายกันนอกสภา 
ขณะที่นายวิรัชระบุว่า จากการหารือยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง เพราะรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ถูกอภิปรายก็ยังไม่ได้ชี้แจง ดังนั้นเมื่อรัฐมนตรีชี้แจงเสร็จแล้ว ก็ต้องปิดอภิปรายตามกรอบเวลา ทำให้นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านตอบกลับว่า การตกลงใดๆ สามารถขยับกันได้ เพราะขณะนี้ยังมีเวลาเหลือถึง 24.00 น. แม้นายชวนจะขอร้องให้เพิ่มเวลาให้ฝ่ายค้าน 1 ชั่วโมง แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ยอม ดังนั้น เมื่อให้กันไม่ได้ จะขอสงวนสิทธิ์ไม่กล่าวสรุปญัตติปิดอภิปราย เมื่อไม่มีการสรุปก็ไม่สามารถลงมติใดๆ ได้
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้าน แต่ชี้แจงไปได้ประมาณ 1 นาที นพ.ชลน่านขอใช้สิทธิประท้วง โดยระบุว่า นายกฯ กำลังสรุปปิดอภิปราย ไม่ได้บอกจะชี้แจงใคร ถือว่าผิดข้อบังคับ สภาเป็นของประชาชน แต่เมื่อเสียงข้างมากไม่ให้สิทธิเสียงข้างน้อยทำงาน เราก็ขออนุญาตไม่ทำงานกับคนที่ลุแก่อำนาจ หลังจากนั้นก็มี ส.ส.ฝ่ายค้านบางส่วนเดินออกจากห้องประชุมไปทันที ซึ่งที่ประชุมเปิดโอกาสให้นายกฯ ได้ชี้แจงต่อไป
หลังจากนั้น นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. เสนอขอปิดการประชุม ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เหลืออยู่พากันเดินวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมกันหมด ก่อนที่ประชุมจะตรวจสอบองค์ประชุม และลงมติให้ปิดการอภิปรายด้วยคะแนน 251 ต่อ 0 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนน 2 
จากนั้นนายศุภชัยได้สอบถามว่า ฝ่ายค้านจะใช้สิทธิสรุปญัตติปิดอภิปรายหรือไม่ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากฝ่ายค้าน ดังนั้นนายศุภชัยจึงบอกว่า ฝ่ายค้านไม่ประสงค์จะกล่าวสรุปญัตติปิดอภิปราย จึงนัดวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ก.พ. ก่อนสั่งปิดการประชุมในเวลา 19.15 น.    
        นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานเลขานุการคณะกรรมการประสานงานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ฝ่ายค้านบริหารเวลาผิดพลาด จึงไม่สามารถมากล่าวหาวิปรัฐบาลได้ว่ากลั่นแกล้งได้ เพราะที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายก็ตกลงเวลาอย่างชัดเจน โดยฝ่ายค้านได้เวลา 21 ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลได้เพียง 10 ชั่วโมง และตั้งแต่วันที่ 24-27 ก.พ. ก็มีการกำชับเรื่องเวลากันมาตลอด ดังนั้นการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค อนค. ทวีตข้อความระบุมีการสกัด ส.ส. 4 คนไม่ให้อภิปรายรัฐมนตรีบางท่านได้นั้น จึงไม่เป็นความจริง และขอเรียกร้องให้นายธนาธรหยุดสร้างวาทกรรมความแตกแยก และกลับไปดูข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น มากกว่าปั่นหัวคนรุ่นใหม่
ซัดมวยล้มต้มคนดู
    ส่วนนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค อนค.โพสต์เฟซบุ๊กว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นไม่รักษาเวลา ใช้เวลาอภิปรายเกิน ผลคือ ส.ส.อดีตพรรค อนค.ถูกตัดผู้อภิปราย 3 คน มีการเจรจาร้องขออย่างไร ประธานและวิปรัฐบาลไม่ยืดเวลาให้ ยืนยันจะเลิก 1 ทุ่ม ทั้งที่ทุกวันเลิกประชุมดึกดื่นเที่ยงคืนได้ 
    ต่อมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรค อนค. ได้นำ ส.ส.อดีตพรรคแถลงข่าว หลังการวอล์กเอาต์ โดยมีนายธนาธร, นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช มาร่วมสังเกตการณ์ โดยนายพิธากล่าวว่า สาเหตุที่เราต้องวอล์กเอาต์ เพราะเราถูกปิดกั้น ตลอด 4 วันที่ผ่านมาเราอภิปรายอยู่ในกรอบเวลาทุกนาที แม้ว่าเราจะเป็น ส.ส.สมัยแรก แต่เราก็เข้าใจกฎและกติกาดี แต่ทำไมต้องมาปิดกั้นเราด้วย จะไม่ให้เรานำเสนอข้อมูลและตรวจสอบรัฐบาลเลยใช่หรือไม่
นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. อดีตพรรค อนค. กล่าวว่า เราเข้าใจดีว่ามีข้อตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย เราเข้าใจกติกามาโดยตลอด แต่ข้อเท็จจริงมีการบีบเวลาของพวกเรา โดยพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่รักษากติกาและรักษาวินัยในการใช้เวลา ทำให้พวกไม่มีโอกาสอภิปราย โดยปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจคนแรกก็คือนายกฯ ลำดับถัดมาก็ควรเป็น พล.อ.ประวิตรและนายวิษณุ แต่กลับนำเอารัฐมนตรีคนอื่นขึ้นมาก่อน และปิดท้ายด้วย พล.อ.ประวิตร
“ผมก็ไม่อยากจะคิดว่ามันมีเงื่อนงำในการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านบางพรรคหรือไม่ ซึ่งขอให้พี่น้องติดตามเสาะหาข้อเท็จจริงกันเอง เพราะตามประเพณีทางการเมือง พล.อ.ประวิตรเป็นรองนายกฯ คุณต้องอยู่ลำดับ 2 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนนายวิษณุต้องอยู่ลำดับ 3 แต่ข้อเท็จจริงมีการวิ่งเต้นและเอาชื่อ พล.อ.ประวิตรมาไว้ท้ายสุด นี่คือเรื่องจริงในสภา เราวางคิวอภิปราย ร.อ.ธรรมนัสในช่วงหัวค่ำ แต่ก็ถูกกินเวลาจนต้องไปอภิปรายในช่วงดึก แล้ววันนี้ผมถามว่าการใช้เวลาตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีนายกฯ คนเดียวที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รัฐมนตรีคนอื่นกลับไม่ถูกอภิปราย แต่เป็นการอภิปรายประกบ ทำไมคุณไม่อภิปรายตรงๆ” นายจิรวัฒน์กล่าว
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. อดีต อนค. กล่าวว่า เรื่องนี้เหมือนมวยล้ม พรรคเพื่อไทยใช้เวลาในการอภิปรายเกินเวลาที่ได้รับการจัดสรร แต่เราไม่เคยเกินเวลาเลย ขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ยอมอภิปรายรัฐมนตรีบางคน เรื่องนี้ก็ขอให้ประชาชนไปตัดสินใจเอง
ขณะเดียวกัน แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยไม่มีตัวแทนของอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วมด้วย โดยนายสมพงษ์ระบุว่า ในวันที่ 28 ก.พ. ฝ่ายค้านจะไม่โหวต โดยให้รัฐบาลโหวตกันเอง ถ้าคะแนนรัฐมนตรีทั้ง 6 คนไม่เท่ากัน ก็แสดงว่าเขาหักกันอยู่ หาก ส.ส.คนใดจะไม่ทำตามแนวนโยบายนี้เราก็ไม่เอาโทษ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. 
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า สมัยเป็นประธานสภาฯ ก็ประนีประนอมกันตลอด แต่คราวนี้รัฐมนตรีไม่เข้าใจระบบสภา นึกจะปกครองแบบทหาร ดังนั้นในวันที่ 28 ก.พ. ก็ให้ฝ่ายรัฐบาลโหวตไปฝ่ายเดียว และถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่มีสภามา 
นายสุทินยืนยันว่า ไม่มีล้มมวย เราก็สู้อย่างถึงที่สุด เพียงแต่การบริหารเรื่องคน เวลาที่มีจำกัด บริหารล่วงหน้าไม่ได้ เลยออกมาคลาดเคลื่อนบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการปรึกษาหารือกันตลอดของ 6 พรรคฝ่ายค้าน แต่พอมาถึงหน้างานก็จะมีการปรับเปลี่ยน ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ ส่วนชื่อของ พล.อ.ประวิตร ถูกจัดให้อยู่ในลำดับสุดท้ายตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเราคิดว่าต้องเริ่มต้นที่นายกฯ และจบลงที่ พล.อ.ประวิตร จะทำให้การอภิปรายไม่จืด แต่เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากการบริหารเวลาที่ผิดพลาด 
นายวิรัชชี้แจงถึงอดีต ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่บอกว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นมวยล้มต้มคนดู ว่าใครจะมองอย่างไรไม่ทราบ แต่เท่าที่ดูข้อมูลของฝ่ายค้าน มีแต่เอาเรื่องเก่ามาพูด 80% มีเพียง 20% ที่เป็นเรื่องใหม่ แล้วแต่มุมมอง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบ ส่วนที่ฝ่ายค้านจะไม่มาร่วมในวันลงมติก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าเสียงของเราผ่านกึ่งหนึ่งคือ 244 เสียงแน่นอน 
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ว่า ไม่รู้ เป็น เรื่องของสภา? ครม.ไม่เกี่ยว? ส่วนที่อดีตพรรคอนาคตใหม่ตั้งข้อสังเกตว่ามีการฮั้วกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายรัฐบาล เพื่อไม่ให้ พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.อนุพงษ์ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเต็มเวลานั้น จะไปฮั้วกันอย่างไร เขาก็อภิปราย และ พล.อ.อนุพงษ์ และโดนอภิปรายมากเสียด้วย ?ไม่ใช่แค่อ้อมๆ แต่เป็นเรื่องของเวลา 
เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้มีการไปตกลงอะไรกับฝ่ายค้านใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า? "โธ่เอ๊ย ไม่มี กล่าวหากันเกินไปแล้ว”
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า รัฐบาลก็ต้องขอขอบคุณ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติและประธานที่ทำให้การประชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย ถือเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลได้มีโอกาสชี้แจงในหลายประเด็น ซึ่งการอธิบายก็สอดคล้องกันในหลายกระทรวง
“ผมก็ยินดีที่ทุกอย่างจบได้ตามกำหนดเวลา ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่นายกฯ และ ครม.ก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไร เป็นระเบียบข้อบังคับของสภา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าคะแนนโหวตในวันที่ 28 ก.พ. จะเป็นไปอย่างราบรื่น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ทุกเรื่องก็หวังให้ราบรื่น จะหวังไม่ให้ราบรื่นได้อย่างไร 
เมื่อถามว่า จะพิจารณาปรับ ครม.ต่อไปหรือไม่หลังจบอภิปราย นายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปมองไกลขนาดนั้นเลย เมื่อย้ำว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่มองว่ามีการดีลเพื่อประวิงเวลาไม่ให้อภิปราย พล.อ.ประวิตรและพล.อ.อนุพงษ์  นายกฯ กล่าวว่า ก็บอกไปแล้วอยู่ที่การบริหารจัดการเวลาของฝ่ายค้าน 
ส่วนที่นอกห้องประชุมสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันว่าได้เตรียมตัวอภิปรายเรื่องปมถวายสัตย์ฯ แต่ก็ถูกห้าม จึงจะพูดเรื่องนี้ต่อนอกสภาในวันที่ 28 ก.พ. เวลา 21.15 น. ผ่านการไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก เพื่อให้ประชาชนได้รู้ข้อมูล 48 หน้าที่เตรียมไว้ และกำลังคิดว่าจะดำเนินคดีที่สภาไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ในเรื่องนี้
    ขณะเดียวกัน บรรดาอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทั้งนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังคงมีการอภิปราย ร.อ.ธรรมนัสต่อเนื่องทั้งในกรณีต้องคำพิพากษาที่ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงเรื่องของทรัพย์สินและหนี้สินของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ได้อภิปรายเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่  27 ก.พ. ขณะที่เฟซบุ๊กคณะอนาคตใหม่ก็ได้ไฟล์เอกสารทั้งหมด 5 ไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับ ร.อ.ธรรมนัสด้วย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"