"บิ๊กตู่" ยันไม่มีนโยบายทำ "ไอโอ" โอดนายกฯ ก็โดนโซเชียลมีเดียเล่นงานเยอะ "ส.ส.พท." โยง "มาดามนายกฯ-เครือข่าย บยส." เอี่ยวโครงการไบโอเมทริกซ์มีเงินหล่น 600 ล้านเข้าบัญชี "นาย พ." หมื่นล้านมาจาก 1MDB หรือไม่ นายกฯ ลั่นผมเชื่อมั่นภริยา เวลาคนอ้างชื่อคนโง่เท่านั้นที่เชื่อ ซัดกลับคนที่เกี่ยวข้องเข้า-ออกด้วยบัตรอีลิทการ์ดยุคใครทำ "เสรีฯ" ยังจมอยู่กับปมถวายสัตย์ฯ เจอท้วงให้ยึดมติวิปฯ ฉุน! ท้าเจอนอกห้อง รองฯ ศุภชัยตอกกลับ "ผมสหายแสงไม่เคยกลัววีรบุรุษนาแก" จับตาวันสุดท้ายล็อกเป้าถล่มจัดซื้ออาวุธโยง 3 ป.
ที่รัฐสภา ช่วงเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่สาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงรัฐสภา โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มารอต้อนรับ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันนี้จะชี้แจงกรณี ส.ส.ฝ่ายค้านเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารของกองทัพ (ไอโอ) หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ขอฟังเขาอภิปรายก่อนว่าจะชี้แจงเรื่องอะไรต่อไป ส่วนเรื่องไอโอ ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะการทำงานโดยปกติแล้วผมก็ไม่มีนโยบายให้ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว และวันนี้ก็เห็นว่าในโซเชียลมีเดียมีการกระทำแบบนี้มากมาย ผมเองก็โดนซะเยอะเลยในนั้น เห็นไหมใครทำก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวก็ตรวจสอบอีกทีแล้วกัน ยืนยันว่าไม่มีนโยบายดังกล่าว
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตลอด 2 วันที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนทุกประเด็น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี สามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจน ไม่เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย ใจเย็น ยิ้มแย้มแจ่มใส เน้นเนื้อหาสาระ เชื่อว่าประชาชนที่ติดตามการอภิปรายในครั้งนี้จะเข้าใจเป็นอย่างดี ฝ่ายค้านถือว่าไม่สมราคาคุยที่โหมโรงมาทั้งเช้า กลางวัน เย็น เพราะข้อมูลต่างๆ ที่นำมาอภิปรายไม่ได้เป็นข้อมูลใหม่อะไร เคยพูดเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชนมาแล้ว เสมือนเป็นการตัดแปะข่าว ไม่ได้ทำการบ้านมา ส.ส.บางพรรคก็อภิปรายเสมือนนำเสนอวิทยานิพนธ์ไม่น่าสนใจ ข้อมูลบางเรื่องยังคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
จากนั้นเวลา 09.30 น. ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ก่อนการประชุม นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวปฏิญาณตน ซึ่งเป็นการเริ่มการทำหน้าที่ ส.ส. พร้อมกับเข้าร่วมการประชุมสภาทันที โดยนายศุภชัยแจ้งว่าขณะนี้สภามีจำนวน ส.ส.ทั้งสิ้น 488 คน
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ การตรวจลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า ว่ามีความผิดปกติตั้งแต่สัญญาทีโออาร์ครั้งแรก ที่ตั้งงบไว้เพิ่ม 1,735 ล้านบาท แต่ได้ยกเลิกไป และออกสัญญาทีโออาร์ครั้งที่ 2 โดยตั้งงบเพิ่มไว้ 2,126 ล้านบาท เป็นการร่วมกันของเป็นบริษัทร่วมค้า MT ระหว่างบริษัท เอ็มเอสซี สิทธิพล จำกัด กับบริษัท ไทยทรานมิชชั่น อินดัสทรี จำกัด แต่ปรากฏว่ามีการส่งงานล่าช้า จนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เสนอให้หน่วยงานราชการบอกเลิกสัญญากับกิจการร่วมค้านี้ และล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.พ.62 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้แก้ไขสัญญาและเปลี่ยนแปลงสินค้าหลายรายการ มีการเปลี่ยนยี่ห้อจากของเยอรมนีเป็นของอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบราคาหน้าเว็บไซต์สามารถซื้อได้ 113 ล้านบาท แต่มีการตั้งราคาสูงถึง 714 ล้านบาท เกิดส่วนต่าง มีเงินหายไปกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งนายกฯ ต้องรู้ว่าเงินหล่นไปไหน
โยง"มาดามนายกฯ"
นายวิสารกล่าวต่อว่า สำหรับบริษัท เอ็มเอสซี มีซีอีโอชื่อ ดร.วัชรี พรรณเชษฐ์ เป็นเจ้าของเดียวกับบริษัท วี สมาร์ท จากนั้นบริษัทดังกล่าวได้เข้าร่วมกับบริษัท ไทยทรานมิชชั่น แต่มีคนอยู่เบื้องหลังเชื่อมทั้งสองบริษัทนั้นอยู่ ซึ่งบุคคลทั้งหมดอยู่ในหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่น 15 มีทั้งวัชรี, นายวัฒน์ชัย เจ้าของบริษัท สามารถ และนายประวุฒิ ถาวรศิริ อดีตรอง ผบ.ตร. บุคคลเหล่านี้อยู่รุ่นเดียวกับมาดาม มีข่าวออกมาตลอดว่าสัญญายกเลิกไม่ต้องมีค้ำประกัน ไม่ต้องมีเงินประกัน ไม่ต้องมีผลงาน บอกให้ยกเลิกสัญญา เครื่องไม่ดี เครื่องมีข้อบกพร่องก็ยังให้ต่อสัญญา ถึงเวลาจะต้องปรับอีก 500 ล้านบาท ก็ไม่ต้องปรับ เขาก็อ้างว่ามีมาดามหลังทำเนียบฯ
"ไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นอาจารย์น้องที่ผมเคารพนับถือ ผมยกย่องเป็นกุลสตรี เป็นแบบอย่างที่ดีของสตรีไทย เห็นท่านไปไหนก็พามาดามไปด้วย นายกฯ ต้องชี้แจง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตอบสังคมยาก เพราะผลประโยชน์อยู่ที่ไหน ใครได้ โครงการนี้เป็นโครงการที่บกพร่องทำให้รัฐเสียหายแน่นอน ดังนั้นหลังจากที่อภิปรายจะร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะเกี่ยวกับมาดามที่มีอิทธิพลหลังทำเนียบฯ หรือไม่ ไม่ทราบ แต่นายกฯ ผิดพลาดแน่นอน คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157" นายวิสารกล่าว
นายวิสารกล่าวด้วยว่า เครื่องมือไบโอเมทริกซ์วันนี้ใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะมีการพูดถึงคดีวันเอ็มดีบี ข่าวบอกว่าคู่กรณีผ่านด่านตลอด มีหมายจับจากมาเลเซีย เราก็ไม่จับเขา มีหมายจับแดงจากสิงคโปร์ก็ไม่จับ ปล่อยให้เข้า-ออกหลายครั้ง มีนาย พ. มีบริษัทชื่อ ส. กับ ข. ชื่อจริง นามสกุลจริง อยู่ที่ผม มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีหมื่นกว่าล้านบาท มาอย่างไร มาจากวันเอ็มดีบีหรือไม่ ซึ่งบัญชีอยู่ที่ผม เพราะกฎธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า หากมีการโอนเงิน 2 ล้านบาท ต้องแจ้งที่มาที่ไปด้วย แต่นี่หมื่นกว่าล้านบาท บริษัทเดียว คนคนเดียว เบอร์บัญชีก็มี เอามาทำอะไร เป็นไปได้หรือไม่ เลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นเงินเหล่านี้หรือไม่
จากนั้นเวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชี้แจงว่า ขอความเป็นธรรมว่าในเรื่องของการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนั้น ก็มีหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันแล้วจะต้องไปร่วมกระทำความผิด ถ้ามาเหมากันแบบนี้ ตนคิดว่าหลายคนที่หนีไปก็มีเพื่อนร่วมรุ่น หมายความว่าจะต้องผิดทุจริตกันหมดอย่างนั้นเหรอ ตนคิดว่าอยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาตนเป็นอาจารย์มาก่อน และเตือนตนเสมอในเรื่องการทุจริตมาตลอด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการส่งมอบงานล่าช้านั้น มีปัญหาส่วนหนึ่งจากหน่วยงานเองด้วย ตนเคยจำได้ว่ามีการตรวจสอบการจัดซื้อรถถังโดยหน่วยงานของรัฐ มีการบอกว่าราคาในเว็บไซต์ถูกกว่า แต่การซื้อของแบบนี้จะซื้อผ่านทางเว็บไซต์ไม่ได้ เพราะการทำสัญญาจะต้องซื้อระบบด้วย ที่แพงคือระบบมาจากต่างประเทศ ถ้าเขาไม่ขายมาให้ก็ทำไม่ได้ ดังนั้นการดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามกติกา กรณีที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงราคาของเครื่องเปล่าเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีซอฟต์แวร์ด้วยถึงจะทำงานได้ และซอฟต์แวร์ใหม่จะต้องเชื่อมกับซอฟต์แวร์เดิมด้วย สรุปแล้วการจัดซื้อของจะต้องรวมการติดตั้งและการรับประกันด้วย
นายกฯ กล่าวย้ำว่า การดำเนินการจัดซื้อทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากจะมีมาดามคนใดไปยุ่งเกี่ยว ก็ต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป แต่ตนเชื่อมั่นในภรรยา เวลานี้มีคนอ้างชื่อนายกฯ รองนายกฯ เป็นจำนวนมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ ถ้าอยากรู้ว่านายกฯ สั่งการจริงหรือไม่ ให้ถามที่ตนเองได้ เวลานี้มีการใส่ร้ายป้ายสีทางสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปหมด
อย่าโยงความสัมพันธ์ ตปท.
นายกฯ ได้ตอบข้อกล่าวหาเรื่อง 1MDB ว่า ตนไม่อยากไปก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตนยืนยันว่ามีสองคนที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งคนรับโทษในเรือนจำไปแล้ว อีกคนหนึ่งที่มีการอ้างว่ามีหมายแดงและเข้า-ออกประเทศไทยนั้น ได้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการว่าหมายแดงได้ออกมาหลังจากนั้นไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้นได้มีการเข้า-ออกประเทศเหมือนกับบุคคลทั่วไป เพราะยังไม่มีหมายแดง และวันนี้สิงคโปร์ต้นทางที่ออกหมายแดงก็ได้ยกเลิกหมายแดงไปแล้ว และข้อสำคัญคือคนที่เข้า-ออกประเทศไทยคนนี้เขามีสิทธิของเขาพอสมควรเหมือนกันจากบัตรอีลิทการ์ด ซึ่งไม่รู้ว่าใครทำให้เขา
"บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโจมตีกัน เพราะเสียหายต่อความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้สึกว่าท่านชอบเหลือเกินในการที่จะทำให้ต่างประเทศลดความเชื่อมั่นผมและประเทศไทย แต่ไม่เป็นไรครับ ผมทนได้ ขอบคุณครับ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เตรียมจะอภิปรายเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนของนายกรัฐมนตรี ทำให้ ส.ส.ซีกรัฐบาลและ ส.ส.ฝ่ายค้าน ต่างลุกขึ้นประท้วงตอบโต้กันไปมา โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อาทิ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) หยิบยกผลการหารือของวิปฝ่ายค้าน วิปฝ่ายรัฐบาล และประธาน รองประธานสภาฯ ได้หารือ จนนายชวนมีคำวินิจฉัยไม่ให้มีการอภิปรายเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้เคยมีคำวิจฉัยไว้แล้ว ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนระบุว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่จะมีสิทธิ์อภิปราย โดยเฉพาะนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่าได้มีการหารือกันจริง แต่ในการหารือครั้งนั้นระบุว่าเรื่องนี้เราทำได้เพียงแค่ขอความร่วมมือ แต่ถ้าหากผู้จะอภิปรายใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.อภิปราย เราก็ห้ามไม่ได้
นายศุภชัยได้วินิจฉัยว่า เรื่องถวายสัตย์ฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะเพียงเกริ่นพอประมาณ หรือลงลึก ถ้าลงลึกไม่อนุญาตให้อภิปราย เพราะเรื่องนี้เกิดก่อนการบริหารแผ่นดินของนายกฯ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปรายต่อว่า ยังไม่ทันพูดเลย แล้วประธานจะมาวินิจฉัย ควรฟังข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อน ท่านเป็นประธานเป็นหรือเปล่า ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ขอให้ผู้อภิปรายถอนคำพูดที่เสียดสีประธาน ไม่อย่างนั้นจะขอถามบ้างว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.เป็นหรือเปล่า จากนั้นยังมีการโต้เถียงกันต่อเนื่อง หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปรายต่อ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. ประท้วงว่าผู้อภิปรายแสดงกิริยาไม่เหมาะ ใส่ร้ายป้ายสี
ขณะที่นายศุภชัยกล่าวย้ำอีกครั้งว่า เรื่องก่อนนายกฯ เข้าบริหารราชการแผ่นดินไม่อาจให้อภิปรายได้ จะขอฟัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปราย ถ้าได้พูดนอกไปจากคำวินิจฉัยไป จะไม่ให้อภิปราย
"วีรบุรุษนาแก"ปะทะ"สหายแสง"
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปรายต่อและยังยืนยันจะเท้าความไปเรื่องเดิม ทำให้นายศุภชัยกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า ได้วินิจฉัยแล้ว แต่ท่านยังจมกับเรื่องเดิม ถ้าไม่อภิปรายเรื่องอื่น ขอให้ท่านนั่งลง ไม่อนุญาตให้อภิปราย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ทำไมล่ะ ประธานสภาฯ ระบุว่าท่านตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นจะเชิญออกจากห้องประชุม ท่านเลือกเอาว่าจะอภิปรายเรื่องอื่นต่อหรือจะออกนอกห้องประชุม ไม่ได้ขู่ ผมเอาจริง ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ถ้าเอาจริง เดี๋ยวเราก็เจอกันนอกสภา" นายศุภชัยสวนทันทีว่า "ไม่กลัวท่านเสรี ท่านเป็นวีรบุรุษนาแก ผมก็สหายแสง ขอให้ท่านเสรีตัดสินใจ จะเอาอย่างไรต่อ"
จากนั้น ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยกมือประท้วง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ระบุขอให้ประธานดำเนินการประชุมตามข้อบังคับเมื่อวินิจฉัยแล้ว แต่ผู้อภิปรายยังฝ่าฝืนกล่าวต่อ ขอให้ประธานสภาฯ ใช้อำนาจตามข้อบังคับ 9 และ 182 ให้ออกจากห้องประชุม นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นฟังอภิปราย อย่าเพิ่งบอกจะเชิญออกนอกห้องประชุม นายสิระ เจรจาคะ ส.ส.กทม. กล่าวว่า ไม่ควรให้คนมาใช้อำนาจข่มขู่ประธาน
นายศุภชัยกล่าวอีกครั้งว่า ขอให้ยืนยันว่าจะอภิปรายเรื่องเดิมหรือไม่ ไม่อย่างนั้นจะเชิญออกห้องประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่า อย่าเข้าใจว่าข่มขู่ ที่บอกว่าเจอนอกห้อง หมายถึงอาจเจอที่นอกห้องประธานก็ได้ นายศุภชัยบอกว่า เข้าใจ ที่บอกจะเจอข้างนอกคงหมายถึงมาเจอที่ห้องตน ไปกินกาแฟกัน
ในที่สุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวสรุปว่า คนเราหลอกคนอื่นได้ แต่เราหลอกตัวเองไม่ได้ แต่นายกฯ ทำตรงกันข้าม แล้วคนหลอกตัวเองควรเป็นนายกฯ หรือไม่ ขอจบเพียงเท่านี้ และได้นั่งลง
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์นั่งฟังอยู่ในห้องประชุมเกือบตลอดเวลาด้วยสีหน้าเรียบเฉย หันไปพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ บ้างในบางช่วงเวลา เมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวจบ จึงเข้าสู่บรรยากาศปกติ
จากนั้นเวลา 12.45 น. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวว่า พล.อ.ประยุทธ์ชี้นิ้วสั่งทุกอย่างเหมือนธานอส รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ได้รับฉายาว่ารัฐบาลเชียงกง ถ้าบริหารประเทศได้ดีก็คงไม่ได้รับฉายา มีคำครหามากที่สุดในเรื่องการซื้ออาวุธ และละเลยปล่อยให้มีอาชญากรรมและยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ปล่อยให้มีมวลอากาศพิษเต็มบ้านเต็มเมือง คือ PM 2.5 การเร่งรีบก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า เป็นการสะสมทุนเพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่ ทำให้คนไทยต้องเสี่ยงกับการติดไวรัส สงสัยว่าต้องการเข้าไปอุ้มธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีหรือไม่
ในช่วงท้ายของการอภิปรายนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ได้ขอให้ ส.ส.ฝ่ายค้านหยิบโทรศัพท์เพื่อเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ โดย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขอให้นายกฯ ยืนขึ้นเปล่งเสียงว่า ข้าพเจ้าขอยุบสภาแล้วไปเลือกตั้งกันใหม่ เพื่อจะได้ดูว่าประชาชนจะเลือกกลับเข้ามาบริหารประเทศหรือไม่ ส่วนนายกฯ ได้แต่ยิ้มและส่ายหัว
ต่อมานายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ใช้สิทธิพาดพิงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ขู่จะตรวจสอบพรรคการเมืองภายหลังถูกกล่าวหาอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการข่าวสาร ของ กอ.รมน.ว่า การรณรงค์ของทุกพรรคการเมืองถือเป็นหน้าที่หากจะตรวจสอบก็ทำได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว หากจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และเปิดเผยผลการตรวจสอบให้และสาธารณชนได้รับทราบด้วย
ยื่นปปช.ฟันอยู่บ้านพักหลวง
ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ตอนหนึ่งว่า ชาวบ้านเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า จะอดตายกันหมดอยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ออกไปเถอะ เพื่อความสงบสุขของลูกหลาน พล.อ.ประยุทธ์พอได้แล้ว คุณฆ่าคนเป็นหมื่น คุณไปได้แล้ว ไปตายได้แล้ว ทำให้นายชวนที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ขอให้นายสงครามถอนคำพูดคำว่า ไปตายได้แล้ว
ในระหว่างที่นายสงครามอภิปรายได้ยกเตาอั้งโล่ขึ้นมาไว้บนโต๊ะเพื่อประกอบการอภิปราย โดยช่วงหนึ่งได้พูดเชิงเปรียบเทียบโครงการประชารัฐเปรียบเสมือนเตาอั้งโล่ ช่วงท้ายของการอภิปรายยังได้ขอให้สมาชิกลุกขึ้นยืนไว้อาลัยให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ 1 นาที แต่นายชวน ประธานสภาฯ ไม่อนุญาต เพราะเป็นการเสียเวลาคนอื่น
จากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากการที่พักบ้านพักทหารหลังเกษียณอายุราชการแล้วโดยไม่จ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือเป็นการทำความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 กำหนดห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหรืออื่นใดรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ได้ไม่เกิน 3,000 บาท แต่อยู่ในบ้านพักมาก็หลายล้านบาท รวมทั้งการบริหารงานผิดพลาดทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมาจำนวนมาก ดังนั้นตนจะส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาว่าจะพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่
เวลา 17.30 น. นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย อภิปรายนายกฯ กรณีที่แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม และขัดต่อการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ทั้งกรณีถูกถอดยศจาก ร.ท. เพราะหนีราชการ และมีพฤติกรรมแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ต่อรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 3 ล้านบาท
ด้าน ร.อ.ธรรมนัสชี้แจงกรณียศทหารของตนว่า เนื่องจากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับลงวันที่ 24 ตุลาคม 2541 เรื่องการถอดยศร้อยโท ตั้งแต่ 9 ก.ย.41 แต่อีกคำสั่งหนึ่งลงวันที่ 1 มิถุนายน 2541 เลื่อนยศเป็นร้อยเอก ซึ่งถึงเดือนตุลาคมก็เป็นระยะเวลาหลายเดือน จึงเกิดความสับสน ตนก็ใช้คำว่านายธรรมนัส พรหมเผ่า แต่เมื่อมีการนำชื่อเสนอขึ้นโปรดเกล้าฯ ก็มีการถกเถียงกันหลายประเด็น ตนพยายามหาหลักฐาน สรุปแล้วยศตนยังอยู่หรือไม่ แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ จึงมีความจำเป็นเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ก็ใช้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไม่ใช่ประเด็นที่ตนใช้ยศอำนาจเพื่อได้เปรียบเชิงการเมือง
ส่วนประเด็นเรื่องการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนไม่ปฏิเสธว่าก่อนที่จะเข้าสู่การดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 ตนมีอาชีพเป็น 1 ใน 5 เสือกองสลากกินแบ่งรัฐบาล มันผิดหรือที่ตนจะมีอาชีพเป็นผู้ค้าสลากรายใหญ่ ขออย่ามองเห็นผู้ค้าสลากรายใหญ่เป็นโจรหรือเป็นผู้เอารัดเอาเปรียบทางสังคม ตนได้รับสัมปทานในฐานะเป็นคู่สัญญากับกองสลากครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 ถึงทุกวันนี้ตนไม่มีสัมปทานหรือมีคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯ แม้แต่เล่มเดียว ซึ่งตนที่ทำธุรกิจเรื่องสลากกันมาเกือบ 10 ปี
ช่วงบ่าย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พร้อม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวภาพรวมครึ่งทางของการอภิปรายฯ โดย น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ฝ่ายค้านถือว่าการอภิปรายมีหลายสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีข้อบังคับเป็นปัญหา อุปสรรค ทำให้ต้องปรับกระบวนยุทธ์
นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านถามได้ทุกคน แต่รัฐบาลตอบไม่ได้ แม้จะมีการเปิดตัวอักษรชื่อย่อ เพื่อยั่วยุให้ออกมาตอบ แต่ไม่มีการชี้แจง ทำให้ตีความได้ว่าจนมุม เมื่อถูกตั้งคำถามถึงปัญหาเศรษฐกิจ ตอบแบบกล้อมแกล้ม เมื่อถูกตั้งคำถามถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ ฝ่ายรัฐบาล ก็ไม่ชี้แจงเลย อาจเป็นเพราะเขาวิเคราะห์ไม่ออกว่าเหตุใดคนรวยจึงรวยแบบก้าวกระโดด 150 เปอร์เซ็นต์ ประเมินภาพรวม พบว่าในหลายข้อกล่าวหา รัฐบาลตอบไม่ตรง และไม่ตอบ จึงไม่แปลกใจที่ผลสะท้อนทำให้หุ้นตก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของไฮไลต์สำคัญการอภิปรายในวันที่ 27 ก.พ. อยู่ที่นายศรัณย์วุฒิจะอภิปรายครอบคลุม 3 ป. โดยจะเน้นเรื่องการซื้ออาวุธในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาล ซึ่งได้เอกสารหลักฐานสำคัญจากต่างประเทศในหลายภาษา ที่ผ่านการแปลเรียบร้อยแล้ว รวมถึงประเด็นของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ที่จะมีทั้งเรื่องการแสดงสำเนาภาษีเป็นเท็จ การแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต จนมีผลกระทบมาถึงโรงงงานยาสูบ นอกจากนี้ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรค ยังเตรียมข้อมูลอภิปราย งบประชาสัมพันธ์ บริษัทจันทร์ 29 ที่จะโยงใยให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีบางคน จนได้รับงานจากภาครัฐหลายโครงการ
ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ในฐานะเลขานุการคณะทำงานวอร์รูมนอกสภาของรัฐบาล กล่าวว่า จากการอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้าน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมาตลอด กระทั่งถึงคิวการอภิปรายของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่พยายามอภิปรายนายกรัฐมนตรีในเรื่องการถวายสัตย์ฯ ตนเสียดายความเป็นอดีตผบ.ตร. เสียดายที่คนเชิดชูว่าเป็นวีรบุรุษนาแก จากพฤติกรรมดังกล่าวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่อไปตนและประชาชนขอเรียก "โมฆบุรุษนาเก๊" แทนคำว่า วีรบุรุษนาแก เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |