นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่า ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่เสียอีก เพราะไม่ถึง 72 ชั่วโมงนับจากนั้นปรากฏว่ามี ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต และปาร์ตี้ลิสต์ ลอยไปซบอก เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล แห่งพรรคภูมิใจไทย ระลอกแรก ถึง 9 คน ซึ่งมีหลายคนที่แฟนพรรคอนาคตใหม่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี และคิดไม่ถึงว่าจะไปกันรวดเร็วขนาดนี้ เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. บางคนยังใส่เสื้อ "#เราไปต่อ" พร้อมไปลุ้นผลกับบรรดาแกนนำที่พรรคอนาคตใหม่อยู่เลย
ทั้ง 9 หน่อ ประกอบด้วย นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. เขต 23, ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 20, นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21, นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1, นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3, นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1, นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น เขต 1, นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตาม นางสาวศรีนวล บุญลือ ไปติดๆ
ส่วนอีก 3 คนก่อนหน้า กระจายไปพรรครวมพลังท้องถิ่นไท 2 ราย และพลังประชารัฐอีก 1 ราย เท่ากับว่าตอนนี้มี ส.ส.แปรพักตร์ไปแล้วทั้งสิ้น 13 หน่อ จากเดิม 79 คน และเมื่อรวมกับกรรมการบริหารพรรคที่หายไปอีก 11 คน เท่ากับว่าอย่างมากที่สุด ตอนนี้พวกเขามี ส.ส.อยู่ในสภาทั้งสิ้น 55 คน และอีกไม่นานคาดว่าจะหายไปมากกว่านี้อีก ส่งผลให้กลายเป็นเพียง “อดีตพรรคการเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นที่เรียบร้อย” โดยพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แทน และเป็นพรรคใหญ่อันดับ 2 ในฟากพรรคร่วมรัฐบาล
วิบากกรรมเหล่านี้ที่พรรคอนาคตใหม่ประสบ ไล่ตั้งแต่สูตรคำนวณ ส.ส. ที่พวกเขาอ้างว่าวิธีการดังกล่าวทำให้จำนวน ส.ส.ของพวกเขาหายไปถึง 8 คน ไล่มาจนถึงการถูกแขวนจนนำไปสู่การถอดถอนเอกสิทธิ์ของนายธนาธร การเกิดงูเห่าชุดแรก 4 รายในพรรค ก่อนจะถูกตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส. 11 คน เส้นทางดังกล่าวค่อยๆ พัดพาตัวแทนในสภา ของพรรคหายไปเป็นชุดๆ และล่าสุดกับการซบอกเสี่ยหนูที่หายไปอีก 9 และแน่นอนว่าเมื่อ ส.ส.ลดจำนวนลง เสียงในสภาอาจจะไม่ดังอย่างที่เคย และคาดว่ากำลังจะค่อยๆ ลดน้อยถอยลงภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจบ
กับการย้ายขั้วรอบล่าสุด มีหลายคนที่เรียกได้ว่าย้ายแบบ คาดไม่ถึง ส.ส.อย่าง ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. เขต 20 ก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าแทบจะตัวติดกับนายธนาธรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในพรรค นอกพรรค ร.ต.ต.มณฑล มักจะมาปรากฏตัวให้เห็นอยู่เสมอ และปรากฏข้างกายของนายธนาธรเสียด้วย เช่นเดียวกับ นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น ที่มักมาปรากฏตัวตามงานของพรรคเช่นกัน ขณะที่บางคนก็อาจจะมีกลิ่นตุๆ โชยมาก่อนแล้ว อย่างนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี ที่ก่อนหน้านี้ปรากฏภาพระหว่างนายอนาวิล กับนายอนุทิน ชักภาพหลังทานข้าวด้วยกัน พร้อมโพสต์ข้อความ...
“ไม่มีกัญชา มีแต่กุนเชียง การเมืองไม่คุย คุยแต่เรื่องทั่วไปครับ”
สุดท้ายผลก็ออกมาแบบที่เห็น
และดูเหมือนว่ามหกรรมดังกล่าวจะยังไม่จบ เมื่อมีการคาดการณ์กันอีกว่าหลังเสร็จศึกอภิปราย มีอีกอย่างน้อย 6 คนที่จะบินไปซบพรรคฟากรัฐบาลอีกด้วย หรือถ้าหนักข้อหน่อย ไม่แน่ว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่อาจจะเหลือ ส.ส.เพียงไม่เกิน 40 คน
แต่จะว่าไปก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะก่อนการเลือกตั้งมี ส.ส.เขตไม่น้อย ที่พวกเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าหลังการเลือกตั้งจะได้โอกาสมีตำแหน่งในสภา เพราะฉะนั้น การเล่นการเมืองครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิต ที่ได้เข้ามามีเอี่ยวในสนามการเมือง การตัดสินใจแบบนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ขณะที่ข้อครหาก็ไม่ถึงขั้นเป็น งูเห่า เพราะบางคนที่ผ่านมาก็ปฏิบัติตามมติพรรคอย่างเคร่งครัด แต่เมื่อไม่มีพรรคให้อยู่แล้วก็ต้องหาต้นสังกัดใหม่ภายใน 60 วันตามกฎหมาย เพียงแต่ไม่ได้ไปต่อกับบ้านหลังเดิมก็เท่านั้นเอง
และจนถึงตอนนี้ ความชัดเจนเท่าที่เห็นก็มีเพียงการตั้งป้อมของอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ยังคงมีอุดมการณ์ดังเช่นช่วงที่เข้าสภาครั้งแรก เตรียมจะไปอยู่พรรคใหม่ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นการเทกโอเวอร์พรรคการเมืองที่มีอยู่เดิม แต่ไม่ได้ใช้งาน ให้เป็นบ้านหลังใหม่ โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรค และมี นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เป็นเลขาธิการพรรค
จากนี้ขอใหัจับตาดูกันดีๆ เลยว่า จะมีอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่อีกกี่คนที่จะทิ้งบ้านหลังเดิมไป แต่เชื่อได้เลยว่า การเลือดไหลในครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องจดจำครั้งหนึ่ง ของประวัติศาสตร์การเมืองไทยเลยทีเดียว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |