เรียกว่า 3 วันของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้น ต่างพุ่งเป้าไปที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมเป็นด้านหลัก ในขณะที่อีก 5 รัฐมนตรีนั้น เรียกว่ายังแค่โฉบเฉี่ยวเล็กๆ เท่านั้น เพราะพลพรรคฝ่ายค้านต่างเชื่อ “ลุงตู่” มีจุดเดือดต่ำจากพฤติกรรมในการบริหารประเทศที่ผ่านมาตั้งแต่ยังเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ...๐
แต่ก็ผิดคาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะ “บิ๊กตู่” เรียกว่าไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวแต่ประการใด ส่วนการ “จิกกัด” และเหน็บแนมนั้น ก็ยังคงมีอยู่เป็นกระสาย ซึ่งก็น่าสนใจว่าในช่วงเวลา 1 วันที่เหลือ สุดท้ายฝ่ายค้านจะยังคงมุ่งมั่นพุ่งเป้าไปที่ “ลุงตู่” อยู่ หรือจะเบนเข็มไปที่ 5 รัฐมนตรีที่เหลือหรือไม่อย่างไร เพราะแม้ “วิปฝ่ายค้าน” ที่มีสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม จะเคยระบุว่าใน 2 วันแรกจะเป็นคิวของลุงตู่ ส่วนอีก 2 วันจะเป็นคิวของ 5 รัฐมนตรีก็ตามที เพราะขนาดเรื่องที่ตกลงกัน 3 ฝ่าย ทั้งประธานสภา วิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ประชุมเห็นดีเห็นงามร่วมกันเรื่องจะไม่มีการอภิปรายในเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่ สุดท้ายก็ยังพลิ้วอ้างเรื่อง “อภิสิทธิ์” โดยมิได้ใส่ใจในเรื่องของข้อตกลง ที่ได้เจรจาต้าอ่วยกันไว้ ...๐
คงเป็น “สันดาน” ของนักการเมืองนั่นเอง ที่ไม่ว่าจะเป็นหน้าไหน พออะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยกเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” และ “เอกสิทธิ์” มาอิงแอบแนบสนิท เสียนี่กระไร แต่พอเวลาจะด่าทอเรื่องการสืบทอดอำนาจและเผด็จการขึ้นมา ก็ฟาดงวงฟาดงาไปที่รัฐธรรมนูญเสียฉิบ จึงไม่แปลกที่ “ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จะมีการประท้วงว่าด้วย “ไบโพลาร์” ขึ้นมา เพราะมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ...๐
แล้วที่น่าสนใจของการอภิปรายในครานี้ ดูเหมือน “อัลไซเมอร์” จะเกาะกินบรรดาทั่นผู้ทรงเกียรติกันถ้วนทั่ว ทั้ง ส.ส.รัฐบาลและ ส.ศ.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ กรณีการให้ “ถอน” คำอภิปราย ที่ต่างเกิดอาการจำไม่ได้ขึ้นมาทันควัน ก็ถ้าแค่พูดออกมาแล้วจำไม่ได้จะเข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชนได้อย่างไร หากใครเกิดอาการอย่างนี้ก็น่าจะ “ลาออก” ไม่ให้เปลืองภาษีชาวบ้านตาดำๆ เลยดีกว่า ...๐
ก็ไม่รู้ว่า “พรรคเสรีรวมไทย” โดยเฉพาะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค จะมุ่งมั่นกับเรื่อง “ถวายสัตย์ฯ” ของ พล.อ.ประยุทธ์หนักหนา เพราะล่าสุดก็ดันทุรังที่จะอภิปรายจนสุดท้ายใช้เวลาประท้วงกันวุ่นวายไปเกือบ 2 ชั่วโมง โดยไม่ได้อะไรออกมา นอกจากได้รับการท้าทายจาก “สหายแสง” อย่างนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กับ “วีรบุรุษนาแก” เท่านั้น ...๐
ที่สำคัญการอภิปรายเดินเกินครึ่งทางแล้ว ต้องบอกได้คำเดียวว่า “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งเป็นแกนนำหลักของพรรคฝ่ายค้านไม่สมราคาคุยแต่ประการใด ไล่มาตั้งแต่ผู้นำฝ่ายค้านอย่าง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” จนถึงเลขาธิการพรรคอย่าง “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ในขณะที่พรรคตัวประกอบอย่าง “เสรีรวมไทย” และ “เพื่อชาติ” นั้น ก็ต้องส่ายหัว เพราะเหมือนเอาข่าวตัดแปะมาเล่าเป็นโฆษณาขั้นเวลาเท่านั้น ส่วนที่น่าสนใจและน่าติดตามก็คงเป็นของ ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ต้องบอกว่าทำการบ้านอย่างแท้จริง นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็น ส.ส.สมัยแรกแล้ว เชื่อว่า ใครต่อใครก็ต้องมองว่ามี “พรรษา” ทางการเมืองทีเดียว แต่ที่น่าเสียดาย เพราะพอไม่มีพรรคสังกัดเลยทำให้ดูเหมือนการจัดสรรเวลาไปอยู่ในช่วงดึกดื่นเสีย ...๐
ที่อนาถเข้าไปอีกของ “ยุทธการอรุณรุ่ง” ที่ตีปี๊บมาแต่ไก่โห่ซะใหญ่โต สุดท้ายก็เป็นแค่ การเปิด “แฟลช” มือถือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามที่ “อนุดิษฐ์” บอกให้พลพรรคทำเท่านั้น แล้วที่ตลกเข้าไปอีกคือ ก่อนเรียกร้องให้เปิดแฟลชหรือไฟฉายนั้น ยังเรียกร้องให้ “รุ่นพี่ประยุทธ์” ลาออกแสดงสปิริตอยู่เลย แต่ พอเปิดไฟมือถือเท่านั้น กลับมาเรียกร้องให้ “ยุบสภา” เลือกตั้งใหม่ ตกลงข้อเรียกร้องอะไรมันจะพลิกผันภายในไม่ถึง 5 นาที งานนี้เลยมองได้คำเดียวว่า ยิ่งกว่าเล่นลิเกขายของเลยทีเดียว ...๐
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งสำหรับเฟซบุ๊กของ “เหวง โตจิราการ” แกนนำ นปช. ที่จะแถรูปแบบไหน เพราะล่าสุดศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.4022/2557 ซึ่งเป็นคดีชายชุดดำในการชุมนุมของ นปช. ที่ศาลอุทธรณ์ได้ยืนจำคุก 10 ปี ถือเป็นการตบหน้า “โหวงเหวง” ผู้ที่บอกว่าไม่มีที่ชายชุดดำหรือไม่อย่างไร แต่เชื่อว่า “สีข้าง” ของคุณพี่ก็อ้างได้ว่ายังไม่ถึงขั้นฎีกา ก็ยังไม่แน่ชัดว่ามีชายชุดดำหรือไม่อย่างไรตามสไตล์ของพี่แกแน่นอน ...๐
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |