สส.พรรคเล็กชำแหละ'บิ๊กตู่'ตั้งคนขายสลากฯ-ถูกถอดยศนั่งรมต.'ธรรมนัส'เคลียร์ชัดเข้าใจผิด


เพิ่มเพื่อน    

26 ก.พ.63 - เมื่อเวลา 17 .30 น. นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ต่อกรณีที่แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม และขัดต่อการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ทั้งกรณีที่ถูกถอดยศ จาก ร.ท. เพราะหนีราชการ และมีพฤติกรรมแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อรายได้ที่จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เดือนละ 3ล้านบาท ทั้งที่ข้อเท็จจริงที่ตนค้นคว้า พบว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการกองสลากฯ ปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาสลากฯ ขายเกินราคา โดยขายสลากให้ผู้ค้าโดยตรงผ่านธนาคารกรุงไทย  ทำให้บริษัทที่มีร.อ.ธรรมนัสเป็นหุ้นส่วนซึ่งรับโควค้าสลาก ถูกริบโควต้า ดังนั้นร.อ.ธรรมนัสไม่ควรมีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่าร.อ.ธรรมนัส แจ้งบัญชีทรัพย๋สินที่เป็นเท็จ

นายนิคม อภิปรายด้วยว่าส่วนรายได้ที่ ร.อ.ธรรมนัส แจ้งรายได้ต่อป.ป.ช. เดือนละ 3 ล้านบาทตนเชื่อว่าข้อเท็จจริงมีรายได้สูงกว่านั้น โดยจากการตรวจสอบพบว่าราคาต้นทุนของสลากฯ ต่อใบอยู่ที่ 75 บาท ส่วนผู้ค้าจะได้กำไรใบละ 5 บาท ขณะที่นายทุนที่ค้าสลาก เชื่อว่าจะมีกำไรใบละ 25 บาท

“ผมถามว่าหากอยากได้จะทำอย่างไร เขาตอบว่าให้ไปถามบิ๊กป้อม ยุคนี้พิมพ์จำนวนสลากต่องวดละ 100 ล้านฉบับ จากเดิมพิมพ์ 60 ล้านฉบับ  และการเพิ่มพิมพ์สลากที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาเล่าว่าจัดสรรให้ ร.อ.ธรรมนัส  ดูแลจำนวน 80 ล้านฉบับ ซึ่งผมเชื่อว่าหากนำไปขายจะทำให้กำไรกว่า 300 ล้านบาท และนำเงินที่ได้เพื่อดูแลคนตรงนี้ ส่วนเรื่องนี้จะจริงหรือไม่จริงต้องชี้แจงมา” นายนิคม  กล่าว

ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์  ชี้แจงกรณียศทหารของตนว่า เมื่อวันที่24 ตุลาคม 2541 ได้มีการลงนามพระบรมราชโองการโปรดเกล้าพระราชอนุญาตให้ถอดยศร.ท.พชร พรหมเผ่า สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่9 กันยายน 2541 เหตุผลประพฤติตัวไม่สมควรกับพรบ.ว่าด้วยวินัยทหารพ.ศ. 2476  โดยมีนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีขณะนั้นรับสนองพระบรมราชโองการ แต่ตนก็มีหนังสือของกระทรวงกลาโหมอีกฉบับว่าด้วยการเลื่อนยศนายทหารสัญญาบัตร โดยอาศัยอำนาจม.3 ของพรบ.ยศทหารพ.ศ. 2475 ให้เลื่อนยศนายทหารสัญญาบัตรในสังกัดบก.ทหารสูงสุดซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งยศและการเลื่อนยศของข้าราชการทหารปี2541 เป็นว่าที่ร้อยเอก อันดับ1 ร้อยโทพชร พรหมเผ่าหมายเลขประจำตัว 1 2 7 2 5 0 0 3 1 1  ลงชื่อโดยพล.อ.วัฒนชัย วุฒิศิริ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2541  แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความสับสนคือเนื่องจากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับลงวันที่ 24 ตุลาคม 2541 เรื่องการถอดยศร้อยโท แต่อีกคำสั่งหนึ่งลงววันที่ 1 มิถุนายน 2541  ซึ่งถึงเดือนตุลาคมก็เป็นระยะเวลาหลายเดือน ดังนั้นจึงเกิดความสับสน

“ผมไม่เคยคิดที่จะแอบอ้างในเรื่องยศฐาบรรดาศักดิ์ ชีวิตผมที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ การทำมาหากินหรือทำอะไรก็ตาม ก็ไม่เคยที่จะเอายศฐาบรรดาศักดิ์มาแอบอ้างในการทำมาหากิน ชี้แจงทรัพย์สินต่อปปช .และสมัครส.ส.ผมก็ใช้คำว่านายธรรมนัส พรหมเผ่า แต่เมื่อมีการนำชื่อเสนอขึ้นโปรดเกล้าก็มีการถกเถียงกันหลายประเด็น ตนพยายามหาหลักฐานสรุปแล้วยศตนยังอยู่หรือไม่ แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ จึงมีความจำเป็นเมื่อได้รับโปรดเกล้าให้ใช้ชื่อร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเกษตรก็ใช้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาไม่ใช่ประเด็นที่ตน ใช้ยศอำนาจเพื่อได้เปรียบเชิงการเมืองเลย

ส่วนประเด็นเรื่องการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลตนไม่ปฏิเสธว่าก่อนที่จะเข้าสู่การดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะส.ส ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2562 ตนมีอาชีพเป็น 1 ใน 5 เสือกองสลากกินแบ่งรัฐบาล มันผิดหรือที่ตนจะมีอาชีพเป็นผู้ค้าสลากรายใหญ่ ขออย่ามองเห็นผู้ค้าสลากรายใหญ่เป็นโจรหรือเป็นผู้เอารัดเอาเปรียบทางสังคม 5 เสือกองสลากเขาก็มีคุณธรรมไม่ใช่จะเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่เมื่อนโยบายรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ให้มี 5 เสือหรือผู้จำหน่ายฉลากรายใหญ่   ตนได้รับสัมปทานในฐานะเป็นคู่สัญญากับกองสลากครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 ประธานบอร์ดมีนโยบายว่าสลากการกุศลหรือสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องถูกจำหน่ายโดยผ่านธนาคารกรุงไทย หรือผ่านองค์กรกุศลในจำนวนที่เป็นไปตามข้อบังคับ หรือระเบียบของสำนักงานสลากฯ วันที่ 4 สิงหาคม 2558 คือครั้งสุดท้ายที่ตนอยู่ในฐานะที่เป็นคู่สัญญากับกองสลากฯ

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า จนถึงทุกวันนี้ตนไม่มีสัมปทานหรือมีคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯแม้แต่เล่มเดียว แต่ที่ได้สำแดงทรัพย์สิน รายได้ว่ามาจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 3 ล้านบาท คงเข้าใจผิดว่าตนยังเป็นคู่สัญญากับสำนักงานสลาก ขอเรียนว่ารายได้จากการทำธุรกิจในส่วนของสลากกินแบ่งเดือนละ 3 ล้านคือที่ตนเช่าแผงค้าสลากที่ข้างสำนักงานสลากฯ ซึ่งเป็นการเช่าช่วงจากเจ้าของตลาด ตนมีแผงค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเกือบ 10 แผง เพราะจำเป็นต้องหล่อเลี้ยงลูกค้าของตนที่ทำธุรกิจเรื่องสลากกันมาเกือบ 10 ปี เพราะสมัยที่ตนเป็นเจ้าของสัมปทาน ลูกค้าเหล่านั้นมารับสลากจากตนไปขายในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ตนจึงจำเป็นต้องประคองชีวิตของพ่อค้าผู้มีอาชีพเหล่านั้นให้มีอาชีพต่อไป ถึงแม้ว่ารายที่เคยได้รับจะลดน้อยลง แต่เขาก็สามารถที่จะทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอด ดังนั้นตนเปิดแผงค้าเกือบประมาณ 10 แผงเพื่อไว้รับซื้อ และจำหน่ายสลากเหมือนเดิม

“การทำอาชีพนี้ผมถือว่าเป็นอาชีพสุจริต แม้เราจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือ ส.ส.ก็ตาม การเป็นรัฐมนตรีถือว่าสาหัสพออยู่แล้ว แต่สถานะการเป็นส.สโดยเฉพาะผู้แทนตลาดล่าง เงินเดือนแต่ละเดือนจากการได้รับจากรัฐบาลประมาณ 120,000 บาท ถามว่างานแต่ละงานในฐานะการเป็นสส. มันเลี้ยงพวกเราได้หรือไม่ ใครไม่เป็นผู้แทนจากเขตไม่รู้หรอก ยกตัวอย่างส.ส.บ้านผมดูแลพื้นที่พะเยามีกี่อำเภอ อบต.หมู่บ้าน ออกจากบ้านก็เสียเงินแล้ว สิ้นเดือนยิ่งกว่าสิ้นใจเงินไม่พอ ผมเชื่อว่าสส.ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลต่างก็ตระหนักดีว่าเราต้องทำมาหากินเหมือนกัน ไม่ใช่นั้นอยู่ไม่ได้“ ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"