"บิ๊กตู่" ยิ้มแป้นเข้าสภาฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สอง "แรมโบ้" เย้ยฝ่ายค้านยุทธการอรุณรุ่งริ่ง "ปธ.วิปฝ่ายค้าน" ยอมรับประเมินผิดพลาด "เสรีพิศุทธ์" เดือดโดนเบรกห้ามพูดปมถวายสัตย์ฯ ซัดพวกเดียวกันไอ้เวร "สุทิน" แฉรัฐบาลดึงเอกชนนั่งบริหารปท.เอื้อ 24 กลุ่มทุนประชารัฐ "ประยุทธ์" โต้ยิบบอกถ่ายรูป 24 ตระกูลเจ้าสัวเปิดเผย เหน็บพลาดไปหนึ่งตระกูลหายไปไหน ยันใช้ม.44 ไม่เคยละเมิดสิทธิใคร "ชลน่าน" งัดไสยศาสตร์โจมตีกาลีบ้านกาลีเมือง
ที่รัฐสภา วันที่ 25 ก.พ. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นวันที่สอง ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภาในเวลา 09.15 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าโกรธหรือไม่ที่ถูกเรียกว่าคุณแทนพลเอก นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าวได้แต่ยิ้ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พอใจภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์พยักหน้ารับพร้อมกล่าวว่า “ก็น่าโอเค”
ถามว่าแล้วคาดว่าการอภิปรายในวันที่สองจะเรียบร้อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ดีไม่ใช่หรือ เรียบร้อยกันอยู่แล้ว
ย้ำว่าแล้วพอใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เราก็ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อม อันไหนชี้แจงได้ผมก็ชี้แจงไป เอาเถอะให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ก็ว่ากันไป ผมก็ทำเพื่อพวกเราทุกคนนั่นแหละ”
ส่วนนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการทีมวอร์รูมนอกสภาของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นมวยล้มต้มคนดู โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของขุนพลฝ่ายค้าน อย่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่น่าผิดหวัง ไม่สมดังที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยให้คำมั่นไว้ ซึ่งไม่ทราบว่า ร.ต.อ.เฉลิมฝีไม้ลายมือหดหายไปไหนแล้ว หรือมุ่งแต่เอาใจและเป่าหูนายใหญ่เพื่อแก่งแย่งอำนาจกับเจ้าแม่บางคนในเพื่อไทยอยู่ในเวลานี้หรือไม่
"การอภิปรายของฝ่ายค้านมุ่งแต่กล่าวหารัฐบาลจนเกิดความสับสน นำเสนอข้อมูลเท็จ เป็นการเมืองแบบเก่ามุ่งใส่ร้ายป้ายสี จนลืมไปว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาล้วนมาจากรัฐบาลในอดีตที่สร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างไม่สามารถจะประมาณการได้ ไม่ว่า จะเป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชันในโครงการรับจำนำข้าว หรือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเพื่อช่วยเหลือนายใหญ่เพียงคนเดียว ซึ่งการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านนอกจากพลาดเป้าแล้ว ยังย้อนกลับมาปลิดชีพตัวเองอีกด้วย จนเป็นเหตุให้สื่อมวลชนและคอลัมนิสต์ หลายสำนักพาดหัวในทำนองเดียวกันว่ายุทธการอรุณรุ่งริ่ง, อรุณร่วง และขุดโกง-นิรโทษกรรมตอกกลับฝ่ายค้าน" นายสุภรณ์กล่าว
ฝ่ายค้านรับผิดพลาด
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ก็ยอมรับภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกว่า ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะมีการประเมินสถานการณ์ผิดพลาด การเตรียมตัวผิดพลาดหลายอย่าง ประการแรก ข้อบังคับสภาหรือคำวินิจฉัยของท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร มีการให้รัฐมนตรีขึ้นตอบแทนนายกฯ จึงทำให้การขึ้นพูดใช้เวลามากเกินไป ขณะที่ผู้อภิปรายเตรียมตัวมาอีกแบบนึงถือว่าเป็นสถานการณ์ใหม่ และมีการบริหารเวลาผิดพลาด หลายคนคิดว่าใช้เวลาเยอะไป บวกกับสถานการณ์ที่ประท้วงซึ่งเคยตกลงกันไว้ว่าจะประท้วงน้อย แต่เมื่อวานกลับไม่น้อย และประท้วงในเรื่องที่ไม่ใช่สาระทำให้การอภิปรายของหลายคนสะดุด
ซักว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ ปธ.วิปฝ่ายค้านกล่าวว่า ท่านยืนยันว่าจะขึ้นอภิปราย แต่หากข้อหาหลักเป็นเรื่องเกี่ยวกับการถวายสัตย์ฯ ก็คงขึ้นพูดไม่ได้ เนื่องจากประธานสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งไว้ว่าไม่สามารถอภิปรายเรื่องดังกล่าวได้
มีรายงานจากพรรค พท.ประเมินภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกพรรคร่วมฝ่ายค้านพุ่งเป้าเปิดแผลตีแผ่ให้สังคมได้รู้ความจริงเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เมื่อนายยุทธพงศ์อภิปรายคนแรก มีการโหมโรงกันมาล่วงหน้าว่ามีข้อมูลเด็ด ใบเสร็จมัด พอทำหน้าที่อภิปรายได้เพียง 40 นาที ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยจำนวนไม่น้อยและ ส.ส.ประชาธิปัตย์ในกลุ่มที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ต่างส่ายหน้าเดินออกมานอกห้อง จับกลุ่มพูดคุยว่าผิดหวัง นี่ไม่ใช่วิธีการของมืออภิปรายทำกัน ข้อมูลบางอย่างควรพูดกลับไม่พูด
ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า อยากถามนายชวน เอาสภาไปรับใช้ฝ่ายบริหารหรือ เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ท่านเอาอะไรมาห้าม ตั้งแต่อดีตท่านพยายามช่วยเขาสกัดตนตลอด แม้กระทั่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เวลาเชิญนายกฯ ก็ไม่ยอมมา แล้วยังส่งคนมาถอดถอนตนออกจาก กมธ. ซึ่งผิดกฎหมายทั้งนั้น เพราะการแสดงความคิดเห็นในสภาเป็นเอกสิทธิ์ จะไปนำฟ้องร้องหรือกล่าวหาในทางใดไม่ได้ เวลามีคนไปยื่นญัตติถอดถอนตน ท่านก็รับ ก็เป็นเรื่องตลกดี การไม่ให้ตนอภิปรายเรื่องนี้เอาอะไรมาบังคับ ญัตติที่ยื่นไปก็ชัดเจนว่านายกฯ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงสามารถอภิปรายได้
ถามว่า ข้อตกลงนี้วิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเห็นชอบแล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไม่มี ใครทะลึ่งมาตกลง ตนไม่ได้ตกลงด้วย ไอ้เวรพวกนั้นไปตกลงได้อย่างไร ประเด็นของตนอยู่คนละพรรค จะตกลงทำไมไม่มาคุยกับตนก่อน อย่าให้ตนพูดหนักไปกว่านี้ก็แล้วกัน
อย่างไรก็ตาม นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุเหตุใดประธานสภาฯ จึงไม่ให้อธิบายปมถวายสัตย์ปฏิญาณของ ครม.และกล่าวหานายชวนรับใช้ฝ่ายบริหารหรือไม่ว่า อยากเรียนว่าถ้าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ขี้เกียจ ขยันเหมือนกับคนอื่นที่มาประชุม ก็จะทราบเหตุผล แต่กลับมากล่าวหา มาด่าว่า ตัวแทนทั้งหลายที่มาประชุมเป็นไอ้เวร ความจริงแล้วคนที่ควรจะถูกตำหนิหรือถูกด่าควรจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เอง ทั้งไอ้เวร ทั้งไอ้ขี้เกียจ เขามาทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของการประชุม แต่กลับมากล่าวหาเขา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มียาสามัญประจำตัวอยู่อย่างเดียวคือปมถวายสัตย์ปฏิญาณตนเท่านั้น
ประท้วง รมต.แจงยาว
ต่อมาเวลา 09.30 น. การอภิปรายไม่ไว้วางใจเริ่มต้นขึ้น มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานการประชุม โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นใช้สิทธิชี้แจงในเรื่องที่ถูกพาดพิงเมื่อคืนกลางดึกที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การชี้แจงของรัฐบาลมีความจำเป็นต้องพูดถึงกระทรวงหลายกระทรวง แม้นายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาลและกำหนดแนวทางการทำงาน แต่ไม่ได้เป็นคนทำงานทั้งหมดเพียงผู้เดียว ตั้งแต่สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติขอให้ประชาชนรับฟังข้อเท็จจริงและคำตอบ เพื่อให้เกิดการรับรู้และสร้างความปรองดองเพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งฝ่ายโดยไม่มีหลักการ
"กรณีเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นพลเรือนด้วยกันผมไม่ห่วงว่าจะเรียกกันว่าอะไร แต่สำหรับทหารและตำรวจทั้งหลาย ได้ร่วมพิธีถวายสัตย์ฯ และรับพระราชทานยศมาด้วยกัน กรุณารักษาศักดิ์ศรีของตัวเองกันไว้ด้วย ผมไม่ได้โกรธเคืองอะไรท่านเลย" นายกฯ กล่าว
จากนั้นรัฐมนตรีหลายคนใช้สิทธิชี้แจงถึงเรื่องต่างๆ ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านได้อภิปรายพาดพิง ซึ่งมีรัฐมนตรีอีกหลายคนต่อคิวชี้แจงยาวเหยียด เริ่มจากนายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ชี้แจงโครงการหอชมเมือง ตามด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง บนถนนเจริญนคร เชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสผ่านห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ถูกมองว่าเอื้อนายทุน, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงเรื่องการใช้อำนาจมาตรา44 มาแทรกแซงทีวีดิจิทัล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เรื่องการเอื้อประโยชน์นายทุนในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยครม.ใช้เวลาชี้แจงยาวเหยียด 1 ชั่วโมงกว่าๆ ทำให้ฝ่ายค้านรุมประท้วงที่ปล่อยให้ ครม.ชี้แจงเป็นจำนวนมาก
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า เวลานี้ฝ่ายค้านเหลือผู้อภิปรายอีก 40 คน ต้องใช้เวลาอีก 40 ชั่วโมง ในช่วง 2 วันที่เหลือ ถ้าเป็นแบบนี้ หากฝ่ายค้านยังอภิปรายไม่จบ หวังว่ารัฐบาลคงไม่ชิงปิดอภิปราย ทั้งที่ฝ่ายค้านยังอภิปรายค้างอยู่ ดังนั้นจึงขอให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อขยายเวลาอภิปรายไปอีก 3 วัน
เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐมนตรีสามารถอ้างสิทธิการอภิปรายได้ แต่ถ้าอ้างมากไปการอภิปรายก็ไปไม่ได้ ต้องดูกาลเทศะด้วยว่าควรให้ใครพูดมากกว่า และควรพูดเวลาใด ถ้าฝ่ายค้านพูด 1 คน แต่รัฐมนตรีขึ้นมาชี้แจง 5 คน คงไม่ใช่ อีกทั้งรัฐมนตรีที่ลุกขึ้นมาชี้แจงไม่ชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างเดียว แต่พูดแสดงความเห็นเรื่องอื่นด้วย ถ้ายังทำกันอยู่แบบนี้ ฝ่ายค้านขอยกเลิกข้อตกลงเรื่องเวลาที่ทำกับฝ่ายรัฐบาลทั้งหมด สิทธิต้องมาคู่กับความเหมาะสม การอภิปรายครั้งนี้ ถ้าตนไม่เป็นผู้กล่าวปิดการอภิปรายก็ปิดไม่ได้ ตนไม่ขอเป็นสุภาพบุรุษกับคนที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ
ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมชี้แจงว่า ประธานที่ประชุมต้องยึดข้อบังคับการประชุม เพราะข้อบังคับการประชุมบอกว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมีสิทธิชี้แจงทันที เมื่อผู้อภิปรายแต่ละคนพูดจบ หรือจะรอรวบยอดไว้ชี้แจงทีเดียวเลย ดังนั้นประธานจะตัดสินใจเป็นอื่นไม่ได้
ซัดเอื้อ 24 ทุนประชารัฐ
เวลา 12.35 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำในประเทศ ตอนหนึ่งระบุว่า วิกฤติครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนทำโดยมีสารตั้งต้นมาจากนโยบายประชารัฐ ประชารัฐเป็นแนวคิดที่ดี แต่พอทำจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นการทำ เอกรัฐ คือเอกชนและรัฐเท่านั้น ไม่มีประชาชนเลย เปิดประตูให้เอกชนเข้ามานั่งบริหารประเทศและกำหนดไปถึงรายละเอียดผ่านคณะทำงานขับเคลื่อนร่วมภาครัฐกับเอกชน อาทิ กลุ่มนายแบงก์ กลุ่มปูนซีเมนต์ กลุ่มโรงแรมห้าดาว กลุ่มพลังงาน กลุ่มน้ำเมา กลุ่มโทรคมนาคม เป็นต้น
“ถือเป็นการเปิดให้เสือไปถึงห้องเนื้อสด ประชาชนไม่มีส่วนร่วมเลย เพราะติดขัดมาตรา 44 กลัวโดนปรับทัศนคติ บรรยากาศอย่างนั้นเหรอที่จะสามารถสร้างประชารัฐได้ จึงเหลือแต่เอกชนกับรัฐบาลจนกลายเป็นเอกรัฐ กลุ่มทุนประชารัฐ 24 ทุนได้งานและโครงการมากมายมหาศาล วันนี้ไม่มีทางกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบริโภคได้ เพราะประชาชนไม่มีเงิน โดยมาจากการที่เศรษฐกิจฐานรากถูกทำลายและทอดทิ้งเกษตรกร ถ้าทักษิณอยู่ก็จะไม่ทำแบบนี้" นายสุทินกล่าว
ส.ส.มหาสารคามผู้นี้กล่าวว่า ในสื่อต่างประเทศ มีการระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์เอื้อประโยชน์ให้เอกชน โดย 5 ตระกูลสนับสนุนบัลลังก์รัฐบาลประยุทธ์ ประกาศคำสั่งมาตรา 44 5 จีกลุ่มทรูรับไปเต็มๆ อีกทั้งรัฐบาลประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิต ขึ้นภาษีเหล้า เบียร์ ไวน์ 100 เปอร์เซ็นต์ จากขวดละ 31 บาทเป็น 60 บาท โดยอ้างว่าเป็นมาตรการให้ประชาชนลดละเลิก ที่ผ่านมาต้มเหล้าได้ แต่ตอนนี้ตีกระจุย ดังนั้นเอื้อ-ไม่เอื้อ ลองอ่านในสื่อต่างประเทศดู นี่คือประชารัฐ ที่ทำเพื่อเครือข่ายประชารัฐ แบบนี้เอาเสือไปอยู่กับเนื้อหรือไม่
"หลายคนบอกว่าจะปลดนายกฯ ประยุทธ์ได้ไหม ตนบอกว่าอย่าตั้งความหวัง จะทำให้ดีที่สุด ออกไม่ออกตนมองข้าม วันนี้สนใจว่าประเทศไทยจะอยู่หรือไป ปล่อยไปแบบนี้ลูกหลานจะอยู่อย่างไร ที่อุดรฯ เป็นกรณีศึกษาที่ดีที่สุด 4 ศพ ลูกคนโตจบสายวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน ในที่สุดพ่อจัดการ แม่ลูกสองคนตายเรียบ พลเมืองดีต้องตาย หลายกรณีเขากลุ้ม ต้องให้ตายอีกกี่ศพ ดังนั้นจึงขอไม่ไว้วางใจให้ท่านอยู่ วันนี้เห็นแล้วว่าท่านแก้เศรษฐกิจไม่ได้ เห็นแล้วว่าเอื้อคนรวย และไม่ช่วยคนจนจริงๆ หากให้อยู่ต่อจะเกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น และเกินเยียวยา ดึงอ้อยออกจากปากช้างไม่ได้ ลำบากทั้งประเทศ จึงขอให้ท่านเสียสละต่อบ้านเมือง ยุบสภา ลาออก" ส.ส.มหาสารคามผู้นี้กล่าว
ต่อมาเวลา 14.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของนายสุทิน ตอนหนึ่งระบุว่า เศรษฐกิจถดถอย สถานการณ์หนี้ครัวเรือน รัฐบาลมีมาตรการต่างๆ เข้าไปแก้ไข ถึงแม้หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง แต่ยังทรงตัว ถ้าเป็นข้อมูลย้อนหลังแต่ปี 51 หลายรัฐบาลมา กราฟต่ำเตี้ยมาตลอด และมาขึ้นตอนปลายๆ ก็ไม่รู้รัฐบาลไหนเหมือนกัน ตนไม่อยากไปกล่าวอ้างตรงนี้ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าวันนี้จะทรงตัว ซึ่งหนี้ครัวเรือนตอนนี้เป็นหนี้ที่สะสมสินทรัพย์ ทั้งนี้ เราให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาในส่วนของหนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล ส่วนนี้ก็ต้องมาพิจารณาว่าเราจะอยู่กันได้อย่างไร เศรษฐกิจพอเพียงอยู่ตรงไหน ใช้เงินมีเหตุมีผลพอประมาณ ที่บางครั้งบอกว่าเศรษฐกิจล้มก็ต้องไปดูว่าจะต้องลงทุนขนาดไหน บางครั้งก็ใช้การลงทุนมากเกินกำลังตัวเอง ทำให้เกิดปัญหาตามมา เมื่อเทียบหนี้ครัวเรือนของไทยกับต่างประเทศของไทยอยู่ที่ร้อยละ 79 แต่ของเกาหลีใต้ แคนาดา ยูโรโซน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลีย มีหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีมากกว่าร้อยละ 95 ที่ตัวเลขของเขาสูงเพราะมีการพัฒนาสูง รายได้ประเทศมาก มีกำลังในการชำระหนี้
บิ๊กตู่โต้ทุกอย่างเปิดเผย
"เรื่องการเอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง มีหลายท่านเอารูปผมที่ถ่ายคนนั้นคนนี้ 24 ตระกูล แต่ผมว่าหายไปตระกูลหนึ่ง ตระกูลนี้ไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ตระกูลที่รวยผิดปกติหายไปไหนหรือเปล่า แต่ถ้าถูกกฎหมายก็ยังอยู่ได้ ผมว่าหายไปตระกูลหนึ่ง พลาดไปหน่อย การที่มีรูปผมไปอยู่ตรงนั้น ถือว่าเป็นการประชุมโดยเปิดเผย มีการพบปะอย่างเปิดเผย แต่ถ้าใครไม่มีรูปแบบนี้แสดงว่ามีการพบปะแบบไม่เปิดเผย ก็ลองไปดูตรงนี้ ผมไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการใช้มาตรา 44 วันนี้เราเลิกใช้ไปนานแล้วเกือบปีและหลายอย่างได้ยกเลิกไป แต่หลายอย่างเป็นกฎหมายสำคัญ ตรงไหนที่ยังใช้ประโยชน์อยู่ก็ทำไป ส่วนการไล่ประชาชนออกนอกพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ไล่ออกทั้งหมด เว้นแต่พื้นที่ป่า อุทยานพื้นที่อุทยาน รวมทั้งเรื่องของเสรีภาพ
"ยืนยันว่าผมไม่เคยไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของใคร เว้นแต่บางช่วงเวลามีความจำเป็น อย่างเช่นช่วงแรกๆ ที่เข้ามา ก็มีความจำเป็น ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น ที่ไหน อย่างไร เรามีบทเรียนอยู่แล้ว จะให้มีเสรีภาพแบบไร้ขีดจำกัดมันไม่ได้ ต้องคำนึงถึงกฎหมาย เราจะดูเพียงรัฐธรรมนูญฉบับเดียวไม่ได้ จะต้องดูกฎหมายลูกกฎหมายประกอบอีกหลายพันฉบับ สิทธิเสรีภาพการชุมนุมเสรีภาพจะต้องไม่ไปกระทบกับผู้อื่น รวมทั้งปัญหาการจราจร การทุจริตทำให้เกิดความแตกแยก เรามีกฎหมายทุกฉบับขอความกรุณาให้ระมัดระวังด้วย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงกรณีที่ถูกตั้งคำถามว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับคนข้างล่าง เช่น ผู้ค้ารายย่อย และ SME ว่าไม่ทำแพลตฟอร์มของคนไทย แต่กลับไปร่วมมือกับอาลีบาบาและทุนต่างชาติ ตนยืนยันว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานราก ถ้ารัฐบาลนี้ไม่สนใจ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็คงไม่เกิด นโยบายประกันรายได้เกษตรกรและเบี้ยยังชีพผู้พิการก็คงไม่เพิ่มขึ้นจาก 800 เป็น 1,000 บาท อีกทั้งร้านโชห่วยต่างๆ ที่ต้องการรับการพัฒนา ก็มีโครงการสมาร์ทโชห่วย มาตรการพัฒนาสินค้า OTOP รัฐบาลยืนยันว่าให้ความสนใจและดูแลคนข้างล่าง
เวลา 15.00 น. หลังนายจุรินทร์ชี้แจงเสร็จ ระหว่างที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังอภิปรายชี้แจงอยู่นั้น ส.ส.เพื่อไทยได้ลุกขึ้นประท้วงอยู่เป็นระยะๆอาทิ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่องนายกฯ มอบหมายให้รัฐมนตรีหลายคนชี้แจงแทน อีกทั้งชี้แจงเยิ่นเย้อ ตอบไม่ตรงประเด็น ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมกล่าวว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ให้สิทธิแก่นายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงมีสิทธิอภิปรายชี้แจงได้
กระทั่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ลุกขึ้นขอหารือว่า อยากให้รัฐบาลตอบชี้แจงเป็นประเด็นๆ ไป ขณะนี้ฝ่ายค้านเหลือผู้อภิปรายอีก 28 คน ถ้าจะให้การอภิปรายเสร็จสิ้นในเวลา 19.00 น. วันที่ 27 ก.พ. คงไม่พอ เพราะรัฐบาลใช้เวลาตอบมากเกินไป หากนายกฯ มอบหมายให้รัฐมนตรีชี้แจง 10 คน จะเกิดอะไรขึ้น เพราะบางครั้งการตอบของรัฐบาลเลยเถิด ไม่ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน จึงอยากเสนอให้ประธานสภาฯ สั่งการให้วิปทั้งสองฝ่ายไปหารือ เพื่อกำหนดระยะเวลาอภิปรายของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจนว่าจะได้เวลากันเท่าใด
นายชวนกล่าวว่า หลังจากลงจากบัลลังก์จะเรียกตัวแทนผู้ควบคุมเวลาของวิป 2 ฝ่ายไปหารือเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เคยถามวิปสองฝ่ายให้กำหนดเวลากันให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่เอากัน ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าบางคนได้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง แต่พูดในประเด็นกว้างๆ ไปถึงทุกกระทรวง ทำให้นายกฯ มีสิทธิให้รัฐมนตรีที่ถูกพูดพาดพิงชี้แจงได้ ดังนั้นในการอภิปรายควรมุ่งประเด็นใดประเด็นหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่พูดเหมารวม
ต่อมาเวลา 16.20 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล แจ้งผลการหารือเรื่องการจัดสรรเวลาในการอภิปราย ตกลงกันได้ว่าจะเริ่มจับเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยแบ่งให้รัฐบาล 10 ชั่วโมง และฝ่ายค้านได้เวลา 21 ชั่วโมงไม่นับรวมฝ่ายค้านสรุป และถ้าฝ่ายใดประท้วงก็หักเวลาของฝ่ายนั้น
เวลา 17.05 น. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา อภิปรายเรื่องรัฐบาลจะเอาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มาเป็นโมเดลไม่ได้ เพราะควรไปดูโครงการเศรษฐกิจพิเศษชายแดนก่อน ไปถอดบทเรียนตรงนั้นก่อนจะเป็นประโยชน์มากกว่า
จากนั้นเวลา 18.30 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า แม้จะเป็นหมอ แต่เชื่อในอีกศาสตร์ คือไสยศาสตร์ ตั้งแต่มีรัฐบาลเกิดเรื่องไม่ดีมาตลอด กาลีบ้านกาลีเมือง ถ้าให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ จะเกิดความวิบัติแก่ราชอาณาจักรไทย ควรจะเปลี่ยนรัฐบาล มีรัฐบาลใหม่จะดีขึ้น ถ้าท่านไม่ไปด้วยมือในสภา ก็ได้ด้วยพลังของประชาชน
"พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนดี ชายชาติทหาร ปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์ แต่ราชอาณาจักรไทยกำลังล่มสลาย ท่านจะนิ่งดูดายได้อย่างไร เสด็จออกมาเถอะท่านพี่"
นพ.ชลน่านยังกล่าวเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ถอนตัว ไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาบ้านเมืองไปย่ำยี เป็นเหยื่ออันโอชะ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ ถ้าไม่สงสารประเทศ ประชาชน ต่อไปอนาคตอันใกล้ ท่านจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นพล.อ.ปรายุทธ์ จุนกล้า
อย่างไรก็ตาม การอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ทำเอาประธานในที่ประชุมคือนายศุภชัย โพธิ์สุ ถึงกับงงพร้อมบอกว่า "ผมไม่เข้าใจความหมายของคุณหมอครับ"
ทั้งการอภิปรายของ นพ.ชลน่านถูกประท้วงว่าใช้คำเสียดสีเป็นระยะๆ โดยเฉพาะ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงว่า นพ.ชลน่านมีอาการไบโพลาร์ เรียกเสียงฮาไปทั้งห้องประชุม
เวลา 19.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงการอภิปรายของ นพ.ชลน่าน ยืนยันการใช้ ม.44 ระงับเหมืองอัครา เพื่อประโยชน์สาธารณะและสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน โดยไม่ได้ออกคำสั่งยึดเหมืองมาเป็นของตนเอง เพียงให้ระงับปิดกิจการเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เคลียร์ปัญหาที่มีอยู่ทั้งหมด
"รัฐบาลที่ท่านว่าเก่ง ทำไมถึงไม่แก้ ซึ่งก็เป็นรัฐบาลของท่านด้วย ใน 6 รัฐบาลที่ประชาชนร้องเรียน 3 รัฐบาลก็เป็นของท่าน ที่ท่านบอกว่ามีผู้รับประโยชน์แทนจากความเสียหาย ผมก็ไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล สรุปภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วันที่ผ่านมาว่า ถือว่าบรรยากาศการประชุมไปได้ด้วยดีเยี่ยม พล.อ.ประยุทธ์สามารถชี้แจงรายละเอียดเรื่องที่ถูกกล่าวหาต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ขณะเดียวกันฝ่ายวิปรัฐบาลต้องขอขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เปิดโอกาสให้นายกฯ ได้ชี้แจงข้อสงสัย และทำให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากขึ้นที่มุ่งทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน แม้จะมีการประท้วงของส.ส.ฝ่ายค้านหรือ มีการพูดจาเสียดสี แสดงวุฒิภาวะ และมารยาทไม่เหมาะสมไปบ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในกรอบข้อบังคับประชุม ไม่เกิดความวุ่นวายเช่นในอดีต.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |