หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ใช่ว่าวิบากกรรมของพรรคนี้จะหมดลงเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งที่ธนาธรและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่กำลังจะโดนต่อจากนี้คือเรื่องของคดีอาญา ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังเตรียมคัดคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก่อนดำเนินการคดีอาญา
ในส่วนความผิดของธนาธร และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ รวม 16 ราย ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่ามีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 และมาตรา 72 โดยมาตรา 66 ระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปีมิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคล การบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคเดียวหรือหลายพรรคเกินปีละ 5 ล้านบาท ต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคแล้ว
โดยบทกำหนดโทษของมาตรานี้อยู่ในมาตรา 124 ระบุว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี ในกรณีที่ผู้กระทำผิดตามวรรคหนึ่งเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของบุคคล ซึ่งสั่งการหรือรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้นด้วย
ส่วนมาตรา 72 ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สำหรับบทกำหนดโทษของมาตรานี้อยู่ในมาตรา 126 ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 72 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
ความผิดทางอาญาของมาตรา 66 และมาตรา 72 กกต.มีอำนาจฟ้องในศาลอาญา โดยในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต้องรอดูว่าท้ายที่สุด กกต.จะมีบทสรุปเช่นไรในการฟ้องเรื่องคดีอาญา
แล้วถ้าโทษจำคุกของธนาธรในคดีอาญาจะอยู่ที่กี่ปี เบื้องต้นถ้ารับรวมเป็นโทษสูงสุด หากนับรวมความผิดทางอาญาใน 2 คดีดังกล่าวแล้ว โทษจำคุกสูงสุดของนายธนาธรอาจสูงถึง 18 ปี เพราะรวมความผิด 3 กรณี ได้แก่ มาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ระบุว่า กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ แต่ยังสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์รับเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี
ส่วนกรณีให้ประโยชน์อื่นใดเกิน 10 ล้านบาท ตามมาตรา 66 ประกอบมาตรา 124 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
และกรณีรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยมิชอบ ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 126 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 72 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่อีก 15 รายที่เหลือ อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี เพราะมีความผิดกรณีเดียวคือ กรณีรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยมิชอบ (ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 126 พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เรียกได้ว่าถ้าโดนคดีอาญาขึ้นมา ธนาธรและกรรมการบริหารพรรคอ่วมแน่นอน
ต่อมาอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่ออนาคตใหม่คือ การตั้งพรรคใหม่สำหรับ ส.ส.ที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะในขณะนี้มีการย้ายฝั่งย้ายพรรค เพื่อรักษาความเป็นสมาชิกพรรคของตัวเอง โดยธนาธรก่อนหน้านี้ก็ระบุว่า ให้ ส.ส.ไปอยู่พรรคใหม่ แต่อีกขณะหนึ่งอนาคตใหม่ก็กำลังจะเสีย ส.ส.ไปอยู่พรรคอื่น โดยเฉพาะฝั่งของขั้วรัฐบาลที่ในขณะนี้ มี ส.ส.จำนวน 9 ราย ที่จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ดังนี้ 1.นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภนมณี 2.ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย 3.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 4.นายเอกการ ซื่อทรงธรรม 5.นายอนาวิล รัตนสถาพร 6.นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ 7.นายฐิตินันท์ แสงนาค 8.นายวิรัช พันธุมะผล และ 9.นายสำลี รักสุทธี
ทั้งนี้ คาดว่ายังมี ส.ส.อนาคตใหม่อีกหลายรายที่พร้อมจะชิ่งพรรค ต้องรอลุ้นกันว่าสุดท้ายจะเหลือ ส.ส.ที่ซบพรรคใหม่ของอนาคตใหม่กี่ราย แล้วใครจะเป็นผู้นำที่สามารถสร้างอิมแพ็คในพรรคใหม่ แทนที่ธนาธร และกรรมการบริหารพรรค ที่เตรียมจะถูกดำเนินคดีอาญา ต้องดูกันต่อไป.
วอชเชอร์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |