25 ก.พ. 2563 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวันหลังนักลงทุนกังวลสถานการณ์ไวรัสโคโรนาระบาดไปทั่วโลก จากการพบผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีน ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดหุ้นไทยอยู่ที่1,435.56 จุด ลดลง 59.53 จุด หรือ 3.98% เป็นจุดต่ำสุดของวัน ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 76,431.30 ล้านบาท ระหว่างวันจุดสูงสุดอยู่ที่1,474.12 จุด ส่วนราคาทองคำในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้นลดลง 12 ครั้งรวมเพิ่มขึ้น 700 บาท โดยราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ25,150.00 บาท ขายออกบาทละ 25,250.00 บาท และทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 24,695.64 บาท ขายออกบาทละ 25,750.00 บาท
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ปรับลดลงเฉลี่ยประมาณ 2% หลังจากรับรู้ข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่ามีตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่นอกประเทศจีนเพิ่มขึ้นรุนแรงคิดเป็น40% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด โดยไม่สามารถประเมินได้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับลดลงมากเพียงใด ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ต่อ หากมีผู้ติดเชื้อลดลง คาดว่าจะช่วยหนุนให้ภาวะตลาดปรับตัวดีขึ้น จากสภาพคล่องตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม มองว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ถึงกับต้องใช้มาตรการหยุดการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว (Circuit Breaker) เพราะก่อนหน้านี้ได้รับข่าวลบมาตั้งแต่ต้นปีหลายประเด็น ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องที่สูงมาก รวมถึงฐานนักลงทุนที่หลากหลาย อีกทั้งทั่วโลกได้รับผลกระทบจากประเด็นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ถึงแม้จะมีข่าวลบ แต่การออกเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ยังมีอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นทั่วโลก
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการกระจายพอร์ตการลงทุน รวมถึงหลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา และเลือกหุ้นที่มีปันผลดี อีกทั้งควรพิจารณาการรับข่าวสารข้อมูลให้ดี อย่ารับข่าวปลอม นอกจากนี้ ตลท.ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับไวรัสโคโรนา จากการวางแผนสำรองรองรับในสภาวะฉุกเฉิน (Business Continuity Planning หรือ BCP) เพื่อให้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวน้อยที่สุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลดลงแรงในวันนี้ มาจากความกังวลสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ที่พบการติดเชื้อนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น และระยะเวลาเริ่มยืดเยื้อจากที่คาดการณ์เดิมว่าจะจบได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว ขณะที่สถานการณ์ในไทยถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะนิ่ง แต่มีความกังวลว่าจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หลังจากที่มีการประกาศยกระดับการควบคุมที่รุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ สถานการณ์ที่ยืดเยื้อมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะชะลอตัวในหลายมิติ จากเดิมที่คาดว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการบริโภคในประเทศที่ลดลง ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจคือ หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาน้อย มีกระแสเงินสดที่มั่นคงกองรีท และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่ต้องระวังความเสี่ยงในกองรีทที่มีรายได้จากการให้เช่าสำนักงาน หรือศูนย์การค้า เพราะเสี่ยงต่อการปรับลดค่าเช่าที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |