ไปอ่านเจอข่าวสั้นๆ ชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า "มิลาน" ประเทศอิตาลี ถูกยกให้เป็นเมืองที่กินดีอยู่ดีที่สุดในปี 2019
ทั้งนี้เป็นการประกาศจากเวที Wellbeing City Award จัดขึ้นโดย NewCities องค์กรไม่แสวงผลกำไรในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ที่มุ่งศึกษาและพัฒนาวิถีความเป็นอยู่ของคนเมืองทั่วโลก
คุณสมบัติที่มิลานได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ มีการอรรถาธิบายว่า เกิดจากความก้าวหน้าของโครงการระดมทุนเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยการมีส่วนร่วมของสมาชิกในสังคม (Civic Crowdfunding Project) อาทิ โครงการที่นำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมือง เช่น ใช้เทคโนโลยีช่วยออกแบบระบบจัดสรรเวลาในครอบครัวเพื่อสร้างภาวะ Work-family Life Balance
จึงเป็นเรื่องน่าจับตามองว่าเทรนด์การพัฒนาสังคมเมืองผ่านโครงการ Civic Crowdfunding Project นี้ กำลังเป็นที่สนใจในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งอิตาลีในหลายๆ เมืองก็มีโปรเจ็กต์ระดมทุนนับร้อย อาทิ การสร้างทางจักรยานกว่า 900 กิโลเมตร โปรเจ็กต์พลิกฟื้นพิพิธภัณฑ์เก่าสู่พิพิธภัณฑ์รูปแบบ Interactive สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าบางครั้งการพัฒนาเมืองสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องรอภาครัฐ ภาคเอกชน หรือใครคนใดคนหนึ่ง แต่เมืองที่น่าอยู่เกิดขึ้นได้เพราะเมืองเป็นของคนทุกคน
อ่านแล้วก็รู้สึกขัดแย้งในใจนะ..บอกตรงๆ เพราะทุกครั้งที่จะไปเยือนอิตาลี มักจะมีคำเตือนจากทัวร์ลีดเดอร์ หรือบรรดาไกด์ทั้งหลายว่า ให้ระวังกระเป๋าสตางค์ เพราะมิจฉาชีพที่อิตาลีนั้น ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญชำนาญระดับมืออาชีพยังต้องเรียก..อาจารย์กันเลย
มิลานควรจะได้รางวัลนี้หรือไม่นั้น ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเชื่อว่าตัวชี้วัดต้องมีหลายๆ อย่าง เขาไม่ให้กันมั่วๆ แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ที่ขอร่วมเสวนาคือ ความกินดีอยู่ดี หมายถึงความสุขทั้งหมดหรือเปล่า??? อันนี้ต้องบอกว่า.. คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ..น่าจะถูกต้องที่สุด เพราะทุกวันนี้เราก็ได้ยินเรื่องราวข่าวสารว่าเศรษฐีป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากันมากมาย
นั่นเพราะความสุขของมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกันไปนั่นเอง
คนเดินดินกินข้าวแกง หรือคนอดมื้อกินมื้อ เขาก็อาจจะไม่ทุกข์เท่ากับนักธุรกิจที่ต้องกินดีอยู่ดี แต่ต้องนั่งเครียดกับตัวเลขบนกระดานในตลาดหุ้น ซึ่งแค่นาทีเดียวก็มีความหมาย..ก็ได้นะ
ดังนั้น เขาถึงว่ากันว่า ทุกข์สุขนั้นอยู่ที่ใจ
ขอให้รู้จักเลือกบริโภคความทุกข์และความสุขแบบมีสติ อะไรๆ มันก็คลี่คลายได้..จริงๆ นะจ๊ะ ฉะนั้นพรรคการเมืองที่ชอบถูกยุบ ก็อย่าไปตีโพยตีพายให้เสียเวลา รับรองว่าสักพักจะมีพรรคใหม่มาให้เลือกลืมพรรคเก่าไปเลย นี่แหละวัฏจักรของชีวิต.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |