"ดร.สุเมธ" ปาฐกถา "ความดี "กับ "ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม"


เพิ่มเพื่อน    


สืบเนื่องจาก  มูลนิธิคนดี (ประเทศไทย) ร่วมกับ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย  และสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย จัดงานมอบรางวัล “คนดีประเทศไทย ปีที่ 11 ประจำปี 2562” เพื่อเชิดชูบุคคลที่ลงมือทำความดี ด้วยความทุ่มเท เสียสละเพื่อสังคม ส่วนสาขาใส่ใจส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เป็นสื่อสารมวลชน และศิลปินดารา โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานมอบรางวัล

ในโอกาสนี้ ดร.สุเมธ ได้กล่าวปาฐกถาเปิดงานว่า รู้สึกเป็นเกียรติ ที่มาเป็นประธานเปิดงานมอบรางวัลคนดีในแบบที่สังคมต้องการ พอพูดถึงคนดีเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการทุกคน แต่พอพูดถึงการทำความดี หลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อหน่าย ซึ่งในหลวงร.9 ทรงรับสั่งว่า การทำความดีเป็นเรื่อง น่าเบื่อ เหน็ดเหนื่อย แต่เราต้องทำความดี ถ้าไม่ทำความดีความเลว จะมาแทนที่ แล้วพอกพูนขึ้นทุกวันๆ ในที่สุดความดีก็จะไม่เหลืออยู่ 


 การทำความดี จะทำให้เศรษฐกิจ สังคม การเมือง อยู่ในสภาพที่สงบ สันติ มั่นคง ความดี จึงเป็นนามธรรม ไม่รู้หน้าตาเป็นอย่างไร แต่รู้สึกได้ ถ้ามีความดีเกิดขึ้น จะรู้สึกถึงความสงบสุข มั่นคง  ตนได้รับเชิญไปพูดตลอด เรื่องเศรษฐกิจ สังคมการเมือง ซึ่งจะบอกตลอดว่า  ทุกอย่างต้องมีคุณธรรม ความดี รองรับ  เหมือนอาคารถ้าไม่มีฐานรากมารองรับ ก็จะโค่นลงมา ไม่สามารถอยู่ได้ 


เมื่อครั้งเศรษฐกิจประเทศไทยล่มเมื่อปี 40 เกิดฟองสบู่ ต้มยำกุ้ง  หลังจากนั้น ก็มีการพูดคำว่า good governance   หรือธรรมาภิบาล  หรือ Accountability ความน่าเชื่อถือ กันมาก ตนรู้สึกสังเวช รู้สึกโกรธ ทำไมคนไทยต้องให้ฝรั่งมาบอก ว่าต้องทำความดีอย่างโน้น อย่างนี้ ทั้งที่เราอยู่กันมา 900ปี ถ้าคนไทยไม่มีธรรมะ เราคงไม่อยู่กันมาได้ 900 ปี การที่ฝรั่งมาบอกว่าเราต้องมีความน่าเชื่อถือ มีธรรมาภิบาล เหมือนเราลืมรากเหง้าแห่งความดีไป  ที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะสภาพแวดล้อม ไม่เอื้อให้เราปฎิบัติความดี ดังที่พระพุทธเจ้า สอนให้เราเอาชนะกิเลศในตัว ไม่ใช่การตัดกิเลส ถ้าควบคุมกิเลสตัณหาไม่ได้ เราก็จะเป็นทาสมัน เกิดความอลเวง ดังที่เกิดขึ้นทั่วโลก มีการไล่ฆ่าทำลาย


ตนโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวเก่าแก่โบราณ ที่จ.เพชรบุรี ถูกสอนให้ตักบาตรทุกเช้าตอน7ขวบ ต้องถูกปลุกขึ้นมาให้ตักบาตร สมัยนั้นก็ไม่อยากลุก ไม่รู้เหตุผลว่าต้องทำทำไม ง่วงเหงาหาวนอน พอมาทำงานถวายในหลวงร.9 เป็นเวลา 35ปี ได้เห็นแบบอย่างของจริง ที่ทำความดี อย่างไม่มีอะไรเจือปน 

"วันแรกที่ถวายการรับใช้ ผมก็ได้รับบทเรียน ทรงเรียกไปเข้าเฝ้า รับสั่งประโยคแรกว่า ขอบใจนะมาช่วยฉันทำงาน แต่ฉันไม่มีอะไรจะให้หรอนะ นอกจากความสุขที่มีร่วมกัน ในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น"
ดร.สุเมธ เล่าอีกว่า ตลอดการรับใช้เดินตามในหลวงร.9  ทำให้เห็นว่า ท่านได้ครองแผ่นดิน ไม่ใช่ปกครองแผ่นดิน เหมือนครองชีวิตครอบครัว มอบความรัก ความเมตตา ความรับผิดชอบ เหมือนผู้ครองสมณเพศ ทรงศีล 227 ข้อ 

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า ถึงเราทำความดีแค่ไหน แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่ดี เราก็อยู่ไม่ได้ การครองแผ่นดิน ก็เหมือนการทำให้ ดิน น้ำ ลม ไฟ  ซึ่งคือชีวิตของมนุษย์เรา   อยู่ได้  เพราะทุกลมหายใจที่เราสูดออกเข้าไป การคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา น้ำที่ดื่ม ข้าวทุกจาน ถ้ามองลึกลงไป  ทั้งข้าว อาหาร เนื้อ ผัก  จะสำนึกได้ว่า ถ้าไม่มี ดิน น้ำ ลม ไฟ จะมีข้าว มีเนื้อ มีผัก ในจาน หรือไม่ แต่จริงๆแล้ว คนยุคใหม่ มักจะไม่แยแส ว่าข้าว ปลา อาหารจะมาจากไหน ทั้งๆที่ปาก ก็พูดแต่คำว่า "ยั่งยืน" และมีแต่คำว่า"การพัฒนา"ตลออด 


มนุษย์ทุกวันนี้ มีแต่การเป็นนักล่า ทำลายตลอด  ถ้าตัวเองไม่กิน ก็ควรเก็บไว้ให้คนรุ่นลูกหลาน ไม่ใช่ปากก็พูดแต่คำว่ายั่งยืน  แต่กลับบริโภค ดิน น้ำ ไฟ ไม่บันยะบันยัง  ทั้งๆที่มีคนรอใช้ทรัพยากรนี้ต่อ ก็คือ คนรุ่น ลูกหลานของเรา  ซึ่งในหลวงร.9 รับสั่งเรื่องความพอเพียง การบันยะบันยัง แต่มีการนำไปปฎิบัติหรือไม่  


ปัญหาสิ่งแวดล้อมทุกวันนี้  ต้องการพลังชักจูง ต้องการแรงบันดาลใจ  อนาคต ถ้าเราไม่บันยะบันยังใช้ทรัพยากร  ก็คงมีแต่ความตาย ซึ่งมิใช่ที่ประเทศไทยเท่านั้น ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ 


แต่ไทยอาจจะโชคดี ที่เป็น1 ใน 10 ประเทศ ที่มีทรัพยากรอาหารเหลือกิน เหลือใช้ แต่เราก็ต้องคุมกิเลส อย่าให้ความอยากเป็นนาย เพื่อทรัพยากรเหล่านี้จะได้เหลือมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
สื่อมวลชนด้านสิ่งแวดล้อม ถือว่าเป็นผู้ทำความดี เหมือนปิดทองหลังพระ เพราะข่าวสิ่งแวดล้อม มักไม่ได้อยู่ในหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ แต่ไปอยู่หน้าหลังๆ แต่ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องช่วยกันรักษาจรรโลงแผ่นดินนี้ และส่งต่อความยั่งยืนนี้ต่อไป.
 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"