เกาหลีใต้ยกระดับเตือนภัยไวรัสโควิด-19 ถึงขั้นสูงสุด หลังจากยอดดับเพิ่ม-ติดเชื้อพุ่งเกิน 600 ราย ขณะที่ฝั่งยุโรปอิตาลีน่าวิตก ผู้ป่วยติดเชื้อเกิน 100 รายแล้ว ส่วนอิหร่านสถานการณ์ยังน่าห่วง ด้านไทย สธ.เตรียมประกาศเพิ่มการเฝ้าระวัง คัดกรองเพิ่มผู้ที่กลับจากประเทศแพร่ระบาด
การแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจีนแผ่นดินใหญ่น่าวิตกกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะที่เกาหลีใต้, อิหร่าน และอิตาลี ส่วนภายในจีนนั้น คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ว่า มีผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มอีก 97 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มเป็น 2,442 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่พบเพิ่ม 648 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 76,936 ราย เมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็น "ภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุด" ของจีนนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 2492
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ยกระดับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดขึ้นสู่ระดับ "สูงสุด" หรือระดับสีแดงแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ เอช1เอ็น1
รายงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 169 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ยอดรวมผู้เสียชีวิตในเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 5 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อนั้นรวมเป็น 602 ราย เป็นจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดภายนอกจีนแผ่นดินใหญ่ หากไม่นับผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 623 รายบนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซสที่กักกันอยู่นอกชายฝั่งของญี่ปุ่น
ผู้ติดเชื้อมากกว่า 300 รายเกี่ยวโยงกับนิกายคริสตจักรพระเยซูชินชอนจิในเมืองแทกู โดยตรวจพบสมาชิกหญิงวัย 61 ปีที่ถูกเรียกว่า "คนไข้หมายเลข 31" ติดเชื้อไวรัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก่อนหน้าจะตรวจพบเชื้อ นางเข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่โบสถ์นี้อย่างน้อย 4 ครั้ง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของเกาหลีใต้กล่าวว่า สมาชิกของนิกายนี้ราว 9,300 คน มีทั้งที่ถูกกักกันโรค หรือไม่ก็ให้อยู่แต่ในบ้าน โดยพบว่ามีมากกว่า 1,240 คนที่แสดงอาการ
นอกจากผู้ติดเชื้อที่โบสถ์ในเมืองแทกูแห่งนี้แล้วยังพบผู้ติดเชื้อที่เมืองชองโด สองเมืองนี้ถูกประกาศเป็น "เขตดูแลพิเศษ" เมื่อวันศุกร์ ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งเป็นลูกจ้างในโรงงานของบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ที่เมืองกูมิ ทำให้ซัมซุงต้องระงับการดำเนินงานของโรงงานแห่งนั้นถึงวันจันทร์ เจ้าหน้าที่พบด้วยว่า ผู้ติดเชื้อ 8 คนเพิ่งเดินทางกลับจากอิสราเอล โดยกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ทางการอิสราเอลไม่อนุญาตให้ชาวเกาหลีใต้บนเที่ยวบินไปอิสราเอลเมื่อวันเสาร์เข้าประเทศ
ส่วนที่อิสราเอล กระทรวงศึกษาธิการประกาศกักกันโรคนักเรียนชาวอิสราเอล 200 คน ภายหลังพบว่านักเรียนเหล่านี้พบเจอกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้หลายรายที่ติดไวรัส
เมื่อวันอาทิตย์ กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นแถลงว่า มีผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นของเรือไดมอนด์ปรินเซสเสียชีวิตเป็นรายที่ 3 เป็นชายชราอายุ 80 ปีเศษ เขาป่วยเป็นโรคอื่นอยู่ด้วย แต่เสียชีวิตเพราะอาการปอดอักเสบ วันก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่นต้องแถลงขอโทษต่อประชาชนเมื่อพบว่าผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งของเรือลำนี้ ซึ่งแต่เดิมตรวจไม่พบว่าติดเชื้อ กลับปรากฏว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ในภายหลัง
การพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมทั้งที่ตรวจไม่เจอในทีแรกยิ่งตอกย้ำเสียงวิจารณ์รัฐบาลญี่ปุ่นถึงวิธีการจัดการการแพร่เชื้อบนเรือลำนี้ โดยยังพบด้วยว่าผู้โดยสารหลายคนได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือแล้วทั้งที่ยังไม่ได้รับการตรวจอย่างถูกต้อง หรือแม้แต่เป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ถึงขณะนี้ยังมีลูกเรือมากกว่า 1,000 คนถูกกักไว้บนเรือที่เทียบท่าเมืองโยโกฮามา โดยคาดว่าต้องกักกันโรค 14 วัน
ด้านรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ยกระดับคำแนะนำด้านการเดินทางมายังเกาหลีใต้เพิ่ม 1 ระดับ และของญี่ปุ่นเพิ่มเป็นระดับที่ 2 จาก 4 ระดับ
ในยุโรป ที่อิตาลี อัตติลีโอ ฟอนตานา ประธานาธิบดีของแคว้นลอมบาร์ดี แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มเป็นมากกว่า 100 คนแล้ว โดย 89 คนอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี ซึ่งศูนย์กลางการแพร่เชื้อโยงไปถึงชายวัย 38 ปีคนหนึ่งในเมืองโคโดญโญ ที่สื่ออิตาลีระบุว่าเคยรับประทานอาหารกับเพื่อนที่เพิ่งเดินทางกลับจากจีน
อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่มีผู้เสียชีวิต 1 รายเมื่อวันศุกร์ และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายเมื่อวันเสาร์ ทั้งคู่เป็นผู้สูงอายุ นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพิจารณา "มาตรการพิเศษ" เพื่อหยุดยั้งการแพร่เชื้อ ก่อนหน้านี้ทางการอิตาลีขอร้องประชาชนมากกว่า 50,000 คนในเมือง 11 เมืองทางภาคเหนือใกล้กับเมืองมิลาน งดออกนอกบ้าน ส่วนธุรกิจร้านค้าและโรงเรียนปิดทำการ
นอกจากอิตาลีที่ใช้มาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชนคล้ายกับที่จีนบังคับใช้แล้ว อิหร่านเป็นอีกประเทศที่รัฐบาลมีคำสั่งให้ปิดโรงเรียน, มหาวิทยาลัย รวมถึงศูนย์วัฒนธรรมใน 14 จังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป ภายหลังยังคงมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเพิ่มไม่หยุด
วันอาทิตย์ อิหร่านรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ยอดรวมเป็น 8 ราย เป็นจำนวนมากที่สุดนอกเหนือจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ส่วนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วอยู่ที่ 43 รายนับแต่มีรายงานผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตครั้งแรกที่เมืองกุมเมื่อวันพุธ
สถานการณ์ในอิหร่านทำให้ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต, อิรัก ประกาศจำกัดการเดินทางและการเข้าเมือง รัฐบาลโอมานมีคำเตือนพลเมืองเมื่อวันอาทิตย์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อสูง และจะกักกันโรคผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านั้นด้วย ส่วนจอร์แดนห้ามพลเมืองจีน, อิหร่าน และเกาหลีใต้เข้าประเทศ
องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ได้แสดงความเป็นห่วงการแพร่ระบาดในแอฟริกา และเรียกร้องให้สหภาพแอฟริกาเพิ่มความร่วมมือมากขึ้น ถึงแม้ขณะนี้จะมีอียิปต์ประเทศเดียวที่พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า หลายประเทศในทวีปแอฟริกายังขาดแคลนเครื่องมือที่จำเป็นในการรักษา เช่นเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวล
ขณะที่สถานการณ์ไวรัสในประเทศไทย ล่าสุด นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19(COVID-19) ว่าผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในโรงพยาบาล 14 ราย กลับบ้านแล้ว 21 ราย (คนจีน 17 คน และคนไทย 4 คน) รวมสะสม 35 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมถึง 22 กุมภาพันธ์ มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังโรคสะสมทั้งหมด 1,355 ราย แบ่งเป็นคัดกรองจากสนามบิน 68 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,287 ราย รวมคัดกรองไปแล้ว 3,046,342 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,071 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 284 ราย โดยตลอดมาตรการคัดกรองตรวจไปแล้วถึง 3 ล้านคน
นพ.สุขุมระบุด้วยว่า จนถึงขณะนี้ องค์การอนามัยโลกยังไม่มีมาตรการจำเพาะ และสั่งห้ามไม่ให้เดินทางไปยังประเทศที่พบการแพร่ระบาด ไทยจึงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน และเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้อย่างเข้มข้น ครอบคลุมในทุกด่าน รวมทั้งโรงพยาบาลและชุมชน แต่ความสำเร็จของการควบคุมโรค ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนด้วย
นพ.สุขุมกล่าวด้วยว่า โดยระยะนี้ ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่พบการแพร่ระบาดใน 14 ประเทศ อย่าง จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ให้เฝ้าระวังตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หลีกเลี่ยงการใช้บริการขนส่งสาธารณะ พื้นที่แออัด หรือสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย และรีบพบแพทย์หากไม่หายจากอาการเจ็บป่วย
"นอกจาก 14 ประเทศก่อนหน้านี้ ล่าสุดได้มีการติดตามสถานการณ์เพิ่มเติมอีก 2 ประเทศ คืออิตาลีและอิหร่าน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น และมีการติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนจะประกาศเพิ่มการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากสองประเทศนี้ได้เมื่อไหร่ จะต้องรอผลการประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรคในวันที่ 24 ก.พ.อีกครั้ง" นพ.สุขุมระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |