เริ่มแล้ว...ปฏิบัติการเอาคืนหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ "ช่อ-พรรณิการ์ วานิช" เปิดประเด็นซักฟอกนอกสภา พุ่งเป้าไปที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เต็มๆ ว่าด้วยเรื่องอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกระทำการปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาชญากรรมการเงินที่ใหญ่สุดในโลก และถือเป็นการปล้นภาษีของชาวมาเลเซียครั้งใหญ่ที่สุด นั่นคือคดีอื้อฉาว 1MDB ประเด็นของ "ช่อ" อาจจะดูไกลไปสักหน่อย แต่เจ้าตัวพยายามลากให้ถึงตัว "บิ๊กตู่" และตั้งความหวังเล็กๆ นี่อาจเป็นประเด็นอินเตอร์ ที่สามารถโค่นรัฐบาลได้ ...๐

      4 หลักฐานที่ "ช่อ" นำมาเผยแพร่คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์อาจปกปิดข้อเท็จจริงกรณีอาชญากรรมการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการรับรู้ของประชาชนคนมาเลเซีย คนไทยและประชาคมโลก 2.อาจบิดผันกระบวนการยุติธรรม เอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกและปล่อยให้อาชญากรรมข้ามชาติลอยนวล 3.อาจให้ที่พักพิง หลบซ่อนตัวแก่ผู้ต้องหาที่มีหมายจับแดงจากอินเตอร์โพล หรือตำรวจสากลที่เป็นที่ต้องการตัวในหลายประเทศ และ 4.อาจเป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีกับชาติพันธมิตรของไทย ...๐

      แต่เมื่อตรวจเท่าที่เคยผ่านตาทั้ง 4 คือข่าวเก่า ที่เคยนำเสนอผ่านสื่อในเครือข่ายระบอบทักษิณไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ฉะนั้น ข้อกล่าวหาที่มีแค่คำว่า "อาจ" นั่น "ช่อ" ต้องระวัง เพราะวันนี้ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองเหมือนเมื่อครั้งยังเป็น ส.ส. แต่น่าเสียดายนิดเดียว "ช่อ" ไม่เคยเห็นความผิดที่ศาลพิพากษา หรือวินิจฉัยไปแล้วบ้างเลย ติดคุกกันระนาวเพราะโกง บ้างก็หนีไปต่างประเทศ ก็เห็นการยกหางชื่นชมกันอยู่ ...๐

      ส่วน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แม่ทัพซักฟอกในสภา พูดชวนให้คิด "จากโพลของสวนดุสิต สะท้อนว่าตอนนี้คนไทยมาถึงจุดที่ต้องพึ่งตัวเอง เพราะไม่สามารถพึ่งหวังรัฐบาลได้ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ถือเป็นสัญญาณอันตรายของรัฐบาล และยิ่งมีการยุบพรรคการเมืองด้วยเหตุผลที่ค้านกับความรู้สึกของคนทั่วไป ก็ยิ่งจะทำให้คนส่วนใหญ่คงจะไม่ทนกับรัฐบาลนี้อีกต่อไป เมื่อมาประกอบกับการอภิปรายที่เปรียบเสมือนการกระชากหน้ากากของวิญญูชนจอมปลอมให้สังคมได้เห็น ก็เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นานอย่างแน่นอน" ที่ต้องคิดตามคือ "กระชากหน้ากากของวิญญูชนจอมปลอม" พูดแบบนี้เหมือนพุ่งเป้าไปที่ "วิษณุ เครืองาม" มองไปก็เป็นเรื่องขำไม่ออก เพราะระบอบทักษิณเคยใช้บริการ "วิษณุ เครืองาม" มาก่อน ประชาธิปัตย์ที่ว่าปากกล้ายังเอาไม่ลง ถ้าเพื่อไทยล้ม "วิษณุ เครืองาม" ลงได้ สงสัยต้องถอดผ้าวิ่งแก้บนแล้วกระมัง ....๐

      สถานการณ์ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 (COVID-19) ในไทยดีขึ้นเรื่อยๆ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวเลขผู้ป่วยยืนยันสะสมคงที่ 35 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 54 ปี ที่สถาบันบำราศนราดูร ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้าน 21 ราย คิดเป็น 60% ของผู้ป่วยในไทย เหลือนอนใน รพ. 14 ราย ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 2 ราย อาการคงที่ ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 1,355 ราย อนุญาตให้กลับบ้าน 1,071 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ รักษาใน รพ. 284 ราย ยังคงเข้มมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองต่อไป โดยทุกด่านตรวจคัดกรองแล้วกว่า 3 ล้านคน ต้องปรบมือให้ทีมแพทย์ รวมไปถึง "มดงานนิรนาม" ทุกคน พวกท่านคือฮีโร่ของประเทศไทย ...๐

      ส่วนเกาหลีใต้สาหัส! ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ประกาศยกระดับการเตือนภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สู่ระดับสูงสุด หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดรวมผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ขณะนี้พุ่งแตะ 556 รายแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย ที่น่าตกใจคือ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในวันเดียวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พบว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองแทกู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของเกาหลี รวมทั้งผู้ติดเชื้อที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง ...๐