ผู้ช่วย ผบ.ตร.ส่งตำรวจ ปคม.กวาดล้างแก๊งกัมพูชาร่วมกับคนไทย หลอกเด็กต่างด้าวมาขายพวงมาลัย แว่นตาให้นักท่องเที่ยวย่านหาดป่าตอง พบบางรายอายุต่ำกว่า 15 ปี บังคับให้ทำงานไม่มีวันหยุดตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน ใครทำรายได้ไม่ตามเป้าถูกตีด้วยไม้แขวนเสื้อ รวบตัวการได้ 2 คน     
    ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต วันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และหน่วยงานตำรวจชุดจับกุมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแถลงข่าว 
    สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีและครอบครัว (ศพดส.ตร.) สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนกรณีมีการนำเด็กมาบังคับใช้แรงงานในพื้นที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จากการลงพื้นที่สืบสวนพบว่ามีการนำเด็กสัญชาติกัมพูชาและเวียดนามมาเดินเร่ขายแว่นตา หรือพวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง โดยมีกลุ่มต่างชาติเช่าเด็กจากบิดามารดาผู้ปกครอง อ้างว่าจะให้เด็กไปทำงานสบาย ได้เงินเดือนละ 5,000 บาท จากนั้นพาเด็กเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดภูเก็ต พักอาศัยอยู่บ้านเช่า และจะบังคับให้เด็กขายสินค้าดังกล่าวให้กับนักท่องเที่ยว
    จากการตรวจสอบพบว่า เด็กต่างชาติบางรายมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ซึ่งบางรายทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืนโดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด มีเพียงอาหารและที่พักอาศัย หากเด็กขายสินค้าได้ไม่ถึงกำหนด คือวันละ 3,000 บาท ก็จะถูกตีด้วยไม้แขวนเสื้อบ้าง ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบ้าง และถูกบังคับให้ขายสินค้าจนถึงจำนวนที่กำหนด เด็กบางรายถูกนำไปให้กลุ่มอื่นเช่าช่วงวนเวียนไป เด็กบางรายถูกทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหวหลบหนีออกจากบ้านพักเดินทางกลับประเทศเกิดบ้าง หลบหนีไปทำงานที่จังหวัดอื่นบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) จึงสืบสวนสอบสวน สอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพจนได้พยานหลักฐานแน่ชัด จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายค้นใน 4 จุด
    ปฏิบัติการครั้งนี้ จับกุมนายงอ ซุน หรืององ ซัน หรือ NGO SUN อายุ 33 ปี ชาวกัมพูชา, น.ส.สุพัตรา เจริญสุข อายุ 22 ปี ในความผิด “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันไว้ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, ร่วมกันค้ามนุษย์โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด” ช่วยเด็กได้ 3 คน
    นอกจากนี้ จากการตรวจค้นในจุดอื่นๆ ช่วยเด็กได้อีก 14 คน พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยจำนวนหนึ่ง จึงนำตัวไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นบุตรของผู้ใด และคัดแยกว่าผู้ใดเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตามหมายจับ ได้ดำเนินการซักถามขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ นอกจากนี้ยังพบบุคคลต่างด้าวที่น่าจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง
    พล.ต.ท.จารุวัฒน์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเด็กถูกทำร้ายร่างกายหลบหนีไปที่ กทม.ไปพบตำรวจ ปคม.จึงลงมาสืบสวนขยายผลจับกุม ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาเป็นคนกัมพูชาร่วมกับคนไทยนำเด็กเข้ามาเร่ขายแว่นตา ดอกไม้ พวงมาลัย โดยขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากการตรวจสอบพบว่าขบวนการนี้มีทั้งหมด 4 แก๊งที่อยู่ในป่าตอง.