ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่เป็นเรื่องการบริหารงานภายใน "ตำรวจ" ที่ดูจะมีคำถาม ดูจะมีข้อสงสัยจากสังคม เหตุใดถึงปล่อยให้เกิดเรื่องถึงขั้น

                โรงพักเกือบร้าง!!!

                ถึงขนาด พล.ต.ต.ธีรพล อินทรลิบ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ต้องมีบันทึกข้อความด่วนที่สุด ไปถึง  ผกก.สภ.แม่ฮ่องสอน, ผกก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน และ ผกก.สภ.น้ำเพียงดิน

                "ขอรับการสนับสนุนกำลังพล"!!!

                หนังสือดังกล่าว ผู้การแม่ฮ่องสอน ระบุ...ด้วยได้รับหนังสือ สภ.ห้วยโป่ง ที่ ตช 0020(มา.)8(19)/62 ลง 11 ก.พ.2563 เรื่องรายงานและขอรับการสนับสนุนกำลังพล เนื่องจาก ภ.5 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รอง สว.-ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2562 ทำให้กำลังพลของ สภ.ห้วยโป่ง เหลือปฏิบัติหน้าที่เพียง 3 นาย เกรงว่าจะเสียหายแก่ทางราชการ

                "จากปัญหาข้อขัดข้องด้านกำลังพลดังกล่าว จึงให้ท่านพิจารณากำลังข้าราชการตำรวจในสังกัดเพื่อไปปฏิบัติราชการ ที่ สภ.ห้วยโป่ง ดังนี้ 1.สภ.แม่ฮ่องสอน (เพิ่มอีก) 1 นาย 2.กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน 1  นาย และ 3.สภ.น้ำเพียงดิน 2 นาย โดยให้ส่งรายชื่อให้ ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ภายในวันที่ 19 ก.พ. เพื่อจะได้ดำเนินการออกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการต่อไป"

                สภ.ห้วยโป่ง มีพื้นที่รับผิดชอบ 6.7 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน มีประชากรกว่า 8,000 คน และเป็นพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน  เดิมทีมีกำลังพล 10 นาย ทั้งที่ตามกรอบอัตรากำลังจะต้องมีกำลังพลประจำสถานีตำรวจ 34 นาย ภายหลังการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง สว.-ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2562

                เหลือกำลังพลเพียง 3 นาย คือ สารวัตรหัวหน้าสถานี และรอง สวป. 2 นาย!!!

                เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว "อึ้ง!"

                เกิดอะไรขึ้นกับการบริหารงานภายใน "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ถึงขนาดปล่อยให้โรงพักเหลือตำรวจแค่ 3 นายเท่านั้น

                แม้ รองโฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ บอก สภ.ห้วยโป่ง เป็นสถานีตำรวจที่มีระดับสารวัตรเป็นหัวหน้าสถานี มีพื้นที่รับผิดชอบกว่า 400 ไร่ ไม่เยอะเท่าไหร่ คดีที่เกิดขึ้นทั้งปี คดีอาญา  คดีจราจร ประมาณ 10 กว่าคดีแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 7-8 นายก็สามารถเอาอยู่ มีสายตรวจและสายสืบสวนประจำอยู่แล้ว

                ครับ...ถ้ามองตามตรรกะ รองโฆษก ตร. ขอบเขตความรับผิดชอบกว่า 400 ไร่ คดีเกิดขึ้นต่อปี 10  กว่าคดี กำลังตำรวจ 7-8 นายก็น่าจะเพียงพอ

                แต่...ประเด็นที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์ตอนนี้ คือ เหตุใดถึงปล่อยให้โรงพักห้วยโป่งเหลือตำรวจเพียงแค่ 3 นายได้อย่างไร

                ทั้งที่เพิ่งผ่านพ้นการแต่งตั้งตำรวจระดับ รอง สว.-ชั้นประทวน วาระประจำปี 2562 ไปไม่กี่วัน แสดงว่าในช่วงการแต่งตั้ง ผู้ที่เสนอชื่อ ผู้มีอำนาจในการแต่งตั้ง ไม่ได้ลงมาดูรายละเอียดความเดือดร้อน  ความจำเป็นของแต่ละโรงพักเลยอย่างนั้นหรือ ถึงเกิดเหตุเช่นนี้ ถึงขนาดต้องมาร้องขอกำลังจากโรงพักอื่นไปอยู่ จนเกิดเสียงวิจารณ์กันกระหึ่ม

                ผบ.แป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถึงจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องบู๊ล้างผลาญ แต่ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยการบริหารงานภายในเช่นนี้

                เพราะไม่แน่นอกจากโรงพัก "ห้วยโป่ง" แล้ว ก็อาจมีโรงพักอื่นเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่เป็นข่าวเท่านั้น.