มูลนิธิรามาฯ ชวนคนไทยช่วยจัดหา"ชุดอุปกรณ์สอนกู้ชีพ"ทำCPR ถูกวิธีช่วยชีวิตคน


เพิ่มเพื่อน    

 

20ก.พ.63-สืบเนื่องจาก คนไทยเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน  กว่า 54,000 คน  เฉลี่ยคือ 6 คนต่อ 1 ชั่วโมง นับเป็นอัตราที่สูง ขณะที่หัวใจหยุดเต้น มีเวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้นในการปั้มหัวใจช่วยชีวิตผู้ป่วยก่อนที่สมองจะขาดออกซิเจน การทำ CPR (Cardiopulmonary resuscitation) หรือการปั๊มหัวใจเบื้องต้น จึงถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงขาดความรู้และทักษะในการปฏิบัติ ด้วยปัจจัยหลักอย่าง ชุดอุปกรณ์สอนกู้ชีพ ที่ไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้  ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จัดทำ “โครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานจิตอาสา CPR เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” ผลักดันหลักสูตรอบรม CPR ช่วยชีวิต ทั่วประเทศ หวังสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าจัดซื้อชุดอุปกรณ์สอนกู้ชีพ ส่งมอบให้แก่หน่วยงานจิตอาสาส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,000 ชุด มูลค่าชุดละ 15,000 บาท รวมมูลค่า 45 ล้านบาท 


    พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งโครงการฯ นี้ เป็นการน้อมนำพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทานมาเป็นแนวทางดำเนินโครงการ เพราะการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน นับเป็นสิ่งจำเป็น และเมื่อปีที่แล้ว ทางกระทรวงมหาดไทยก็ได้ร่วมกับภาคเอกชนฝึกอบรมหลักสูตรวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิต ทำให้สามารถพัฒนาวิทยากรอาสาสมัคร (Instructor) จำนวน 476 คน และผู้ช่วยวิทยากร (Provider) จำนวน 1,620 คน นับว่าได้ทำให้ประเทศไทย  มีบุคลากรที่มีองค์ความรู้ และทักษะ พร้อมให้การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน และสามารถนำองค์ความรู้ไปขยายผล    สู่ประชาชนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อจำกัดในด้านอุปกรณ์สำหรับการสอนช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานที่มีมาตรฐาน ซึ่งก็หวังว่าโครงการนี้จะขับเคลื่อนได้อย่างมีประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป

ด้าน ศ. นพ. ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า ตระหนักถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้ โดยในการระดมทุนจัดซื้อชุดอุปกรณ์การสอนช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานจะ ประกอบด้วย หุ่นฝึกการช่วยชีวิต ครบทั้งขนาดหุ่นผู้ใหญ่ หุ่นเด็ก หุ่นทารก, เครื่อง  AED trainer และอุปกรณ์สอนการช่วยผู้ที่สำลัก ส่งมอบให้แก่หน่วยงานจิตอาสาส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,000 ชุด เพื่อสนับสนุนการฝึกอบรม CPR ในส่วนภูมิภาค หวังให้ประชาชนได้รับความรู้ในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานอย่างถูกวิธี ทางมูลนิธิจึงต้องอาศัยการสนับสนุนจากประชาชนชาวไทยที่มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเพื่อบรรลุเป้าหมาย

พล.ต.ต.นพ.โสภณ กฤษณะรังสรรค์

พล.ต.ต.นพ.โสภณ กฤษณะรังสรรค์ ประธานมูลนิธิสอนช่วยชีวิตและที่ปรึกษาคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระยรมราชูปถัมภ์ กล่าวเสริมว่า  ในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่ประชาชนทั่วไปจะต้องรับรู้คือ 1.การประเมินผู้ป่วย เพราะสมองขาดเลือดได้แค่ 4 นาที 2.โทรขอความช่วยเหลือ 1669 3. การทำCPR โดยการกดหน้าอกสลับกับการเป่าปากช่วยหายใจ 4.การใช้การใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED)  และ5.การรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงเห็นว่าผู้คนที่อยู่รอบข้างผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นส่วนสำคัญในการชีวิต แต่ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในการปฏิบัติ เป็นเพียงการรับรู้เพียงผิวเผินเท่านั้น  ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับว่าไม่มีจังหวัดในไทยที่มีชุดอุปกรณ์สอนพร้อม จึงทำให้ประชาชนยังขาดองค์ความรู้และการปฏิบัติ ซึ่งจะมีพร้อมในโรงเรียนแพทย์ แต่หากต้องทำการสอนนอกพื้นที่จะมีอุปกรณ์การสอนเพียง 1-2 ชุด ซึ่งในการสอนอย่างประสิทธิภาพตามมาตรฐาน ผู้เรียน 3 คนต้องมีอุปกรณ์ 1 ชุด 

เครื่องAED


"หากได้รับการจัดซื้ออุปกรณ์ทั้ง 3,000 ชุด ทุกจังหวัดจะมีอุปกรณ์จังหวัดละ 30 ชุด  จะทำให้มีบุคคลากรได้รับการสอนถึง 90 คนต่อรุ่น  จากก่อนหน้านี้ที่ต้องนำเข้าชุดอุปกรณ์สอน  ตอนนี้ในไทยก็สามาถผลิตเองได้โดยภาคีเครือข่าย ทั้งหุ่นผู้ใหญ่ เด็ก ทารก หากไม่ชำรุดก็สามารถใช้งานได้ถึง 10 ปี และเครื่องAED (สำหรับใช้ในการสอนเท่านั้น) ที่ปัจจุบันมีเพียง 70 เครื่อง ทั้งชุดซื้อได้ในราคา 15,000 บาท นับว่าถูกมาก แต่ด้วยข้อจำกัดต่างๆก็ยังจัดซื้อไม่เพียงพอทั่วประเทศ สำหรับผู้สอนบุคลากรทางการแพทย์ถือว่าเป็นครู และบุคลากรของทางกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ 600 คน และผู้ช่วยสอนอีกกว่า 1,600 คน ดังนั้นเมื่อกำลังคนพร้อม อุปกรณ์พร้อมก็จะสามารถผลิตผู้ช่วยผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น "ประธานมูลนิธิสอนช่วยชีวิตฯกล่าว

 

 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ศิลปินจิตอาสา บอกว่า ในนามอาสาสมัคร ที่ได้ทำงานด้านสังคมมากว่า 30 ปี เจอความเป็นตายมามาก จากที่เมื่อก่อนไม่มีความรู้เรื่องการทำ CPR หรือ ใช้เครื่อง AED พอได้มีโอกาสในเข้าอบรมในหลักสูตรการช่วยชีวิตเบื้องต้น ทำให้เข้าใจว่าภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันไม่ใช่เรื่องไกลตัว ความเป็นความตายบางครั้งก็ห่างกันเพียงเสี้ยวนาที ดังนั้นการช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นก่อน ที่ผู้ป่วยจะถึงมือแพทย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเราไม่มีทางนิ่งนอนใจได้หรอกว่า คนที่เรารัก คนรอบข้าง คนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง จะไม่ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินเช่นนั้น จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญและต้องการผลักดันให้เกิดการให้ความรู้ และจัดฝึกอบรมการทำ CPR  ให้ประชาชนทั่วประเทศอย่างทั่วถึง

บรรยากาศการสอนช่วยชีวิต

 

 

    อย่างไรก็ตามผู้สนใจสามารถร่วมสนับสนุนชุดอุปกรณ์สอนกู้ชีพได้ที่ ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 026-3-05216-3, ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 090-3-50015-5 บริจาคออนไลน์ www.ramafoundation.or.th สอบถามโทร. 0-2201-1111

การสอนทำCPR ช่วยชีวิตเด็ก

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"